ปีที่แล้วเพียงปีเดียว อินโดนีเซียใช้เงินงบประมาณแผ่นดินสูงถึง15%(ประมาณ 660,000 ล้านบาท)ไปในการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศ
ประธานาธิบดี อินโดนีเซีย พล ท. ซูซิโล บัมบังยูโดโยโน ประกาศว่าอินโดนีเซียอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศมากเกินไปจนกระทบต่อการขาด ดุลงบประมาณและเศรษฐกิจของประเทศ โดยปีที่แล้วเพียงปีเดียวอินโดนีเซียใช้เงินงบประมาณแผ่นดินสูงถึง 15% (ประมาณ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือ 660,000 ล้านบาท)ไปในการอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศดังนั้นรัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำ เป็นเพื่อลดเงินอุดหนุนราคาน้ำมันเริ่มตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไปเพื่อลด ปัญหาการขาดดุลงบประมาณ และลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
อินโดนีเซียเคยเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโอเปคแต่ต่อมาได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปค เพราะไม่ได้มีฐานะเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันอีก ต่อไปเนื่องจากผลิตน้ำมันได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประทศที่เพิ่มสูง ขึ้นอย่างมากมายจากการขยายตัวของพลเมืองที่สูงเป็นอันดับสี่ของโลก และการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่สูงตลอดจนนโยบายอุดหนุนราคาพลังงานอย่างยาวนาน จนทำให้ราคาพลังงานต่ำจนเกินไป เกิดการบริโภคพลังงานอย่างฟุ่มเฟือยและไม่มีประสิทธิภาพ
ข้อ สำคัญราคาพลังงานที่ต่ำจนเกินไปทำให้ประชาชนชาวอินโดนีเซียเสพย์ติดพลังงาน ดังนั้นทุกครั้งที่รัฐบาลพยายามจะลดการอุดหนุนราคาพลังงานเพื่อแก้ไขปัญหา ที่เรื้อรังมานานก็จะเกิดแรงต้านจากภาคประชาชน จนกระทั่งเกิดการจลาจล กลายเป็นปัญหาทางการเมืองจนบางครั้งถึงขนาดมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลอย่างเช่น ในสมัยของประธานาธิบดีซูฮาร์โตเป็นต้นแม้แต่ในสมัยของรัฐบาลปัจจุบันเองก็ เคยเจอกับปัญหาการก่อจลาจลจากการขึ้นราคาน้ำมัน(ลดการอุดหนุนราคา)มาแล้วจน ต้องลดราคาลงมาหลังจากขึ้นไปได้ไม่นานจึงยังเป็นเรื่องที่น่าสงสัยว่าเที่ยว นี้รัฐบาลจะทำไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่
เรื่อง การอุดหนุนราคาพลังงานในประเทศให้ถูกกว่าราคาในตลาดโลกนั้นเป็นเรื่องที่มี การถกเถียงกันมากในทุกประเทศ และดูจะเห็นตรงกันว่าถ้าประเทศใดมีทรัพยากรธรรมชาติด้านพลังงานเหลือเฟือ ชนิดที่ว่าใช้กันไปอีกร้อยปีก็ยังไม่หมดและเป็นประเทศผู้ส่งออกพลังงานสุทธิ (ส่งออกมากกว่านำเข้า)มีรายได้จากการส่งออกพลังงานมากมายพอที่จะอุดหนุนราคา พลังงานในประเทศให้อยู่ในระดับต่ำพอสมควรไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนก็คงจะไม่ เป็นไร (แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องคำนึงว่า ถ้าตั้งราคาพลังงานฟอสซิลที่มาจากซากพืชและสัตว์ต่ำจนเกินไปก็จะทำให้มีการ ใช้มากขึ้น ก็จะส่งผลต่อภาวะโลกร้อน)
แต่ ที่เป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้คือประเทศกำลังพัฒนาที่อาจมีแหล่งพลังงานเป็นของ ตนเองบ้างแต่ไม่มากนักและยังต้องนำเข้าบางส่วนจากต่างประเทศ แต่กลับไปตั้งราคาพลังงานโดยอ้างอิงราคาในประเทศทั้งหมดแล้วใช้เงินอุดหนุน ในส่วนที่ต้องนำเข้า อย่างเช่นประเทศไทยที่มีการอุดหนุนราคาก๊าซLPGอยูในปัจจุบัน
แต่ ต้องบอกว่าไทยเราฉลาดกว่าอินโดนีเซียมากเพราะแทนที่จะเอาเงินงบประมาณมาอุด หนุนราคาก๊าซแบบเขาเรากลับพลิกแพลงเอาคนใช้น้ำมันมาอุดหนุนคนใช้ก๊าซแทนโดย เก็บเงินจากคนใช้น้ำมันในอัตราสูงเข้ากองทุนน้ำมันฯเพื่อไปอุดหนุนราคาก๊าซ ให้ขายได้ในราคาต่ำจนเป็นที่มาของการเอาราคาน้ำมันในบ้านเราไปเปรียบเทียบ กับราคาน้ำมันเพื่อนบ้านว่าราคาน้ำมันของเราแพงที่สุดในอาเซียน
ทั้งๆที่ความจริงแล้วการจะเปรียบเทียบราคานั้น ต้องดูที่โครงสร้างราคาด้วย(ดูตารางประกอบ) ซึ่งถ้าดูจากโครงสร้างราคาน้ำมันเบนซิน 95 จะเห็นว่ารัฐบาลเก็บภาษีสรรพามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มและกองทุนน้ำมันสูงถึงลิตรละ 20.55บาท หรือคิดเป็น 46% ของราคาขายปลีก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทำไมราคาน้ำมันเบนซิน 95ของบ้านเราจึงแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านมาก
ทั้ง นี้เพราะเพื่อนบ้านเขาไม่ได้เก็บภาษีสูงอย่างบ้านเราและเขาไม่มีกองทุน น้ำมันนอกจากนั้นเขายังจัดสรรงบประมาณแผ่นดินมาอุดหนุนราคาน้ำมันอีกปีละ หลายแสนล้านบาทแล้วจะไม่ให้ราคาน้ำมันเขาถูกกว่าเราได้ย่างไรแต่ราคาน้ำมัน ของเราก็ไม่ได้แพงที่สุดในอาเซียนอย่างที่พูดกันเพราะราคาน้ำมันเบนซินของ เราก็ยังถูกกว่าสิงคโปร์ส่วนน้ำมันดีเซลนั้นราคาของเราถูกกว่าทุกประเทศใน กลุ่มอาเซียนยกเว้นมาเลเซียเท่านั้นที่ถูกกว่าไทยเพราะเขาใช้งบประมาณอุด หนุนราคาน้ำมันในประเทศเช่นเดียวกันกับอินโดนีเซีย
ซึ่งเรื่องราคาน้ำมันดีเซลที่ถูกกว่านี้ไม่เคยถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงเลยทั้งๆ ที่เป็นน้ำมันที่คนส่วนใหญ่ใช้กันถึงวันละ 55ล้านลิตร แต่จะไปหยิบเอาราคาน้ำมันเบนซิน 95 ซึ่งมียอดขายเพียงแค่วันละล้านกว่าลิตรมาเปรียบเทียบอยู่ตลอดเวลา
กล่าว โดยสรุป ต้องการชี้ให้เห็นว่าต้นตอของปัญหาราคาน้ำมันแพงในบ้านเราก็คือการบิดเบือน โครงสร้างราคาพลังงานนั่นเองยิ่งบิดเบือนมากก็ยิ่งสะสมปัญหามากจนถึงจุด หนึ่งก็อาจกลายเป็นปัญหาร้ายแรงกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศแบบเดียวกับ อินโดนีเซียได้
ดัง นั้นฉวยโอกาสที่ประเทศไทยยังไม่ประสพกับปัญหาเรื่องพลังงานหนักหน่วงเท่ากับ อินโดนีเซียรีบปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้เข้าสู่กลไกตลาดที่แท้จริงโดย เร็วที่สุดน่าจะเป็นทางออกที่ต้องเร่งทำให้เร็วที่สุด
นี่ก็ช้ามาหลายเดือนแล้วนะ ท่านรัฐมนตรี!!!
มนูญ ศิริวรรณ