กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (8 เม.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลงนามสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 71/2551 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีมีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาว่าได้กระทำผิดวินัยร้ายแรงหลายกรณี ดังนี้ กรณีโครงการทุจริตโครงการรับซื้อลำไย ปี 2547 โดยนำเงินงบประมาณไปใช้จัดทำเอกสารอันเป็นเท็จ โดยใช้ชื่อ และปลอมลายมือชื่อ ในการเบิกเงินค่าใช้จ่ายการเดินทางไปราชการ, กรณีกล่าวหาว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจ ขนาด 200 ซีซี จำนวนกว่า 19,000 คัน ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์,
|
|
เด้งที่2 เจอข้อหาบุกรุกแม่น้ำแควน้อย และเด้ง3เจอกล่าวหาใช้เฮลิคอปเตอร์ราชการไปผักผ่อน
กรณีกล่าวหาว่ารีสอร์ท ภูไพร ธารน้ำ จ.กาญจนบุรี ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี บุกรุกที่ดินของแม่น้ำแควน้อย และกรณีกล่าวหาว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ใช้เฮลิคอปเตอร์ของทางราชการ เดินทางไปพักผ่อนที่รีสอร์ทภูไพร ธารน้ำ ในวันหยุดราชการ |
|
นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 73/2551 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออก จากราชการไว้ก่อน
โดยระบุว่า ด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ข้าราชการตำรวจประจำการ ตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรับเงินเดือนระดับ ส.9 ขั้น 10 (66,480 บาท) มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ดังนี้ 1.ดำเนินโครงการเช่ารถยนต์บรรทุกขนาด 1 ตัน แบบดับเบิ้ลแคป จำนวน 2,894คัน โครงการเช่ารถตู้โดยสาร (เบนซิน) ใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ขนาด15 ที่นั่ง จำนวน 1,447 คัน โครงการเช่ารถยนต์บรรทุกอเนกประสงค์ขนาด 3ตัน ขนาด 24 ที่นั่ง จำนวน 270 คัน และรถยนต์บรรทุกขนาด 3 ตันพร้อมติดตั้งอุปกรณ์กวาดเรือใบ เครนยก จำนวน 51 คันและโครงการเช่ารถยนต์บรรทุก (ขนาด 1 ตัน) แบบมีช่องว่างด้านหลังคนขับ จำนวน1,555 คัน ซึ่งใช้งบประมาณรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9,899,578,200 บาทโดยมีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริตและเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ซึ่งทำให้ทางราชการเสียหายตลอดจนเป็นการเอื้อประโยชน์แก่บริษัทผู้ให้เช่ารถยนต์ อันถือได้ว่าเป็นการกระทำการหรือไม่กระทำการใดๆอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรงและเป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ 2. สั่งการโดยใช้ถ้อยคำที่มิบังควรและไม่เหมาะสมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานในบันทึกของกองสวัสดิการที่เสนอขอให้พิจารณางดการแข่งขันกีฬาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติประจำปี2551 ที่จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 21-28 มี.ค.2551เนื่องจากผู้เสนอเห็นว่าในช่วงระยะเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างการไว้ทุกข์ตามมติ ครม. หากจัดการแข่งขันกีฬาภายในจะเป็นการไม่บังควร 3. ดำเนินการบริหารงานบุคคลโดยออกคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับพันตำรวจเอก ตำแหน่งผู้กำกับการฝ่ายปฏิบัติการที่ 1-10 ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ในกองบังคับการต่างๆ โดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการทำให้ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ดังกล่าวไม่มีกฎหมายรองรับตำแหน่ง จึงไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ในการแบ่งส่วนราชการของกองบังคับการต่างๆ และกรณีดังกล่าวเป็นเหตุทำให้ราชการต้องเสียงบประมาณสำหรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งโดยยังไม่มีการดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนตามกฎหมายเสียก่อนแต่อย่างใด จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีลับมากที่ 34/2551 ลงวันที่ 29 ก.พ. 2551 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ลับมากที่ 45/2551 ลงวันที่ 13 มี.ค.2551 แล้ว และมีเหตุให้พักราชการได้ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนพ.ศ.2547 ข้อ 3(1) และ (2) คือถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการหรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ์อันไม่น่าไว้วางใจหากให้คงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดการเสียหายแก่ราชการและจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณาหรือจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นและได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวนพิจารณาที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อนเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิอุทธรณ์ต่อ ก.ตร. ได้ตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90วันนับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ |
|
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|