ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จาก กรณีที่นักการเมืองที่มีประสบการณ์สูงได้คาดการณ์ว่ารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะมีอายุสั้น รวมทั้งคนในรัฐบาลออกมาระบุว่า ถ้าทหารไม่เข้ามาแทรกแซง รัฐบาลก็จะอยู่ได้นั้น เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีได้ออกมายืนยันว่ารัฐบาลจะมีอายุสั้น หรือยาวอยู่ที่ผลงานของรัฐบาล
“อภิสิทธิ์” ไม่ห่วงเสื้อแดงป่วน
เมื่อ วันที่ 25 ธ.ค. เวลา 08.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. ระบุว่าจะมีเหตุวุ่นวายเกิดขึ้นจากกลุ่มเสื้อแดงในวันแถลงนโยบายรัฐบาลในวัน ที่ 29 ธ.ค. ว่า ไม่เป็นห่วง เพราะได้ดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆอย่างใกล้ชิด ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นบ้านเมืองสงบและเดินไปข้างหน้าซึ่งเจ้า หน้าที่จะทำให้ดีที่สุด ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานสถานการณ์ทุก 6 ชั่วโมงเป็นมาตรการที่เข้มแข็งพอหรือยัง นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เราสามารถประเมินสถานการณ์ได้เป็นระยะและดูว่าจะต้องมีการปรับปรุงการ ปฏิบัติงานอย่างไร เมื่อถามว่า สถานการณ์วันที่ 29 ธ.ค. จะผ่านไปได้ราบรื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า น่าจะผ่านไปได้ เพราะเราได้ติดตามสถานการณ์อยู่ ใครที่ยังติดใจและต้องการแสดงออกสามารถทำได้ในกรอบของรัฐธรรมนูญโดยสงบ
พลิ้วไม่กำหนดตายตัวยุบสภา
เมื่อถามว่า กรณีที่นายกฯให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าว CNN ว่า ถ้าคลี่คลายวิกฤติแล้วจะยุบสภา นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตนถูกสอบถามการทำงานและการตัดสินใจทาง การเมืองเป็นอย่างไร จึงชี้แจงว่าเป็นเรื่องปกติของรัฐสภาไม่สามารถตอบได้ว่ารัฐบาลจะมีอายุแน่ นอน เพราะไม่มีระบบตายตัวภารกิจเบื้องต้นของรัฐบาลคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจและความ สงบในบ้านเมือง เมื่อทำตรงนี้เสร็จแล้วต้องพิจารณาอีกทีว่าต้องดำเนินการอย่างไร คงไม่มีประโยชน์ที่จะไปกำหนดอายุเป็นวัน สัปดาห์ เดือนหรือปี แต่จะดูตามความเหมาะสม ไม่ควรขีดเส้นล่วงหน้า ต้องดูสถานการณ์ตามความเป็นจริง เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ เช่น การปฏิรูปการเมือง ต้องดูหลายปัจจัยประกอบกัน
ชี้อายุรัฐบาลขึ้นอยู่กับผลงาน
เมื่อ ถามว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ระบุว่าภายใน 2 เดือนจะรู้ว่ารัฐบาลจะอยู่หรือไป นายอภิสิทธิ์ตอบว่าเป็นการประเมินที่สอดคล้องกับสภาพบ้านเมือง ถ้าเราไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นทำให้ประเทศเดินหน้าได้ จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ตนจึงย้ำกับรัฐมนตรีว่าต้องทำงานแข่งกับเวลา ทุ่มเทให้มากที่สุด เมื่อถามว่าหลายคนเป็นห่วงว่าการบริหารจัดการบุคคลเป็นสิ่งสำคัญว่ารัฐนาวา จะล่มหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เรื่องนี้ไม่พูดกันแล้วเพราะแต่ละพรรคจะต้องไปบริหารจัดการภายใน ปัจจัยสำคัญที่สุดต่อเสถียรภาพรัฐบาลขณะนี้คือการทำงานแก้ปัญหาประชาชนได้ หรือไม่ เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าก่อนจะคืนอำนาจให้ประชาชนจะปฏิรูปการเมืองหรือแก้รัฐ ธรรมนูญ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า เราจะเดินหน้ากระบวนการปฏิรูปการเมือง แต่รัฐบาลไม่ได้กำหนดธงล่วงหน้า เพราะต้องเอาคนที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายเข้ามาทำงานโดยอิสระ อาจจะมีข้อเสนอที่เกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ไม่อาจตอบล่วงหน้าได้ เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งซ่อมอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของจำนวนเสียงของรัฐบาล จะปริ่มน้ำหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า อยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้
ไม่ใช่ประชานิยมแต่กระตุ้น ศก.
เมื่อ ถามว่า มีความเป็นห่วงจาก นพ.ประเวศ วะสี ระบุว่าประชานิยมถ้าไม่สร้างสรรค์จะเป็นยาเสพติดให้กับประชาชน นายอภิสิทธิ์ตอบว่า วันนี้สิ่งที่ทั่วโลกทำเหมือนกันเขาไม่เรียกประชานิยม แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีความจำเป็น เพราะถ้าไม่สามารถรักษากำลังซื้อของประชาชนได้ เศรษฐกิจจะถดถอยและซบเซาอย่างรุนแรง ต้องแยกออกจากแนวคิดใช้นโยบายในลักษณะหาเสียง หรือเพื่อความสะดวกทางการเมือง อเมริกา จีน ญี่ปุ่นก็ทำ ส่วนการใช้เงินต้องมีเป้าหมาย ไม่ใช่เป็นเงินที่ปล่อยไปแล้วไม่สร้างสรรค์อะไร โครงการเรียนฟรีไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นประชานิยม เพราะเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เงินที่นำไปใช้ในชุมชนเป็นไปตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มั่นใจว่าไม่ต้องการให้ประชาชนเสพติดกับสิ่งเหล่านี้ แต่บังเอิญไทยอยู่ในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าเทียบเคียงโครงการที่ทำกับโครงการที่มักจะมีการรั่วไหลและการกระจุกตัว เมื่อเทียบแล้วเราต้องสามารถกระจายกำลังซื้อได้มากที่สุด ยกเว้นบางโครงการที่เป็นประโยชน์ ในแง่โครงสร้างพื้นฐาน ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีผลตอบแทนกลับมา ไม่ใช่เงินที่หายไป
โหมแจงสื่อเทศฟื้นความเชื่อมั่น
เมื่อ ถามว่า การนัดให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศบ่อยครั้งในช่วงนี้มีความสำคัญอย่างไร เป็นพิเศษ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องอธิบายสถานการณ์ ต่างๆให้สื่อต่างประเทศรับทราบ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและถือเป็นธรรมเนียม คิดว่าความสนใจของต่างประเทศต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของเราในปีนี้มีมาก ตนจึงต้องการสื่อให้รู้ว่าความตั้งใจของตนมีความเปลี่ยนแปลงหรือพลิก สถานการณ์อย่างไร
เผย “ชวน” ห่วงปัญหาคนตกงาน
ต่อ มาเวลา 12.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ โดยใช้เวลาหารือกว่า 20 นาที โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวภายหลังเข้าพบนายชวนว่า ได้พูดคุยในหลายเรื่อง แต่ ไม่ได้หารือเรื่องการเมือง สิ่งที่นายชวนรู้สึกเป็นห่วง คือ เรื่องเศรษฐกิจ และปัญหาแรงงานที่มีการประท้วง ผู้สื่อข่าวถามว่า คนจะตกงานจำนวนมากนอกเหนือจากเงินช่วยเหลือแล้วจะมีมาตรการอื่นๆรองรับอีก หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ในนโยบายและงบประมาณกลางปีจะมีโครงการที่ชัดเจนในส่วนที่จะช่วยชะลอการเลิก จ้างงาน ส่วนมาตรการรองรับคนว่างงานนั้น หลังการแถลงนโยบายจะสามารถใช้มาตรการเหล่านี้ได้ทันที โดยรัฐบาล จะเดินหน้าให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องเร่งด่วน
ไม่ใช้เมกะโปรเจกต์กระตุ้น ศก.
วัน เดียวกัน เมื่อเวลา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หารือกับคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) เพื่อรับฟังข้อเสนอแนะเพื่อประกอบการจัดทำนโยบายของรัฐบาล โดยนายอภิสิทธิ์ระบุว่า รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการลงทุนในโครงการ ขนาดกลางและขนาดเล็กมากกว่าโครงการขนาดใหญ่ เพราะเชื่อว่าจะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ดีมากกว่า เนื่องจากใช้ระยะเวลาสั้นกว่าโครงการเมกะโปรเจกต์ที่ต้องใช้เวลานานและกว่า จะผ่านขั้นตอนทางกฎหมายยังต้องใช้เวลามาก อาจจะช้าเกินไปและไม่สะท้อนกับภาวะความต้องการทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริงใน ขณะนั้นได้ อย่างไรก็ตาม โครงการเมกะโปรเจกต์บางอย่างมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ เช่น โครงการขนส่งระบบราง เนื่องจากเป็นส่วนช่วยส่งเสริมการลดใช้พลังงานได้
ย้ำไม่เห็นด้วยหวยออนไลน์
นาย อภิสิทธิ์ยังรับข้อเสนอเครือข่ายคณะทำงานด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัวที่ไม่เห็นด้วยกับการจำหน่ายสลากเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัว ผ่านเครื่องอัตโนมัติ หรือหวยออนไลน์ว่า ส่วนตัวมองว่าหากไม่มีก็ดีอยู่แล้ว เรื่อง ดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังข้อมูลจากเครือข่ายองค์กรเด็กเยาวชนและครอบ ครัว ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ถ้าจะมีก็ต้องไม่ให้มีการส่งเสริมจะต้องไม่มีการประชาสัมพันธ์ ในลักษณะที่ว่ามีสิ่งนี้แล้วจะนำรายได้ไปช่วยส่งเสริมการศึกษา หรือการอ้างว่าเล่นการพนันเพื่อทำบุญ
“เรื่อง หวยบนดิน ผมไม่เคยสนับสนุนหลักคิดที่ว่าอะไรผิดกฎหมายปราบไม่ได้ แล้วต้องเอาขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย ผมไม่ยอมรับ เห็นว่าการพนันและอบายมุข ยกตัวอย่างกาสิโนมันได้ไม่คุ้มเสีย ผมไม่เห็นเมืองไหนโตมาด้วยกาสิโนแล้วไม่เสื่อม ปัญหาตามมาเยอะทั้งฟอกเงิน สังคมเสื่อม อย่างไรก็ตาม หลังระงับเรื่องนี้ก็มีการไปฟ้องร้องแล้วรัฐบาลแพ้คือระงับไม่ได้ มีการไปเจรจาและเท่าที่ทราบรัฐบาลจะต้องเสียค่าปรับหลายพันล้าน และเท่าที่ทราบรัฐบาลเก่าจะให้โครงการเดินต่อ แต่เมื่อถามไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ยังไม่มีใครตอบเรื่องนี้ชัดเจน ตรงนี้ก็ต้องไปดูว่าถ้าไม่เดินหน้าต่อรัฐบาลจะต้องเสียค่าปรับหรือไม่” นายกฯกล่าว
คาด 2 เดือนสรุปเหตุการณ์ 7 ต.ค.
นาย อภิสิทธิ์กล่าวว่า ได้รับผลสอบกรณีเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. จากคณะกรรมการชุดนายปรีชา พานิชวงศ์ เป็นประธาน ที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งขึ้นแล้ว โดยคณะกรรมการชุดดังกล่าวระบุว่าขอยุติการทำงาน เพราะไม่ได้รับความร่วมมือ อย่างไรก็ตาม มีคณะกรรมการที่สอบเรื่องดังกล่าวหลายชุดก็จะขอไปดูทั้งหมดว่าเรื่องอยู่ตรง ไหนอย่างไร คงไม่ไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ เพราะจะถูกมองว่าซื้อเวลา โดยจะให้ทางตำรวจ อัยการ หรือศาล เห็นภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่มองเฉพาะจุดแล้วกลายเป็นความอยุติธรรมในภาพรวม
“ยืน ยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และคาดว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ภายใน 1-2 เดือน การให้ความเป็นธรรมที่ดีที่สุดคือการหลับตาแล้วไม่ดูชื่อ ซึ่งหลังจากแถลงนโยบายแล้วคงจะต้องมาดูว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”
ยายเนียมปลื้มจดหมายนายกฯ
วัน เดียวกัน ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าเยี่ยมอาการป่วยของยายเนียม พันธ์มณี ซึ่งนอนพักรักษาอาการความดันสูง พร้อมนำจดหมาย และรูปถ่ายระหว่างยายเนียมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ถ่ายไว้เมื่อครั้งมาหาเสียงช่วยลูกพรรคก่อนเข้ารับตำแหน่งมามอบให้ โดยข้อความในจดหมายระบุว่า “ผม ได้ทราบว่าท่าน รมต.วิฑูรย์ นามบุตร ซึ่งเป็นผู้แทนของอุบลราชธานีหลายสมัย ได้มีโอกาสมาเยี่ยมคุณยายที่โรงพยาบาล ผมจึงขอโอกาสนี้อวยพรให้คุณยายหายป่วยและมีสุขภาพแข็งแรง ผมยังระลึกถึงคุณยายเสมอ ดังที่ผมได้บอกกับพี่น้องทั้งประเทศ ในวันที่ผมได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมคุณยายต่อไป ด้วยความคิดถึง” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
หลัง ยายเนียมทราบเนื้อความในจดหมายก็ปลาบปลื้มดีใจเป็นอย่างมาก พร้อมกล่าวว่า ท่านนายกฯยังให้ความห่วงใยและระลึกถึงเสมอ จะเก็บจดหมายฉบับนี้พร้อมรูปที่ได้มาไว้ติดตัวตลอดเวลา ก่อนที่นายวิฑูรย์จะเดินทางกลับยายเนียมยังได้ฝากจดหมายและข้าวเหนียวไปให้ นายกรัฐมนตรีด้วย
ที่มา ไทยรัฐ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|