กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
พบพระแลบลิ้น .....พระแลบลิ้น.........
ชาวบ้านหมู่ 4 ต.สบแม่ข่าฯ โวย เจ้าหน้าที่กรมศิลป์และอดีตผู้ใหญ่บ้าน ตัดลิ้นพระพุทธรูปขาด อาถรรพ์ทำให้วัดเงียบเหงา ล่าสุดด้านนายอำเภอ นายก อบต.และชาวบ้านเร่งระดมศรัทธาหาทางแก้ไขช่วยเหลือเพื่อต่อลิ้นให้พระพุทธรูปให้เหมือนเดิม
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ก.ค.50 ณ สำนักสงฆ์พระพุทธรูปแลบลิ้น หมู่ 4 ต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ. เชียงใหม่ ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้ร้องเรียนมาว่าพระพุทธรูปแลบลิ้นที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว นั้นมีพระพุทธรูปแลบลิ้นแต่ต่อมาถูกบูรณะและถูกเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ทำการตัดลิ้นของท่านไปทำให้สำนักสงฆ์ดังกล่าวนั้นเกิดอาถรรพ์เงียบเหงา ขาดศรัทธา ทั้งที่เมื่อก่อนสมัยที่พระพุทธรูปดังกล่าวยังแลบลิ้นอยู่นั้นสำนักสงฆ์แห่งนี้ขึ้นชื่อและมีศรัทธามาจำนวนมาก แต่เมื่อถูกตัดลิ้นไปแล้วปรากฏว่าวัดกลับเงียบเหงาอย่างผิดสังเกต ชาวบ้านได้พยายามช่วยกันหาเงินทุนมาบริจาคหรือเรียกศรัทธาชาวบ้านแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายกว่านั้นยังทำให้ชาวบ้านทะเลาะกันเคลือบแคลงกันสงสัยกันตลอดเวลาเรื่องเงินในการสร้างวัตถุมงคลหาเงินมาบูรณะสร้างวิหารให้กับพระพุทธรูปดังกล่าวอีกด้วย
นายวรรณ อินทจักร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.สบแม่ข่า อ.หาดงเชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า พระพุทธรูปแลบลิ้นองค์นี้จากการไปสอบถามเจ้าหน้าที่กรมศิลปกรแล้วทราบว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สูงประมาณ 12 เมตร หน้าตักกว้าง สมัยก่อนที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เป็นป่าและไม่มีใครกล้าเข้ามายังที่นี่ และหากมองไกล ๆ ก็จะเห็นพระพุทธรูปแลบลิ้นอยู่ในป่า ซึ่งเมื่อก่อนชาวบ้านพากันกลัวไม่กล้าเข้ามาเพราะไม่แน่ใจว่าเป็นพระพุทธรูปหรืออะไรกันแน่ ปล่อยให้อยู่ในป่าแบบนั้นเรื่อยมา ต่อมากำนัน,ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในสมัยนั้นได้พากันเข้ามาบุกเบิกและพบว่าบริเวณแห่งนี้เคยเป็นมาก่อนและกลายเป็นสำนักสงฆ์ร้างในเวลาต่อมา จากนั้นทุกฝ่ายก็ได้ร่วมกันบูรณะสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นวัดกลับมา และนิมนต์พระสงฆ์มาจำพรรษาอยู่ ต่อมาก็มีผู้ใจบุญคนหนึ่งได้ใช้เงินส่วนตัวมาบูรณะให้วัดแห่งนี้ให้กับพระพุทธรูปรูปนี้เพราะสงสารท่านตากแดดตากฝนมาเป็นเวลานานหลายร้อยปี ปรากฏว่าก็ไม่ได้เกิดอาถรรพ์อะไร แต่กลับทำให้ชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขร่มเย็น ชาวบ้านก็แห่กันมาทำบุญกันที่วัดแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวนั้นเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่และท่านจะแลบลิ้นออกมาเห็นเด่นชัด เมื่อตอนพบเห็นและทำการบูรณะสถานที่แห่งนี้ใหม่ ๆ ก็มีศรัทธาชาวบ้านแห่มาทำบุญกันจำนวนมากช่วยกันมาทำบุญมีพระสงฆ์มาจำพรรษาอยู่จนเป็นรูปร่างขึ้นมา
ต่อมาเมื่อประมาณปี 2534-35 เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ได้มาสำรวจและทำการบูรณะพระพุทธรูปองค์นี้ใหม่เนื่องจากแขนของท่านได้หลุดไปตอนที่พบปรากฏว่าไม่สามารถยกแขนของท่านขึ้นมาต่อได้ซึ่งมีน้ำหนักมาก ทางกรมศิลป์และชาวบ้านในสมัยนั้นจึงได้ทำการหล่อแขนทำแขนท่านขึ้นมาใหม่เอาแขนเก่าไว้หลังสำนักสงฆ์และได้ทำการถากบริเวณพระพักตร์ของพระพุทธรูปดังกล่าวทำการบูรณะใหม่และได้ไปตัดลิ้นของพระพุทธรูปรูปนี้ออกไปเกือบหมด ตอนนั้นตนยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่บ้านพยายามคัดค้านแต่ไม่เป็นผลและรู้สึกเสียใจอย่างมากที่เจ้าหน้าที่กรมศิลป์ร่วมกับอดีตผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นมาถากหน้าของพระพุทธรูปและตัดลิ้นของพระพุทธรูป แม้แต่นายอำเภอสมัยนั้น คือนายกิจจา พอรู้ข่าวว่ามาถากหน้าตาของพระพุทธรูปและตัดลิ้นไปรีบเดินทางมาปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ช่างดำเนินการถากหน้าและตัดลิ้นเรียบร้อยแล้ว นายอำเภอมาไม่ทัน ชาวบ้านทุกคนเสียใจอย่างมาก
อดีตนั้นตอนที่พบพระพุทธรูปองค์นี้ท่านจะแลบลิ้นออกมาอย่างเด่นชัด ต่อมาทางกรมศิลป์ในสมัยนั้นมาตรวจสอบและสำรวจและไปตัดลิ้นของพระองค์ท่านทำเป็นหน้าใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง โดยทางเจ้าหน้าที่กรมศิลป์และอดีตผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นได้ให้เหตุผลว่าพระพุทธรูปนั้นไม่สมควรอมลิ้นหรือแลบลิ้นเพราะจะทำให้เกิดอาถรรพ์ เลยทำการบูรณะทำหน้าหรือพระพักตร์ของพระพุทธรูปใหม่ตัดลิ้นท่านออกเสีย ความจริงแล้วของเก่าแก่ไม่น่าจะไปทำแบบนั้นควรอนุรักษ์ไว้
จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ได้เคยเล่าให้ฟังว่าพระพุทธรูปองค์นี้นั้นเมื่อก่อนจะมีนักบวชจากประเทศอินเดียเดินทางมายังในประเทศไทยและจะสร้างสำนักสงฆ์หรือพระพุทธรูปไว้เป็นจุด ๆ และเนื้อที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เมื่อก่อนจะไม่แคบแบบนี้จะมีประมาณ 30-40 ไร่ จะสังเกตต้นโพธิ์จะอยู่ห่างจากวัดไปประมาณ 50-60 เมตร ต่อมาก็มีประชาชนเข้ามาถากถางยึดครองพื้นที่เป็นที่อยู่อาศัย จนเนื้อที่เหลือน้อยเดียวปัจจุบันก็เหลือประมาณไม่กี่ตารางวาในปัจจุบันนี้ โชคยังดีที่ชาวบ้านในสมัยนั้นได้ทำการบันทึกภาพพระพุทธรูปตอนที่ทำการบุกเบิกใหม่ ๆ ไว้จะเห็นว่าท่านแลบลิ้นออกมาอย่างชัดเจน หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่กรมศิลป์และอดีตผุ้ใหญ่บ้านในสมัยนั้นทำการตัดลิ้นท่านไปแล้ววัดแห่งนี้ก็เงียบเหงาทันตาเห็นอะไรก็ไม่ขึ้น ชาวบ้านและศรัทธาจากที่อื่นได้พยายามมาช่วยกันรื้อฟื้นบูรณะในรูปแบบต่าง ๆ ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายทุกฝ่ายได้ลงความเห็นว่าจะต้องหาเงินและผู้รู้มาทำการต่อลิ้นให้กับท่านและทำพิธีให้ถูกต้องอาจจะทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง ซึ่งเรื่องกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการว่าจะทำอย่างไรรูปแบบไหนเพื่อจะหาเงินมาต่อลิ้นให้กับท่าน
นายทัศน์ไชย ทะนันไชยปรีดา นายก อบต.สบแม่ข่า อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่าเมื่อประมาณปี 2549 ตนได้ดำเนินการสร้างวัตถุมงคล พระเจ้าอมลิ้นหรือแลบลิ้นขึ้นมา เพื่อหางบประมาณก่อสร้างวิหาร ซึ่งตนเองเป็นผู้ริเริ่ม ส่วน งบประมาณ ก็จัดหามาเองโดยไม่ได้ใช้งบประมาณ ของ อบต.แต่อย่างใด เมื่อสร้างวัตถุมงคลเสร็จสิ้น ได้นำออกให้เช่าบูชาจำหน่ายปรากฏว่าได้เงินบ้างไม่ได้บ้าง รวมแล้วเป็นเงิน 49,255 บาทหักใช้จ่ายในพิธีปลุกเสกและอื่นๆ เหลือเงินทั้งสิ้น 45,000 บาทและได้มอบเงินให้กับ สภา อบต.สบแม่ข่า เพื่อสบทุนทุนสร้าง วิหาร ซึ่งตอนนั้นเกิดปัญหาคณะกรรมการและชาวบ้านต่างเคลือบแคลงสงสัยตนกล่าวหาว่าตนเอาชื่อผลประโยชน์ของสำนักสงฆ์แห่งนี้ไปหาผลประโยชน์ซึ่งไม่เป็นความจริงเกิดการขัดแย้งกันตลอด และวิหารก็สร้างสำเร็จไปแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยพระพุทธรูปก็ยังคงลิ้นขาดเหมือนเดิม ตอนนี้ก็อยากให้ชาวบ้านและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหันมาช่วยกันต่อลิ้นให้กับท่านและช่วยกันฟื้นฟูวัดแห่งนี้ต่อไปเพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาสำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่อย่างลำบากทั้งพระสงฆ์สามเณรที่จำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ตนก็พร้อมที่จะลงมาช่วยอีกครั้ง สืบค้นหาประวัติของพระพุทธรูปองค์นี้ให้กระจ่างชัดอย่างถูกต้องเขียนระบุไว้ให้กับลูกหลานต่อไปได้รับทราบ ทุกวันนี้ต่างก็พูดกันไปเรื่อยว่าเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แลบลิ้นเพื่อหลอกมาร ภูตผีปีศาจให้กลัว บางก็บอกว่าเมื่อก่อนผีในป่าเยอะผู้สร้างจึงสร้างสร้างพุทธรูปแลบลิ้นไว้เพื่อตบตาหลอกผีอะไรทำนองนั้น
นายสุรพล สัตยารักษ์ นายอำเภอหางดง จ.เชียงใหม่ ได้เปิดเผยว่า ตนก็เพิ่งเคยมาเห็นพระพุทธรูปแลบลิ้นเป็นครั้งแรกและจากการได้ดูจากภาพเก่าที่ยังคงเก็บรักษาไว้ถือเป็นโบราณวัตถุเก่าแก่ที่ศักดิ์สิทธิ ควรค่าแก่การรักษาไว้ ตนเพิ่งมารับตำแหน่งที่นี่และได้เดินทางมาสำรวจเป็นครั้งแรกที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ ตอนนี้ชาวบ้านอยากให้ทำการต่อลิ้นให้กับพระพุทธรูปดังกล่าวให้สมบูรณ์ซึ่งเรื่องนี้ตนก็จะได้ทำเรื่องประสานไปยังกรมศิลปกรเชียงใหม่อีกครั้งและผู้รู้เรื่องวัตถุโบราณเพื่อพิจารณาในการที่ชาวบ้านจะต่อลิ้นให้กับท่านได้หรือไม่อย่างไรและต้องทำอย่างไรให้ถูกต้องและจะได้สอบถามรายละเอียดอีกครั้ง จากกรมศิลป์ฯ และผู้รู้ทางพุทธศาสนาอีกครั้งว่าทำไมต้องไปตัดลิ้นของพระพุทธรูปรูปนี้เพราะอะไร อย่างไร เป็นพระพุทธรูปปางไหนสร้างเมื่อไหร่สาเหตุต้องแลบลิ้นเพราะอะไรให้แน่ชัดก่อนที่จะมาช่วย
ชาวบ้านดำเนินการ พระพุทธรูปแลบลิ้นนั้นตนก็เพิ่งมาเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก และพร้อมที่จะช่วยเหลือ ทางสำนักสงฆ์และชาวบ้านดำเนินการต่อไป ตอนนี้ตนได้ให้เอารูปภาพของพระพุทธรูปองค์นี้ที่ทำการ บันทึกไว้ตอนที่ยังไม่ได้บูรณะให้ไปเก็บรักษาไว้ที่สำนักงาน อบต.สบแม่ข่า ไว้ก่อนรอการพิจารณา ดำเนินการกันต่อไป ส่วนพระพุทธรูปแลบลิ้นองค์นี้ มีส่วนสูงประมาณ 5 เมตร หน้าตักกว้างประมาณ 4.5 เมตร ปางมารวิชัย ส่วนทรัพย์สินมีค่าในตัวพระพุทธรูปหรือหัวใจของพระนั้นถูกคนร้ายเจาะด้านหลังเอาไปหมดแล้ว ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|