• อส.เมืองเพชรพร้อมลูกชาย รุมยำหนุ่ม20 คาผับดัง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 14 ก.พ. 51 เวลา 14:54:02 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อส.เมืองเพชร-ลูกชาย รุมยำหนุ่ม20 คาผับดัง
อส.เมืองเพชร บีบคอบังคับตรวจฉี่วัยรุ่นในสถานบันเทิง จนเกิดโต้เถียงรุนแรง เดือดร้อนเพื่อน อส.ต้องเข้าห้าม ลูกชาย อส.สุดซ่า พาพวกรุมยำซ้ำ ผู้เป็นพ่อเห็นกระโดดเข้าร่วมวง ใช้ไฟฉายตีหน้าปูด ไม่หนำใจคว้าเอ็ม 16 หมายยิงซ้ำ โชคดีเพื่อนห้ามทัน ผู้ว่าฯ เต้น สั่งสอบผิดรุนแรงถึงขั้นไล่ออก
เหตุอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ทำร้ายร้างกายครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ คณะทำงานจัดระเบียบสังคมจังหวัดเพชรบุรี เข้าตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงโนฮาร์มผับ ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเคเบิลคาร์ หลังเขาวัง อ.เมือง
พบนักเที่ยวกว่า 100 คน ทุกคนต่างให้ความร่วมมือในการสุ่มตรวจปัสสาวะ ระหว่างนั้นได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น เมื่อ นายกฤษดา ทองเนื้อนุ่ม อายุ 42 ปี อส.จังหวัดเพชรบุรี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 12 ต.หัวสะพาน อ.เมือง แต่งเครื่องแบบลายพรางสีน้ำตาลอ่อน
เดินตรงไปที่ นายสมเกียรติ ทองคล้ำ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 3 ต.หัวสะพาน หนึ่งในนักเที่ยวที่อยู่ในสถานบันเทิงดังกล่าว แล้วใช้มือบีบคอนายสมเกียรติ เพื่อนำตัวไปสุ่มตรวจปัสสาวะ
นายสมเกียรติจึงพูดว่า ยินยอมตรวจแต่โดยดี แต่ขอให้ปล่อยมือที่บีบคอ แต่นายกฤษดากลับกระชากคอเสื้อนายสมเกียรติและผลักให้เดินอย่างรุนแรง นายสมเกียรติขอร้องให้ปล่อยคอเสื้อ พร้อมกล่าวว่า พูดจากันดีๆ ก็ได้ แค่ขอตรวจปัสสาวะไม่น่าจะทำรุนแรงขนาดนี้
จากนั้นนายกฤษดากล่าวหาว่านายสมเกียรติใช้คำพูดกวนโมโห พร้อมกระชากคอเสื้อนายสมเกียรติจนสร้อยเงินขาด และผลักไปกระแทกเสาอาคาร พร้อมเงื้อมือขวาที่กำไฟฉายเหล็กสีดำยาว 1 ฟุต ลักษณะข่มขู่จะฟาดศีรษะ
ทำให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์หลายสิบคนต้องตะโกนห้าม และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุ กลุ่ม อส.และชุดทำงานจัดระเบียบสังคมจึงเข้าไปห้ามและแยกทั้งสองออกจากกัน โดยให้นายกฤษดาไปสงบสติอารมณ์ที่ด้านนอก และให้นายสมเกียรติกลับไปที่โต๊ะที่นั่งอยู่
ต่อมาประมาณ 15 นาที มีชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ทราบชื่อต่อมา คือ นายเหน่ง (ไม่ทราบชื่อจริง) เดินเข้ามาหานายสมเกียรติที่โต๊ะ และชวนออกไปสงบสติอารมณ์นอกร้าน
เมื่อนายสมเกียรติ เดินพ้นบริเวณร้าน นายเหน่งถามว่า รู้หรือไม่ว่า อส.ที่มีปากเสียงด้วยเป็นพ่อของตน จากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่น 5-6 คน เข้ามารุมชกนายสมเกียรติ นายกฤษดาที่เดินอยู่บริเวณใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์จึงวิ่งเข้าไปล็อกคอนายสมเกียรติแล้วชกต่อย
พร้อมใช้ไฟฉายตีที่หน้าและศีรษะจนนายสมเกียรติล้มลง นายกฤษดาได้ใช้ไฟฉายตีซ้ำจนหัวแตก กลุ่ม อส.และชุดทำงานจัดระเบียบสังคมจึงรีบเข้าห้ามและนำนายสมเกียรติออกจากจุดเกิดเหตุ
ขณะเกิดการชุลมุนอยู่นั้น นายกฤษดาได้วิ่งไปหยิบปืนเอ็ม 16 พร้อมกับขึ้นลำจะยิงนายสมเกียรติ แต่กลุ่มเจ้าหน้าที่ อส.เข้าแย่งปืนไว้ได้ จากนั้นนายเหน่งและเพื่อนๆ ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าผู้สื่อข่าวหลายแขนงและมีพยานบุคคลรู้เห็นการกระทำของนายกฤษดา
หลังเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่นาน ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบุรี ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ นายสมเกียรติได้วิ่งเข้าไปขอความช่วยเหลือ ขณะที่นายกฤษดาวิ่งขึ้นไปหลบรถตู้ของคณะทำงานจัดระเบียบสังคมและพยายามขับรถหลบหนี
แต่นายสมเกียรติไปยืนขวางไว้และตะโกนขอความเป็นธรรมต่อตำรวจว่า ถูก อส.ทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ไม่มีความผิด จากนั้นตำรวจได้ให้คู่กรณีทั้ง 2 คน ไปที่ สภ.เมืองเพชรบุรี เพื่อแจ้งความต่อ พ.ต.ท.หาญ แก้ววิชิต สารวัตรเวร
โดยนายสมเกียรติยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จากนั้นจึงไปทำแผลที่โรงพยาบาลเพชรรัชต์ และถูกกลุ่มของนายเหน่งขี่รถจักรยานยนต์ตามไป พร้อมใช้ขวดเบียร์ขว้างใส่กลุ่มเพื่อนของนายสมเกียรติ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายสมเกียรติได้เอกซเรย์ร่างกายที่โรงพยาบาลเพชรรัชต์อีกครั้ง ผลไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง มีเพียงศีรษะแตกเย็บ 3 เข็ม เบ้าตาขวาแดงช้ำ ใบหน้าบวม ตามร่างกายมีแผลถลอกและรอยช้ำ แพทย์ให้ยาและอนุญาตให้กลับบ้านได้
นายสมเกียรติ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวถือว่าทำเกินกว่าเหตุ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้ถึงที่สุด ที่สำคัญตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดใดๆ ทั้งสิ้น
และนึกไม่ถึงว่านายกฤษดาจะมีพฤติกรรมร่วมกับลูกชายและพรรคพวก กระทำอย่างรุนแรงอย่างนี้ หากพูดกันดีๆ ขอตรวจหาสารเสพติดตนก็ยินดี แต่นี้ถือว่ามีอำนาจหน้าที่กลับมารุมร้ายประชาชน มันไม่ถูกต้อง
นางหลง ทองคล้ำ แม่ของนายสมเกียรติ กล่าวว่า ความจริงคนก่อเหตุอายุก็รุ่นพ่อ และก็มีลูกชายเช่นกัน ไม่น่าทำกับเด็กรุนแรงขนาดนี้ หากลูกตัวเองถูกทำร้ายเช่นนี้จะรู้สึกอย่างไร
แม้ว่าตนจะเป็นคนจนไม่มีพรรคมีพวก และอีกฝ่ายมีนายเป็นข้าราชการใหญ่ในพื้นที่ แต่เมื่อลูกชายถูกรุมทำร้ายอย่างนี้ก็ขอต่อสู้อย่างถึงที่สุด อีกทั้งกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุเป็นลูกชายของนายกฤษดา ซึ่งเป็นทหารเกณฑ์อยู่ในจังหวัดทหารบกเพชรบุรี แต่ทำไมถึงออกมาเที่ยวในเวลากลางคืนได้ และมารุมทำร้ายลูกชายตน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน นายนิรันดร์ สมสมาน ปลัดจังหวัดเพชรบุรี ได้เรียกนายกฤษดาไปสอบถาม และรายงานเหตุการณ์ให้ นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าฯ เพชรบุรี ทราบ จากนั้นนายสยุมพรได้ประสานขอดูเทปจากผู้สื่อข่าวทีวี ที่บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุไว้
นายสยุมพร กล่าวว่า หลังดูภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เบื้องต้นได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน เพื่อพิจารณาโทษ หากพิจารณาแล้วมีความผิดสร้างความเสียหายให้แก่ทางราชการ มีความผิดถึงขั้นไล่ออก
โดยจะเรียกสอบคู่กรณีและพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบสวน พร้อมยืนยันจะไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ผิดก็จะว่ากันไปตามผิด แต่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ที่มาจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1647 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 14 ก.พ. 51
เวลา 14:54:02
|