| • กกต.ขยับพิจารณายุบพลังประชาชน |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 07 ธ.ค. 50 เวลา 10:17:42 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
|
“สนธิ” มีความสุขไม่พูดเรื่องร้ายๆ
เมื่อเวลา 09.35 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าว ถึงกรณีเว็บไซต์ไฮทักษิณดอทคอม เผยแพร่ข้อความสนับสนุนให้ประชาชนเลือกนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพื่อจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับเมืองไทยได้ว่า ช่วงนี้ขออนุญาต เพราะกำลังมีความสุข ตอนนี้พูดเรื่องความสามัคคี เมื่อถามว่า จะรณรงค์หาเสียงอย่างไร เพราะขณะนี้ผลสำรวจเอแบคโพลระบุว่า ประชาชน 50% ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร พล.อ.สนธิตอบว่า เดี๋ยวจะประสานงานด้านประชาสัมพันธ์ให้รณรงค์ ให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนได้ทราบมากขึ้น ขณะที่พรรคการเมืองก็ต้องเดินกันให้มากกว่านี้ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน เมื่อถามว่า มีผู้ใหญ่รายหนึ่งออกมาระบุว่า อาจจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น พล.อ.สนธิตอบว่า “ไม่ทราบ เป็นไปไม่ได้หรอก เป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ไม่น่าจะมีกระแสอะไร” เมื่อถามว่าเว็บไซต์ไฮทักษิณระบุว่า ถ้าเลือกนายสมัคร จะได้ พ.ต.ท. ทักษิณกลับมา พล.อ.สนธิไม่ยอมตอบคำถาม แล้วเดินขึ้นรถทันที
“วินัย” ไม่หนักใจชี้แจงเอกสารลับ
พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กล่าวถึงกรณีที่ คมช.มีมติให้ไปชี้แจงเรื่องเอกสารลับกับ กกต. ว่า พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.และรักษาการประธาน คมช. ได้มอบหมายให้ไปชี้แจงกับ กกต.ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ไม่รู้สึกหนักใจอะไร เพราะมีข้อเท็จจริงอยู่ และมีแนวทางที่ชัดเจน คิดว่าจะถือเอกสารตัวจริงไปให้ กกต.ดู เพื่อให้เกิดความสบายใจ มั่นใจไม่มีปัญหาในการชี้แจง แต่ขึ้นอยู่กับ กกต.ว่าจะวินิจฉัยอย่างไร เมื่อถามว่าที่ผ่านมาถือว่าการดำเนินการในการตรวจสอบเอกสารลับ ทำผิดขั้นตอนหรือไม่ เพราะยังไม่มีการพิจารณาว่าเอกสารลับดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ แต่ตัดสินว่าทหารไม่เป็นกลางทางการเมือง พล.อ.วินัยตอบว่า ไม่แน่ใจในแนวทางของคณะกรรมการตรวจสอบเอกสารลับว่าพิจารณาโดยมุ่งเน้นเอาเป้าใดเป็นหลัก ทั้งนี้พอจะทราบว่า เอกสารลับออกมาจากหน่วยใด ถ้าหากพูดถึงตัวบุคคลทาง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ก็ไม่ทราบ เมื่อถามว่าหน่วยต้นสังกัดทราบตัวบุคคลที่นำเอกสารลับออกมาหรือไม่ พล.อ.วินัยตอบว่า ทางหน่วยคงทราบดีอยู่ คงต้องดูว่าเส้นทางออกไปทางไหน เมื่อถามว่า แสดงว่ากลุ่มอำนาจเก่ายังมีบทบาทในกองทัพ จึงสามารถนำเอกสารลับออกไปได้ พล.อ.วินัยตอบว่า ไม่มีอะไร และไม่น่ากังวลอะไร ไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
กอ.รมน.หวั่นถูกการเมืองเล่นงาน
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนพยายามจะโจมตีทหารว่า ทางพรรคพลังประชาชนได้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยเริ่มจากการเปิดเผยข้อมูลเอกสารลับ ข้อกล่าวหาว่าทหารใช้ปืนจ่อหัวผู้สมัคร ส.ส. จากการสอบสวนพบว่าไม่เป็นความจริง และกรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่ระบุว่ามีกำลังทหารจากหน่วยรบพิเศษเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เรื่องดังกล่าวก็ไม่เป็นจริง เพราะเราใช้กำลังดังกล่าวเกี่ยวกับการป้องกันตามแนวชายแดนเป็นหลัก หากมีการทำผิดจริง กกต.ก็มีสิทธิ์ที่จะแจ้งความจับได้ หลังจากนี้หากมีการปล่อยข่าวออกมาอีกต้องพิจารณาให้ดี และต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ถ้าผิดจริงก็ต้องรับผิดชอบ
“ปัจจุบันทหารค่อนข้างระมัดระวังเป็นหลัก เพราะนโยบายของ ผบ.ทบ.พยายามที่จะสร้างความเป็นกลางให้มากที่สุด และจะไม่ก้าวก่ายการเมือง เราค่อนข้างกังวล กันมาก ในการทำงานสนับสนุนการเลือกตั้ง ขนาด กกต. ร้องขอทหารเข้าไปช่วยนับคะแนน ทหารก็ปฏิเสธเรื่องนี้ เพราะจะเป็นเรื่องที่ถูกโจมตีได้ง่าย” พ.อ.ธนาธิปกล่าว
“สดศรี” โยน “สิทธิชัย” ไปร้องศาล
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์การกำลังสำรอง กองทัพบก นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ สัมภาษณ์ภายหลังการบรรยายหัวข้อ “บทบาทของ กกต. กับการดำเนินการจัดการเลือกตั้งและการเลือกตั้งที่ถูกวิธี” ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนปลอมลายมือชื่อนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน และผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินว่า เรื่องการปลอมลายมือชื่อหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องของศาลยุติธรรมมากกว่า เพราะ กกต.มีหน้าที่เพียงรับสมัคร และตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเท่านั้น หากพบว่าผู้สมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองมากกว่า 2 พรรค ก็จะถูกตัดสิทธิเป็นผู้สมัคร ต่อมานายสิทธิชัยได้ยื่นคำร้องของคืนสิทธิเลือกตั้งจากศาลฎีกา และศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีการปลอมลายมือชื่อ แต่หากจะมีการดำเนินการเรื่องนี้ ต่อไป นายสิทธิชัยต้องไปร้องต่อศาลยุติธรรม กกต.ไม่ จำเป็นต้องตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะศาลฎีกาได้วินิจฉัยอย่างชัดเจนว่ามีการปลอมลายมือชื่อจริง
แนะยื่นเอาผิดยุบพลังประชาชน
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชาชนยื่นเอกสารที่ปลอมลายมือแก่ กกต. ถือว่าพรรคพลังประชาชนหลอกลวง กกต.หรือไม่ นางสดศรีตอบว่า กกต.ได้ตรวจสอบใบสมัครของผู้สมัครพรรคพลังประชาชนแล้ว พบว่า ลายมือชื่อที่พรรคลงนามรับรองว่าลายมือชื่อผู้สมัครนั้นเป็นของจริง ดังนั้น กกต.คงไม่สามารถตรวจสอบผู้สมัครโดยตรงว่า ลายมือชื่อดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่ เพราะหัวหน้าพรรคยืนยันว่า ลายมือชื่อดังกล่าวเป็นของจริง กกต.ก็ต้องเชื่อไปตามนั้น ส่วน กกต.จะเอาผิดกับหัวหน้าพรรคที่ลงชื่อรับรองใบสมัครของผู้สมัครได้ หรือไม่ เป็นเรื่องที่นายสิทธิชัยต้องแจ้งเรื่องมาที่ กกต.ก่อนว่าพรรคได้ปลอมลายมือชื่อของนายสิทธิชัยจริงหรือไม่ ส่วนจะถูกยุบพรรคหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องวินิจฉัยต่อไป หากนายสิทธิชัยไม่ร้องเรียนมาที่ กกต. แสดงว่านายสิทธิชัยไม่ติดใจเรื่องนี้ เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนสามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้หรือไม่ นางสดศรีตอบว่า ฐานข้อมูลของ กกต.มีความรัดกุม และต้องให้หัวหน้าพรรคลงลายมือชื่อยืนยันว่าบุคคลต่างๆเป็นสมาชิกพรรคจริง ส่วนโทษนั้น ต้องดูว่า กกต.สามารถยุบพรรค และถอนสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปีได้หรือไม่ และเป็นการกระทำที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือไม่ โดยอาจต้องใช้พยาน หลักฐานประกอบการพิจารณาด้วย
เล็งส่งศาล รธน.ตีความเอกสารลับ
นางสดศรีกล่าวว่า ส่วนกรณีที่ระบุว่า กกต.ควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชัดก่อนว่า มีหน้าที่ในการตรวจสอบคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) หรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัว เพราะแต่ละองค์กรมีหน้าที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ คมช.ได้รับสิทธิประโยชน์ จากรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ปี 2549 และ คมช. เป็นองค์กรที่ได้รับการคุ้มครองจากมาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 ในขณะที่ กกต.มีหน้าที่เพียงการจัดการเลือกตั้ง ดังนั้นอำนาจของ กกต.และ คมช.จะเป็นอำนาจที่ขัดแย้งกันหรือไม่ และรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 214 ได้ระบุว่า หากอำนาจหน้าที่ระหว่าง 2 หน่วยงานมีความขัดแย้งกัน ก็ควรนำเรื่องไปสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป อย่างไรก็ตาม กกต.ยังไม่มีแนวคิดดังกล่าว แต่อาจเสนอเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมต่อไป
ประสานไอซีทีปิดเว็บไฮทักษิณ
นางสดศรียังกล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์ไฮ-ทักษิณระบุว่า หากเลือกนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน จะได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทยด้วยความปลอดภัยว่า กกต.ยังไม่ได้รับการร้องเรียน แต่หากต้องวินิจฉัยเรื่องนี้ คงต้องนำเนื้อหาในเว็บไซต์มาพิจารณา เมื่อถามว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเช่นนี้ เป็นการเหมาะสมหรือไม่ นางสดศรีตอบว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร หากออกมาเคลื่อนไหว เพื่อสร้างความแตกแยกให้สังคม ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปรารถนาให้คนไทยมีความสามัคคี เมื่อถามว่า กกต.ต้องเตือนพรรคพลังประชาชนในเรื่องนี้หรือไม่ นางสดศรีตอบว่า พรรคพลังประชาชนคงปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ แต่ กกต.อาจประสานไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ภายในสัปดาห์นี้ เพราะไอซีทีควรพิจารณาปิดเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ
“ประพันธ์” ชี้ใครเสียหายให้ร้อง กกต.
นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์ไฮ ทักษิณ นำเสนอคลิปวีดิโอที่มีข้อความหาเสียง โดยกล่าวอ้างว่าหากเลือกพรรคพลังประชาชน ก็จะถือเป็นการเลือก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดดังกล่าว หากผู้ใดเห็นว่าได้รับความเสียหาย ก็สามารถร้องเรียนมายัง กกต. เพื่อให้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป เชื่อว่าเจ้าหน้าที่น่าจะรวบรวมข้อมูลไว้แล้ว ส่วนข้อความในคลิปจะเข้าข่ายการหาเสียงในมาตรา 53 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.หรือไม่ ก็ขอให้ผู้เสียหายที่ถูก พาดพิง
ส่งเรื่องมายัง กกต.เพื่อให้ตรวจสอบต่อไป
ส่วนกรณีที่นางสดศรีจะขอหารือที่ประชุม กกต. เพื่อส่งเรื่องให้ตุลาการรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขอบเขตอำนาจของ กกต. ในการตรวจสอบพฤติกรรมของ คมช. นายประพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุม กกต.คงจะมีการหารือกันทุกด้าน รวมทั้งขอบเขตของ กกต.ด้วย แต่เห็นว่าเหตุที่ผู้ร้องเรียนเข้ามา เพื่อให้ กกต.สอบเรื่องเอกสารลับนั้น เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรมเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงอยู่ในอำนาจของ กกต. ที่จะรับเรื่องดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบ ส่วนประเด็นเรื่องเอกสารจริงหรือปลอม ที่จะดำเนินการกับ คมช.อย่างไรนั้น ตรงนี้ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของ กกต.
|
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1070 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 07 ธ.ค. 50
เวลา 10:17:42
|
