| • สนธิยังไม่ตัดสินใจเข้ารักชาติ |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 06 ส.ค. 50 เวลา 09:55:49 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. กล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ขจิต หับพานนท์ แกนนำพรรครักชาติ ทาบทามให้เป็นสมาชิกว่า แม้จะรู้จักกับ ร.อ.ขจิต แต่ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องการเมือง ยืนยันว่า ร.อ.ขจิตยังไม่มีการทาบทามเข้ามาร่วมพรรค ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะเวลายังไม่ถึงที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้ เมื่อถามว่า ขณะนี้สนใจพรรคการเมืองใดบ้าง พล.อ.สนธิตอบว่า ถ้าชอบมันก็มีอยู่ในใจ อดีตที่ผ่านมาเคยชอบพรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทย เคยเลือกเข้ามาทุกพรรค เมื่อถามว่า ดูแนวทางของพรรครักชาติเป็นอย่างไร พล.อ.สนธิตอบว่า ยังไม่รู้จัก ทั้งนี้เป็นประชาชนมาหลายปีแล้ว เคยเลือกมาทุกพรรค เมื่อถามว่า หากจะเล่นการเมืองจะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ใดเป็นประเด็นแรก พล.อ.สนธิตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิด ทั้งนี้ หากตัดสินใจแล้วจะเล่าว่าตอนนี้คิดอะไรอยู่ เมื่อถามถึงข่าวการซื้อตัว ส.ส. จำนวน 20-30 ล้านบาท ซึ่งความตั้งใจของ คมช.ให้การเมืองเกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรม พล.อ.สนธิตอบว่า ฟังจากข่าวเหมือนกัน ทราบว่า นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. เป็นคนพูด ท่านเป็นคนที่คนไทยทุกคนเชื่อถือและศรัทธาท่าน คิดว่าคงสมเหตุสมผล หรือท่านอาจจะมีข้อมูลก็ได้ หากเป็นอย่างนั้น ทาง กกต.ต้องเตรียมให้มากขึ้น ต้องเฝ้าระวังในเรื่องนี้ เชื่อประชาชนไม่เลือกนักการเมืองขายตัว เมื่อถามว่า ข่าวการซื้อตัว ส.ส.จะเข้าสู่วังวนเดิม คมช.จะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.สนธิตอบว่า คิดว่าเรามาใช้หนทางที่สำคัญที่สุดดีกว่า คือทำให้ประชาชนเข้าใจว่าถ้าท่านเลือก ส.ส.ที่ซื้อสิทธิ์ก็จะเสียหายและก็ส่งผลกระทบต่อตัวเราเอง อันนี้จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เมื่อถามว่า จะปลุกจิตสำนึกประชาชนและส.ส.อย่างไร ไม่ให้มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง พล.อ.สนธิตอบว่า เรื่องการปลุกจิตสำนึกประชาชนทุกส่วนงานทำอยู่แล้ว โดยเฉพาะรัฐบาลและกระทรวง ทบวง กรม กอ.รมน.มีส่วนหนึ่งที่ต้องดูแลตรงนั้น สำหรับสิ่งที่สำคัญ พวกเราและสื่อ รวมทั้งประชาชนจะต้องทำให้นักการเมืองที่ดำเนินการทางการเมืองหรือที่จะเข้ามาเล่นการเมืองจะต้องทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินและมีอุดมการณ์ทางการเมือง มีจริยธรรมมีคุณธรรม เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์หรือไม่ว่าเม็ดเงินจำนวนมากมาจากที่ใด คมช.จะตรวจสอบอย่างไร เพราะอาจจะมาจากกลุ่มอำนาจเก่าที่ต้องการฟื้นอำนาจตัวเองคืนมา พล.อ.สนธิตอบว่า ตรงนี้คงตอบไม่ได้ครับ “พัลลภ” เชื่อมีการจ้างล้มรัฐธรรมนูญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ที่ปรึกษา ผอ.รมน. กล่าวว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านการลงประชามติ 99% ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการจ้างประชาชนหัวละ 200 บาท เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญในพื้นที่ภาคอีสานนั้น คิดว่าน่าจะมี เพราะพวกเย้วๆที่ท้องสนามหลวง เขาก็จ้างมา เมื่อถามว่าการกระทำดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อการลงประชามติหรือไม่ พล.อ.พัลลภตอบว่า การลงประชามติใช้เสียงส่วนใหญ่ อยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ คิดว่าไม่สามารถจ้างได้ทั้งประเทศ เมื่อถามว่าถึงกรณีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. ระบุว่ามีการซื้อตัว ส.ส.จำนวน 30 ล้านบาท พล.อ.พัลลภตอบว่า ถ้ามีการใช้เงินก็จะอยู่ในวังวน และวงจรอุบาทว์อยู่อย่างนั้น ประเทศเราก็ไม่สามารถพัฒนาไปได้ ทั้งนี้ทหารไม่อยากจะเข้ามายุ่งกับการเมือง แต่ว่าเราปล่อยให้นักการเมืองในการทำกิจกรรมทางการเมืองก็อย่างที่เห็น ทั้งการทุจริตคอรัปชันของรัฐบาลชุดแล้ว ทหารจำเป็นจะต้องเข้ามา จริงๆเราไม่อยากเข้ามา จึงต้องเข้ามาแก้ปัญหาประเทศอยู่เรื่อยๆ เมื่อถามว่าจำนวนเงินที่จะซื้อตัว ส.ส.มาจากแหล่งไหน พล.อ.พัลลภตอบว่า เรื่องนี้ทุกคนรู้กันอยู่ว่าแหล่งเงินมหาศาลขนาดนี้ มีอยู่แหล่งเดียวอย่างที่เรารู้กัน เปิดตัวลงเลือกตั้งในนามพรรครักชาติ เมื่อถามว่าอดีตนายทหาร จปร.7 สนใจที่จะลงสมัครพรรครักชาติหรือไม่ พล.อ.พัลลภตอบว่ามีเพียง 2-3 คน ตอนนี้ยังเปิดเผยไม่ได้ ต้องรอให้เจ้าตัวเปิดเผยเอง ทั้งนี้ตนตั้งใจจะลงสมัคร ส.ส. กทม. เขตดุสิต เพราะในอดีตเคยลงสมัครมาแล้วในนามพรรคประชาธิปัตย์แต่สอบตก เมื่อถามว่าจะมีการทาบทาม พล.อ.สนธิเข้าพรรครักชาติหรือไม่ พล.อ.พัลลภตอบว่า เรื่องนี้คงตอบแทนไม่ได้ เพราะท่านยังรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร เมื่อถามว่าบุคลิกของ พล.อ.สนธิเหมาะสมที่จะเล่นการเมืองหรือไม่ พล.อ.พัลลภตอบว่า ในสถานการณ์การปัจจุบันหาคนแบบ พล.อ.สนธิยาก เหมาะสมมาเป็นผู้นำในสภาวะประเทศชาติที่ไม่ปกติ คนที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลจะต้องเป็นคนดี มีความรู้ กล้าตัดสินใจ กล้ารับผิดชอบ เมื่อถามว่าแสดงว่า พล.อ.สนธิสมควรที่จะลงเล่นการเมืองในสถานการณ์ในขณะนี้ พล.อ.พัลลภตอบว่า ไม่รู้ว่าท่านเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แต่คิดว่าคนที่กล้าทำรัฐประหารเพื่อกู้บ้านกู้เมืองไว้ คิดว่าคนแบบนี้หายาก พล.อ.พัลลภกล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต บินไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณเพื่อมาเขียนหนังสือว่า เป็นการมุ่งทำลาย พล.อ.สนธิเป็นไปไม่ได้ที่ ร.ท.หญิงสุณิสาบอกว่าเดินทางไปทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็รู้ๆกันอยู่ อย่าให้ผมพูดเลยดีกว่าว่าเป็นใคร แต่ผมยืนยันว่าการกระทำครั้งนี้ไม่ได้ทำด้วยตัวคนเดียว แต่จะต้องมีคนช่วยวางแผนในการทำหนังสือเล่มดังกล่าว “ขจิต” โต้ไม่เคยส่งเทียบเชิญ ปธ.คมช. ร.อ.ขจิต หัพนานนท์ หัวหน้ากลุ่มรักชาติ กล่าวถึงกรณีข่าวการส่งเทียบเชิญ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช.ว่า เป็นการเข้าใจผิด เพราะมีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์มาถามว่า กลุ่มรักชาติมีการส่งเทียบเชิญ พล.อ.สนธิใช่หรือไม่ บอกว่าไม่ใช่ แต่รู้ว่าพรรคอื่นๆส่งเทียบเชิญ เวลานี้ยังไม่ได้ตั้งพรรคอย่างเป็นทางการเลย จะไปเชิญได้อย่างไร เพราะ พล.อ.สนธิเองเป็นผู้ใหญ่ และยังรับราชการอยู่ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ไปถามท่าน แต่ท่านต้องมาถามผม หากท่านตัดสินใจ ดังนั้น จะไปส่งเทียบเชิญในตอนนี้ไม่ได้ แม้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือไม่ผิด แต่เป็นเรื่องของมารยาท ทุกวันนี้ใครอยากพูดอะไรก็พูด เจอ พล.อ.สนธิตามงานเลี้ยงก็เข้าไปทักทายว่าสวัสดีท่านประธาน พล.อ.สนธิก็แหย่ว่าสวัสดีหัวหน้าพรรคก็เท่านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าพรรครักชาติว่าเป็นพรรคทหาร ร.อ.ขจิตตอบว่า ก็มีทหารแก่ๆคือตนคนเดียวในตอนนี้ สำหรับทหารท่านอื่นๆยังไม่ได้คุยเป็นอันเพราะเหตุผลเดียวกัน คือยังไม่มีพรรคเลย แต่คนที่มาคุยกันบ้างคงอยากดูว่ามีการตั้งพรรคจริงหรือไม่ สำหรับ พล.อ.พัลลภ ปิ�นมณี ที่ปรึกษา กอ.รมน. ที่ระบุว่าจะสมัครเข้าพรรครักชาตินั้น ตนกับ พล.อ.พัลลภรู้จักกันดี แต่แค่คุยกันเฉยๆ เพราะถ้าตอนนี้พูดอะไรออกไปก็ผิดกฎหมาย ต้องดูก่อนว่าจะตั้งพรรคเมื่อไหร่ ทรท.จวกขั้วอำนาจใหม่ตามล้างไม่เลิก นายปองพล อดิเรกสาร แกนนำอดีตกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า การกำหนดห้ามไม่ให้อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกเว้นวรรค 5 ปี ไม่ให้ร่วมสนับสนุนช่วยหาเสียงหรือแม้จะเป็นที่ปรึกษานั้น มันมากเกินไป การที่พวกเราถูกตัดสิทธิทางการเมืองโดยการถูกลงโทษย้อนหลังมันก็ไม่สมควรอยู่แล้ว เราก็ยอมรับกันไป แต่จะมาเพิ่มโทษกันอีก แล้วจะไม่ให้คิดว่าเป็นการพยายามทำลายล้างเผ่าพันธุ์ จะเอากันให้ตาย มันผิดธรรมชาติของคนจะไม่ให้คิดได้อย่างไร และในรัฐธรรมนูญปี 50 ที่ คมช.อยากจะให้ผ่านนักหนา ก็ยังเขียนให้สิทธิเสรีภาพแก่ทุกคนในการแสดงความเห็น แต่นี่กลับมีคนเอาคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญมาเล่นต่อ ไม่ยอมจบทั้งที่เป็นการขัดสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างรุนแรง มันน่าแปลกที่พวกเราเป็นนักการเมืองลงสมัคร ส.ส.มานาน 20-30 ปี แต่อยู่ๆกลับถูกกล่าวหาว่าเป็นเผด็จการล้มล้างประชาธิปไตย และยังถูกพวกที่เป็นผลพวงจากเผด็จการมากำหนดละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ยังดีที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน สนช. ยังมีใจเป็นธรรม ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เมื่อถามถึงกรณีที่นายมีชัยระบุว่า บางพรรคทุ่มเงินซื้อตัว ส.ส.ถึง 30 ล้านบาท นายปองพลตอบว่า ถ้ามีหลักฐานก็เปิดเผยมาเลย ไม่ใช่มากล่าวหากันลอยๆ อ้างว่ามีคนมาเล่าให้ฟัง มันไม่พียงพอ ถ้าจะกล่าวหาใครแบบนี้ใครก็อ้างได้ทั้งนั้น จวก สนช.-ส.ส.ร.รับใช้เผด็จการทหาร นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า การออกกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อห้ามไม่ให้อดีตกรรมการบริหารพรรคไปเป็นที่ปรึกษา หรือช่วยเหลือสนับสนุนการหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.นั้น เห็นชัดเจนว่าสิ่งที่อนุกรรมาธิการยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร.ทำงานเพื่อใคร ตั้งแต่ยกร่างรัฐธรรมนูญและยกร่างกฎหมายลูก เพื่อสนองความต้องการของคนที่ต้องการทำลายล้างพรรคไหน คงต้องถามประชาชนว่าจะปล่อยให้เผด็จการทหาร ทำอะไรตามใจชอบไปอีกนานแค่ไหน สำหรับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 นั้น ทางเราต้องเดินหน้ารณรงค์ไม่รับต่อไป ไม่ใช่เพราะต้องการจะตีรวนไม่ให้มีการเลือกตั้ง ถึงอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งอยู่ดี ไม่ว่าภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใด แต่เหตุผลที่แท้จริงเป็นเพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มันยึดอำนาจไปจากประชาชน เอาไปอยู่ที่ระบบราชการและเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญก็ชัดเจนว่า เป็นการสนองตอบการสืบทอดอำนาจของ คมช. หากประชาชนยอมรับร่างรัฐธรรมนูญปี 50 ต่อไปจะก่อให้เกิดปัญหาต่อระบอบประชาธิปไตยในระยะยาว “สุดารัตน์” ท้าสนธิลงสนามเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่มไทยรักไทย กล่าวว่า นักการเมืองซีกไทยรักไทยเดิมยังมีความลำบากมากเป็นสองเท่าของกลุ่มการเมืองอื่น เพราะแม้แต่ไปเยี่ยมเยียนชาวบ้านก็ไม่สามารถทำได้ เพราะจะมีทหารคอยตามประกบอยู่ตลอดเวลา ยืนยันคำพูดเดิมว่ามียุทธการตามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไทยรักไทยอยู่ ขณะนี้ทางกลุ่มเพิ่งจะเริ่มตั้งไข่ ทุกคนอยู่ด้วยใจ เพราะมั่นใจในนโยบายพรรคไทยรักไทยเดิม ที่ไม่ไปไหนเพราะประชาชนไม่ให้ไป จะตั้งพรรคใหม่ก็ไม่ได้ แค่เริ่มต้นไปอยู่กับพลังประชาชนก็จะตามมายุบอีก ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ พล.อ.สนธิลงมาเล่นการเมืองอย่างเต็มตัว อย่ามัวแต่เป็นเสือซุ่มอยู่จะได้ต่อสู้กันอย่างชัดเจน ต่อข้อถามว่าได้มีการเตรียมวางตัวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นเลขาธิการพรรค ส่วนนายสมัคร สุนทรเวช ให้เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือระหว่างผู้บริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่มีการพูดถึงขณะนั้น และไม่มีชื่อนายสมชายอยู่ในสารบบเลย เมื่อถามถึงข่าวอดีต ส.ส.ไทยรักไทยเหมาเครื่องบินไปอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ความจริงมีไปเพียงไม่กี่คน และไปด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว บางคนก็ยังไม่ได้เป็นสมาชิก พปช.เลย “อภิสิทธิ์” ชี้การเมืองยุคใหม่เกิดขึ้นยาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เขียนบทความเรื่อง “ประชามติรัฐธรรมนูญกับการเมืองอนาคต” ลงใน www.abhisit.org มีใจความว่า จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งของวาระประชาชนว่าด้วยการฟื้นฟูประชาธิปไตย ภายใต้หลักการประชาชนต้องมาก่อน เพื่อให้บ้านเมืองหวนกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างรวดเร็วและราบรื่นที่สุด เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากวิกฤติการเมืองและปัจจัยอื่นๆ พรรคประชาธิปัตย์มองว่า ควรเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน เพื่อเริ่มต้นฟื้นฟูประชาธิปไตย ข้อด้อยต่างๆในรัฐธรรมนูญ ก็ให้สภาที่มาจากการเลือกตั้งเข้าไปแก้ไขต่อไป แต่ไม่ว่ารัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ หากเราต้องการการเมืองใหม่ แต่เห็นข่าวการใช้เงินเพื่อให้คนไม่ไปลงประชามติ ข่าวการซื้อ ส.ส. ข่าวการเมืองที่รวมตัวกันเพื่อประโยชน์ของบุคคล พวกพ้อง ไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์ ข่าวความขัดแย้ง การแก้แค้นแล้ว การต่อสู้เพื่อสร้างการเมืองใหม่คงอีกยาวไกล แต่ไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ รัฐธรรมนูญปี 2540 หรือ ปี 2550 ไม่สามารถให้สิ่งนี้ได้ แต่ประชาชนคนไทยต้องไม่ยอมแพ้ที่จะให้ได้สิ่งนี้มาในอนาคต ยิงสปอตโฆษณาดึงประชาชนใช้สิทธิ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อยากเห็นประชาชนไปใช้ สิทธิลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่ความชัดเจนในการเลือกตั้ง นำประเทศไปสู่ความสงบสุข ดังนั้น ทางพรรคจึงได้เตรียมยิงสปอตโฆษณา ผ่านสถานีโทรทัศน์และวิทยุภายในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศเข้าร่วมการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นอกจากนั้นยังเห็นว่าสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น ส่งสัญญาณสถานการณ์จะเพิ่มดีกรีความร้อนแรงและเผชิญหน้ากันมากขึ้น ระหว่างขั้วอำนาจใหม่กับขั้วอำนาจเก่า ที่มีบุคคลชักใยอยู่เบื้องหลังที่สั่งการมาจากต่างประเทศ พรรคประชาธิปัตย์วิตกว่า สถานการณ์ทางการเมือง จะเข้าสู่บรรยากาศการเมืองที่เรียกว่าแค้นต้องชำระ และทำให้ประชาชนต้องติดหลุมดำทางการเมือง ตามที่นัก การเมืองมีความพยายามสร้างเรื่อง เพื่อรักษาผลประโยชน์ ทางตนและครอบครัว ดังนั้น ประชาชนต้องจับตามองบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้ให้ดี ส่วนกรณีที่นายมีชัยระบุว่ามีการซื้อตัวนักการเมืองเข้าสังกัดหัวละ 30 ล้านบาท เชื่อว่ามีกระบวนการเคลื่อนไหวจริง เพื่อล่อให้นักการเมืองเข้าไปสังกัดพรรคการเมือง แต่การหาหลักฐานพิสูจน์ ข้อเท็จจริงนั้น คงเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีใครที่ต้องการจะเปิดเผยหรือแสดงตัว ชท.ร่วมต้านห้ามอดีต กก.บห.ช่วยหาเสียง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่คณะอนุกรรมาธิการยกร่างพ.ร.บ. พรรคการเมือง กำหนดห้ามไม่ให้อดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกตัดสิทธิการเมืองไปเป็นที่ปรึกษา ห้ามไม่ให้ขึ้นเวทีปราศรัย และห้ามหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส. ว่า พรรคชาติไทยไม่เห็นด้วย ถือเป็นการขัดขวางเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งทุกคนย่อมมีสิทธิเสรีภาพในการเขียน พูดและแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ก็เขียนไว้ในข้อปฏิบัติชัดเจนว่า ห้ามไม่ให้ไปเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือตำแหน่งในการบริหาร เช่น หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค แต่เรื่องที่ปรึกษาพรรคไม่ควรไปห้าม หากไปกำหนดห้ามทุกอย่าง ก็กลายเป็นต้นแบบของเผด็จการ ขณะนี้เรากำลังเริ่มต้นฟื้นฟู สนับสนุนการสร้างประชาธิปไตยใหม่ อย่าให้เริ่มต้นด้วยความล้มเหลว เป็นอันตราย และนำไปสู่การทำร้ายระบอบประชาธิปไตย อย่าผลัก 111 คน ไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ในที่สุดจะกลายเป็นการทำร้ายสังคมและประเทศชาติ และจะเข้าทางอดีตพรรคไทยรักไทยที่หาว่าเป็นการพยายามทำลายล้างเผ่าพันธุ์พวกเขาด้วย “เสนาะ” เตือน “บิ๊กบัง” อย่าเล่นการเมือง นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธาน คมช. อาจจะลงเล่นการเมืองว่า ตอนนี้บ้านเมืองยังคงมีวิกฤติอาเพศ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาของท่านที่จะมาเล่นการเมือง และท่านต้องตระหนักว่ามาเพื่อขจัดสิ่งไม่ดี และมีหน้าที่หาสิ่งที่ดีมาให้ประเทศ มีหน้าที่ควบคุมการเลือกตั้ง ที่จะได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่โปร่งใส การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ดูแลความมั่นคง ตนอยากให้บ้านเมืองเกิดภาพที่ดี ไม่อยากให้เกิดความแตกแยกกัน เพราะแค่ปัญหาภาคใต้ก็แย่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรครักชาติมีผู้สมัครเป็นทหารมาก ล่าสุด พล.อ.พัลลภ ปิ�นมณี ก็ได้เข้าสมัครในพรรคนี้แล้ว นายเสนาะตอบว่า หาก พล.อ.พัลลภมาสมัครก็ไม่เป็นไร เพราะท่านไม่ได้อยู่ในคณะปฏิวัติ จึงไม่น่ามีปัญหา เป็นห่วงแค่ประธานคมช.เท่านั้น ถ้ามาเล่นเองจะเกิดปัญหา จะถูกหาว่าปฏิวัติเพราะอยากได้อำนาจ ทำให้เกิดปัญหาตามมา และสิ่งต่อมาคือความแตกแยก ภาพพจน์ประเทศจะเสียหาย เมื่อถามต่อถึงกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสนช. ออกมาระบุว่ามีข่าวการซื้อตัว ส.ส.จำนวน 30 ล้านบาท นายเสนาะกล่าวว่า ได้ยินเต็มหู บางครั้งข่าวก็คือข่าว หรือบางทีอาจจะเป็นกระแสเพื่อปั�นราคาของนักการเมือง จึงต้องฟังหูไว้หู “เสธ.หนั่น” ยังอยู่พรรคมหาชน นายอรรคพล สรสุชาติ รองหัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคมหาชนว่า ขณะนี้กำลังดูทิศทางทางการเมือง คิดว่าจะมีความชัดเจนหลังการลงประชามติ โดยขณะนี้มีความแตกแยกทางการเมืองสูง ดังนั้นพรรคที่สามารถประสานได้ทุกฝ่ายอย่างพรรคมหาชน น่าจะเข้ามาช่วยทำงานในรัฐบาลผสมได้ อย่างไรก็ตาม จะมีการเลือกตั้งหรือไม่ ต้องดูผลการลงประชามติ แต่สิ่งที่น่าจะเป็นประโยชน์คือการพัฒนาให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น หากมีปัญหาให้ไปแก้กันหลังมีรัฐบาลแล้ว โดยรัฐบาลชุดต่อไปคงอยู่ไม่นาน เพราะจะต้องเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญ หรือบางอย่างที่ยังไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่ แล้วน่าจะมีการเลือกตั้งอีกที ส่วนตัวพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชนนั้น มีการทาบทามจากหลายฝ่าย แต่ พล.ต.สนั่นยังยืนยันที่จะอยู่พรรคมหาชนต่อไป ส่วนกรณีข่าวการทาบทาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. จากกลุ่มการเมืองต่างๆว่า เป็นลักษณะของคนที่สนับสนุนหรือคนใกล้ตัว พล.อ.สนธิปล่อยข่าว จะได้มีโอกาสทำงานต่อไป แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีบทเรียนสมัย รสช.อยู่ ดังนั้นคนที่สนับสนุน พล.อ.สนธินั้น ขอให้ลองหยุดคิด แล้วหาคำตอบให้ประเทศดีกว่า เพราะตัว พล.อ.สนธินั้น ในอนาคตสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศได้มากมายอยู่แล้ว มัชฌิมาจวกกลัว “ทักษิณ” เกินเหตุ นายโสภณ เพชรสว่าง ประธานด้านการเมือง กลุ่มมัชฌิมา กล่าวว่า ขณะนี้เป็นการแย่งชิงตัวนักการเมือง ในอดีตก็เคยมีข่าวว่ามีการเสนอเงินให้ผู้สมัครรายละ 15 ล้านบวก 10 บ้าง หรือมาก่อนรับไปก่อนบ้าง แต่ข้อเท็จจริงแล้วไม่มีพรรคการเมืองใดให้ตามนั้น จะมีบ้างก็คงเป็นการช่วย 1-2 แสนบาท สำหรับจัดสัมมนาและจัดชุมนุม ช่วยค่าโฆษณา ใบปลิวและตัวแทนประจำหน่วยเลือกตั้ง การที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธาน สนช. ระบุว่ามีการซื้อตัวอดีต ส.ส.รายละ 30 ล้านบาทนั้น ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย จะให้ชาวบ้านเข้าใจผิด ต่อไปเวลานักการเมืองคนใดลงพื้นที่ ชาวบ้านก็จะมาทวงถามเงินได้มาแล้วไม่ยอมจ่าย ทำให้คนกลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังมีเงินอยู่ ถือเป็นอาการกลัว พ.ต.ท.ทักษิณมากเกินไป ผู้สื่อข่าวถามว่าคิดว่าสมาชิกกลุ่มมัชฌิมาบางคน ออกมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชนเพราะเหตุใด นายโสภณตอบว่า อยู่ที่ความนิยม ต้องยอมรับว่าคนยังนิยมนโยบายไทยรักไทย นักการเมืองก็เกรงว่าหากย้ายพรรคอาจสอบตก แต่การเมืองจนถึงขณะนี้ยังไม่นิ่ง แม้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใดแล้ว ก็ยังลาออกไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นได้ในอนาคต “เฉลิม” ขอ 2 สัปดาห์รอ “บิ๊กจิ๋ว”ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคทางเลือกใหม่ กล่าวว่า อีก 2 สัปดาห์น่าจะมีความชัดเจนเรื่องอนาคตการเมืองของตนเอง อย่างไรก็ตาม ต้องขอหารือกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯก่อน เพราะ พล.อ.ชวลิตเป็นผู้ใหญ่ ที่ให้ความเคารพ ทั้งนี้พรรคตั้งเป้าหมายมี ส.ส.ไม่เกิน 5 คน ก็ถือว่าเยี่ยมแล้ว ต่อข้อถามว่า หาก พล.อ.ชวลิตตัดสินใจร่วมงานกับพรรคพลังประชาชน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ก็อาจจะพิจารณาตามไปด้วยก็ได้ ส่วนกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช ได้ลงสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ถือว่าเป็นสิทธิของนายสมัครที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชาชน ส่วนจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ไม่มีสิทธิไปคาดการณ์อะไรได้ ต้องให้สมาชิกพรรคเป็นผู้ที่ตัดสินใจเอง ว่านายสมัครจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ส่วนกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี จะลงเล่นการเมืองในนามพรรครักชาติว่า ทหารที่เข้ามาเล่นการเมือง และเข้ามาสู่เส้นทางทางการเมืองที่ถูกต้องก็ย่อมเป็นสิทธิที่ทำได้ เพราะไม่ได้มีกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญฉบับใดห้ามไว้ ส่วนกรณีที่ พล.อ.สนธิจะลงเล่นการเมืองนั้น มองว่าเป็นสิทธิที่ชอบธรรม และ พล.อ.สนธิก็ไม่มีคุณสมบัติใดที่ไม่เหมาะสม ถือว่าเป็นเรื่องดี สมานฉันท์รอ รธน.ผ่านค่อยเปิดตัว นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำกลุ่มสมานฉันท์ กล่าวถึงการเปิดตัวพรรคอย่างเป็นทางการว่า จะมีความชัดเจนหลังการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ขณะนี้เป็นเพียงการพูดคุยกันในกลุ่มการเมืองหลายกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แนวทางต่างๆที่จะตัดสินใจนั้นต้องรอว่าประชามติผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะหากประชามติไม่ผ่าน ก็อาจจะมีกติกาใหม่ๆเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่าโอกาสที่จะเข้ารวมกับพรรคการเมืองอื่นมีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า โอกาสน้อยมาก ไม่ได้คุยถึงประเด็นนั้น ในกลุ่มได้มีการคุยกันถึงเรื่องการตั้งพรรคของเรา เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับพรรครักชาติหรือไม่ นายสุวัจน์ตอบว่า ไม่เคยคุยกับพรรครักชาติเลย แต่เคยคุยกับกลุ่มการเมืองอื่น ไม่ขอเปิดเผย แต่ในแง่ พรรคการเมืองก็เป็นเพื่อนๆ เพียงแต่ยังไม่มีการพูดคุยกัน พร้อมยืนยันว่าจับมือกับนายพินิจ จารุสมบัติ และนายสุวิทย์ คุณกิตติ สำหรับแนวทางกลุ่มเราต้องการเห็นการเมืองที่ไม่แตกแยกกัน ฉะนั้น การพูดคุยกับพรรค การเมืองไหนเราจะยึดหลักตัวนี้ เมื่อถามว่ากลุ่มมัชฌิมามีสมาชิกประมาณ 84 คน แล้วกลุ่มสมานฉันท์มีเท่าไร นายสุวัจน์ตอบว่า ไม่ทราบว่ากลุ่มอื่นจะมีเท่าไร แต่กลุ่มสมานฉันท์ของจริงแน่นอน “มนูญกฤต” จวกนักการเมืองชอบโกหก วันเดียวกัน ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ได้มีงานเลี้ยงรุ่น จปร. รุ่น 7 และ นตน. 14 พล.ต.มนูญกฤตรูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวว่า สภาวะบ้านเมืองในขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤติ ก่อนที่จะมีการยึดอำนาจของคมช. มีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทุจริต ความแตกแยกของผู้คนในบ้านเมือง การแทรกแซงองค์กรอิสระ ในยุค คมช.เรื่องความแตกแยกขาดความสามัคคียังไม่มีการแก้ไข คำว่า “สมานฉันท์” เลิกใช้ได้แล้ว ควรมาตั้งเป้าว่าทำอย่างไรให้เกิดความสามัคคี เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ผู้นำประเทศต้องคิดเรื่องนี้ อะไรผิดคือผิด อะไรถูกคือถูก ส่วนพวกนักการเมืองทั้งหลายที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย ขอบอกว่าพวกนี้คือนักโกหกทุกคนว่า ไม่มีความชั่วอันใดที่คนโกหกจะไม่ทำ และไม่โกง คำพูดนี้ลงข่าวไปได้เลย ตนขอรับผิดชอบเอง อีกอย่างที่ห่วงคือเรื่องปัญหาเศรษฐกิจนับวันจะแย่ลง เข้าขั้นวิกฤติก็ว่าได้ ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องรัฐธรรมนูญทุกฉบับมันมีทั้งข้อดีและข้อบกพร่องแล้วแต่ว่าใครจะคิดอย่างไร หลายคนเข้าใจผิดว่ารัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ความจริงไม่ใช่ รับธรรมนูญเป็นแค่กฎหมายหลักของประเทศเท่านั้น รัฐธรรมนูญต้องมีโครงสร้างองค์ประชาธิปไตย เพื่อประโยชน์ ของประชาชนทุกคนอย่างถูกต้อง ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1305 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 06 ส.ค. 50
เวลา 09:55:49
|
