ขั้วการเมืองแตก ส.ส."กลุ่มเพื่อนเนวิน" ส่องูเห่าไม่ย้ายไป "เพื่อไทย" เล็งจับมือ ปชป.ชู "ชวน" เป็นนายกฯ
การจับ ขั้วการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ส่อเค้าว่าอาจมีการเปลี่ยนขั้วเกิดขึ้น ภายหลัง 3 พรรคการเมือง คือ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ถูกคำสั่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคและตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี เมื่อมีกระแสข่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ในสังกัดพรรคพลังประชาชนเดิม ที่มี ส.ส.อยู่ในมือจำนวนหนึ่ง อาจจะไม่ไปอยู่ร่วมกับพรรคเพื่อไทย
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสายตลอดมาจนถึงช่วงบ่ายวันที่ 3 ธันวาคม นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ได้นัด ส.ส.ในกลุ่ม 50 คน มาหารือสถานการณ์และวิเคราะห์การเมือง ณ เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง โดยกลุ่มนี้ไม่ได้ไปสมัครและร่วมประชุมกับพรรคเพื่อไทย แม้คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีตแกนนำพรรคพลังประชาชนจะโทรศัพท์มาตามหลายครั้งก็ตาม และทราบว่านายเนวินหารือเงื่อนไขและอนาคตการเมืองกับแกนนำพรรคต่างๆ ไว้พอควรเเล้วด้วย
รายงานข่าวกล่าวว่า นายเนวินวิเคราะห์การเมืองหลังการยุบ 3 พรรคว่า หากคนในพรรคพลังประชาชนหรือพรรคเพื่อไทย ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ความวุ่นวายทางการเมืองจะตามมาหลายเรื่อง เช่น ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 8-9 ธันวาคม จะได้เปิดประชุมหรือไม่ และหากมีการประชุมจริงอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะเสนอเลือกนายกฯ โดยมีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ จะเป็นนายกฯ คนใหม่นั้น หากเป็นเช่นนั้น พันธมิตรจะกลับมาชุมนุมอีกครั้ง ขณะที่กลุ่ม นปช.บางส่วนที่นำโดยนายวีระ มุสิกพงศ์ จะออกมาเคลื่อนไหว โดย นปช.กลุ่มนี้ ช่วงหลังนายเนวินไม่ได้สนับสนุนเหมือนช่วงโค่นล้มคณะมนตรีความมั่นคงแห่ง ชาติ (คมช.) และ นปช.กับพันธมิตรน่าจะปะทะกัน หากเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา เชื่อว่าทหารจะออกมาแน่นอนและเป็นไปได้ที่จะรัฐประหาร หรือหากตอนนี้จะยุบสภา ก็มีสัญญาณบางอย่างที่รู้ว่า หากยุบสภาแล้วจะไม่มีการเลือกตั้งไปหลายปี
รายงานข่าวกล่าวว่า นายเนวินบอกว่าสิ่งที่ควรคิด คือมีข้อมูลว่าอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนหากย้ายไปพรรคเพื่อไทยนั้น อาจจะโดนบางฝ่ายใช้กฎหมายพรรคการเมืองจัดการทันที ตรงนี้หมายความรวมถึงอดีตพรรคชาติไทยและอดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตยด้วย ที่มีข่าวจะตั้งพรรคใหม่และพรรคใหม่ที่จดทะเบียนไว้ในวันนี้ ไม่มีทางที่จะเข้าสู่สภาได้ ยกเว้นพรรคที่มี ส.ส.ในการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ฉะนั้นตอนนี้กฎหมายให้เวลา ส.ส. 60 วันในการหาพรรคใหม่สังกัดนั้น ก็ยุติไว้ก่อน ตอนนี้เอาเรื่องเฉพาะหน้าคือ จะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี
รายงานข่าวกล่าวว่า มีการมองกันว่าหากเลือก ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี ความวุ่นวายจะตามมาทันที ฉะนั้นควรเลือกนายกฯ จากอดีตพรรคร่วมรัฐบาลที่สังคมยอมรับ เช่น พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา หรือนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช หรือแม้แต่การเปลี่ยนขั้วการเมือง เช่น ไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์ แต่จะไม่เอานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ แต่ขอเป็นคนอื่นในพรรค เช่น นายชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ แทน
“นายเน วินยังสอบถาม ส.ส.ว่า ใครจะไปสุดซอยกับผมบ้าง ทุกคนในกลุ่มก็บอกว่าจะไปด้วยกัน เพราะไม่มีทางที่ดีกว่านี้ในตอนนี้ ส่วนที่มีข่าวว่านายชัย ชิดชอบ จะเป็นนายกฯ นั้น ไม่มีทาง เพราะนายชัยไม่เอาด้วย” รายงานข่าวกล่าว
รายงานข่าวกล่าวว่า ยอมรับว่าวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณและคนใกล้ชิดโทรศัพท์มาหานายเนวินหลายครั้งและถามว่าทำไมยังไม่ ไปสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งนายเนวินตอบ พ.ต.ท.ทักษิณไปอย่างข้างต้น จนอดีตนายกฯ ตกใจและบอกว่าจริงหรือ และยังสั่งฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อมูลและข้อกฎหมายตามที่นายเนวินบอกไปด้วย
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ตอนนี้รัฐสภามี ส.ส. 447 คนจาก 480 คน สูตรการเมืองที่นายเนวินมองไว้ คือ อดีตพรรคพลังประชาชนมี ส.ส.ปัจจุบัน 214 คน กลุ่มเพื่อนเนวินมี ส.ส. 50-60 คน หากย้ายเข้าพรรคเพื่อไทยหมดนั้น อาจโดนเล่นงานโดยกฎหมายพรรคการเมือง และหากยังเลือกคนในพรรคเป็นนายกฯ ความวุ่นวายก็ไม่จบ ยกเว้นจะเลือกคนจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเป็นนายกฯ ก็อาจจะอยู่รอดได้สักระยะ หรือหากกลุ่มเพื่อนเนวินจะย้ายขั้วไปร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มี ส.ส. 164 คน ก็จะมี ส.ส. 214 คน ขาดเพียง 10 กว่าคนก็จะมีเสียงกึ่งหนึ่ง ที่พอจะตั้งรัฐบาลได้ ตอนนั้นก็ต้องไปทาบทามพรรคอื่นๆ ให้ย้ายขั้วตามมา โดยเฉพาะหากบวกกับเสียงของพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคเพื่อแผ่นดิน 24 เสียง พรรคชาติไทย 15 เสียง พรรคมัชฌิมาธิปไตย 11 เสียง พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 9 เสียง พรรคประชาราช 5 เสียง ก็จะทำให้อายุของรัฐบาลใหม่มั่นคงขึ้นและอยู่ได้นานขึ้นไปอีก
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก คมชัดลึก