กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ทุ่งสง/คอน..บ้านหลวงมวล//:: พนักงาน X-ray รพ.ทุ่งสง จ.นครศรี หื่นจัด! ข่มขื่นยายวัย 70 ปี คาดไม่ใช่รายแรก รายละเอียด>>> เหตุพนักงาน X-ray คอมพิวเตอร์โรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ข่มขืนคนไข้หญิงชราอายุ 70 ปี ขณะที่ผู้อำนวยการระบุเป็นพักงานของบริษัทเอกชนที่เข้ามารับเหมาช่วงงาน คาดไม่ได้เป็นรายแรกวอนเหยื่อที่เคยถูกกระทำเข้าร้องเรียนพร้อมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ด้านพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีระบุร้องขอศาลขออนุมัติหมายจับแล้ว วันนี้(26 ก.ค.2557) ที่โรงพยาบาลทุ่งสง(ใหม่) อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากญาติของผู้เสียหายว่ามีหญิงชราอายุ 70 ปี ถูกพนักงานประจำห้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลก่อเหตุข่มขืนแต่คดีกลับมีความล่าช้า และผู้เสียหายต้องการให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกสู่สังคมให้มีบทเรียนที่ต้องระมัดระวัง หลังจากนั้นจึงเข้าทำการตรวจสอบพบว่าผู้เสียหายรายนี้พักอยู่ในห้องพักผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล และพบว่าผู้เสียหายอยู่ในระหว่าง ร.ต.อ.หญิง ทัศน์มน สงฆ์แก้ว พนักงานสอบสวนคดีทางเพศที่ผู้เสียหายเป็นหญิง สถานีตำรวจภูธรทุ่งสง โดยทำการสอบสวนผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงชราอายุ 70 ปี ที่กำลังพักอยู่บนเตียงผู้ป่วย ต่อหน้านายแพทย์จรัส จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เข้ามาอำนวยความสะดวกในการสอบสวน สืบเนื่องจากผู้เสียหายรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่ประจำห้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเอ็กซเรย์แบบซีทีสแกน ได้ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายรายนี้หลังจากที่แพทย์ได้สั่งให้มีการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ตรวจช่องท้องที่มีอาการปวดเรื้อรัง ขณะที่ผู้เสียหายให้การว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ห้องเอ็กซเรย์ฉีดยาในท่อน้ำเกลือ 1 เข็ม และช่องคลอด 1 เข็ม หลังจากนั้นได้ใช้เจลสวนเข้าไปในช่องคลอดก่อนที่จะปิดตาและก่อเหตุข่มขืนโดยที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เนื่องจากอยู่ในสภาพไม่สามารถช่วยตัวเองได้ หลังจากนั้นได้บอกบุตรสาวที่มาเฝ้าไข้ทราบก่อนปรึกษากับแพทย์ และได้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 19 ที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีความคืบหน้า นายแพทย์จรัส จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งสง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายนี้ป่วยด้วยโรคติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ปวดท้องเรื้อรัง และแพทย์ได้ส่งเข้าทำการตรวจช่องท้องแบบละเอียดด้วยการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ จนไปเกิดเหตุขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุและทราบเรื่องได้สอบสวนในทางลับจนพบว่ามีพยานหลักฐานสอดคล้องกับที่ผู้เสียหายแจ้งกับทางโรงพยาบาลเรียกตัวผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุ (คือนายชัชรินทร์ ไกรวัฒนพงศ์ อายุ 26ปี อยู่ 60 ถ.ราชพฤกพิทักษ์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในระหว่างการขอหมายจับ ขณะนี้หลบหนีแล้ว) ซึ่งพบว่าเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่เข้ามารับเหมาช่วงบริการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน เข้าทำการสอบสวนร่วมกับผู้บริหารของบริษัท ปรากฏว่าพนักงานรายงานนี้ยอมรับสารภาพว่ามีการก่อเหตุจริง หลังจากนั้นโรงพยาบาลได้ประสานและให้การดูแลผู้เสียหายตามลำดับ โดยการเข้าร้องทุกข์นั้นเป็นส่วนของผู้เสียหาย หลังจากที่แจ้งความโรงพยาบาลได้รับตัวผู้เสียหายมาทำการตรวจร่างกายอีกครั้งชันสูตรพบว่ามีร่องรอยของถูกข่มขืนจริง และได้รายงานเบื้องต้นไปทางพนักงานสอบสวนแล้วส่วนผลชันสูตรสารคัดหลั่งนั้นจะต้องรอสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ส่งกลับมาจากกรุงเทพมหานคร และยังระบุด้วยว่า เชื่อว่าผู้ต้องหาไม่ได้ก่อเหตุเป็นรายแรก ขอให้ผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำเช่นนี้มาร้องทุกข์กับโรงพยาบาล และแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนได้ ส่วนกรณีการฉีดยาเข้าไปในสายน้ำเกลือ และช่องคลอดของผู้เสียหายนั้นเป็นการกระทำที่ผิดอย่างแน่นอน ขณะที่ผู้เสียหายให้การว่าได้ถูกเจ้าหน้าที่ห้องเอ็กซเรย์ฉีดยาในท่อน้ำเกลือ 1 เข็ม และช่องคลอด 1 เข็ม หลังจากนั้นได้ใช้เจลสวนเข้าไปในช่องคลอดก่อนที่จะปิดตาและก่อเหตุข่มขืนโดยที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้เนื่องจากอยู่ในสภาพไม่สามารถช่วยตัวเองได้ หลังจากนั้นได้บอกบุตรสาวที่มาเฝ้าไข้ทราบก่อนปรึกษากับแพทย์ และได้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันที่ 19 ที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีความคืบหน้า นายแพทย์จรัส จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุ่งสง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายรายนี้ป่วยด้วยโรคติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ปวดท้องเรื้อรัง และแพทย์ได้ส่งเข้าทำการตรวจช่องท้องแบบละเอียดด้วยการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ จนไปเกิดเหตุขึ้นภายหลังจากเกิดเหตุและทราบเรื่องได้สอบสวนในทางลับจนพบว่ามีพยานหลักฐานสอดคล้องกับที่ผู้เสียหายแจ้งกับทางโรงพยาบาลเรียกตัวผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุ (คือนายชัชรินทร์ ไกรวัฒนพงศ์ อายุ 26ปี อยู่ 60 ถ.ราชพฤกพิทักษ์ ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช อยู่ในระหว่างการขอหมายจับ ขณะนี้หลบหนีแล้ว) ซึ่งพบว่าเป็นพนักงานของบริษัทเอกชนที่เข้ามารับเหมาช่วงบริการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบซีทีสแกน เข้าทำการสอบสวนร่วมกับผู้บริหารของบริษัท ปรากฏว่าพนักงานรายงานนี้ยอมรับสารภาพว่ามีการก่อเหตุจริง หลังจากนั้นโรงพยาบาลได้ประสานและให้การดูแลผู้เสียหายตามลำดับ โดยการเข้าร้องทุกข์นั้นเป็นส่วนของผู้เสียหาย ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นหญิงชรารายนี้ได้ระบุกับผู้สื่อข่าวว่าขอให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด และไม่ต้องการการเยียวยาหรือค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น และขอให้โรงพยาบาลทุกแห่งมีมาตรการในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นผู้หญิงที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ใน ขณะที่ต้องอยู่ในห้องบริการทางแพทย์ที่มิดชิด ด้านบุตรชายของผู้เสียหายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทำงานอยู่ต่างจังหวัดทราบเรื่องเพียงว่าแม่ป่วยอยู่ที่โรงยาบาลไม่เป็นอะไรมาก และได้เดินทางกลับมาถึงนครศรีธรรมราช ในช่วงเช้าของวันนี้เข้ามาเยี่ยมแม่และพบว่ามีความผิดปกติน้องสาว และน้องชายปิดบังข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับแม่จึงเค้นสอบถามจนทราบว่าเกิดเรื่องนี้ขึ้น จึงไล่สอบถามไปตารมลำดับทั้งโรงพยาบาล และสถานีตำรวจ จนมีการสอบสวนเกิดขึ้นทั้งที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้วหลายวัน อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่รับแจ้งความคือ ร.ต.ท.วินิจ อินทร์คง พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูล ทำสำนวนสอบสวนพยานหลักฐานเพียงพอแล้วและได้เตรียมสรุปสำนวนเบื้องต้นเพื่อขออนุมัติต่อศาลขอหมายจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดี โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างส่งชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมไปพร้อมกัน ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ได้ลาออกจากบริษัทต้นสังกัดและหลบหนีไป โดยได้ไปบวชที่วัดใกล้บ้าน และหลังจากเรื่องเริ่มแดงขึ้นได้ลาสิกขาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาก่อนที่จะหลบหนีหายไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|