กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
4 วิธี ห่างไกล นิ่วในไต
โรคนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมา เช่น เป็นสาเหตุของโรคไตวาย ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
จากสถิติผู้ป่วยนอกของรพ.นครพิงค์ในปี พ.ศ. 2562 พบว่ามีผู้ป่วยนิ่วในทางเดินปัสสาวะมาตรวจรักษาที่รพ.นครพิงค์ กว่า 8,200 ครั้ง ซึ่งเป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมากเป็นอันดับที่ 5 จากผู้ป่วยนอกทั้งหมดที่มารักษาที่รพ.นครพิงค์ จะเห็นได้ว่าเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์สูงมาก
เราลองมาดูกันนะครับว่าจะมีวิธีการป้องกันตนเองอย่างไรบ้างเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
1. ดื่มน้ำมากๆ :
ความเข้มข้นของน้ำปัสสาวะเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อการเกิดนิ่ว ปัสสาวะที่เข้มข้นจะทำให้เกิดการตกตะกอนของสารก่อนิ่ว ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำมากๆเพื่อให้มีปัสสาวะที่เจือจางลง โดยแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ จนกว่าจะมีปัสสาวะ 2 ลิตรต่อวัน (ดื่มน้ำประมาณ 2.5-3 ลิตรต่อวัน) ทั้งนี้ขึ้นกับว่ามีการสูญเสียน้ำไปทางอื่นด้วยหรือไม่ เช่น หากมีการเสียเหงื่อมาก ย่อมต้องดื่มน้ำทดแทนมากขึ้นไปอีก
ส่วนชนิดของน้ำที่ดื่มนั้นพบว่าน้ำกระด้าง เช่น น้ำบ่อ น้ำจากแหล่งธรรมชาติโดยตรง ที่มีแคลเซียมหรือฟลูโอไรด์ผสมอยู่ อาจจะเป็นปัจจัยในการก่อนิ่วมากขึ้น
ทั้งนี้เรื่องปริมาณน้ำดื่ม มีข้อควรระวังในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องจำกัดปริมาณน้ำดื่ม เช่น โรคไตวาย โรคหัวใจ เป็นต้น
2. ลดการทานอาหารที่มีสารก่อนิ่ว :
มีสารอาหารหลายชนิดที่ส่งเสริมการก่อตัวของนิ่ว เช่น
- โปรตีนจากสัตว์
- กรดยูริก พบได้ใน เนื้อสัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ กะปิ ชะอม กระถิน ถั่วต่างๆ หน่อไม้ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- ออกซาเลต พบได้ใน โกโก้ ช็อคโกแลต ผักโขม ใบชะพลู หน่อไม้ ชา เป็นต้น
- คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล
- เกลือโซเดียมคลอไรด์
อย่างไรก็ตาม สารอาหารในกลุ่มนี้ยังมีความจำเป็นต่อร่างกาย จึงควรบริโภคแต่พอดี ไม่ควรงดโดยสิ้นเชิง
3. ทานอาหารที่มีสารยับยั้งนิ่ว :
มีสารอาหารหลายชนิดที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งนิ่ว เช่น
- ซิเตรท เป็นสารยับยั้งนิ่วที่สำคัญ พบได้ในผลไม้หลายชนิด โดยเฉพาะผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม
- ไยอาหาร (Fiber) ในผัก ผลไม้ ช่วยขัดขวางการดูดซึมของสารก่อนิ่ว
- โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม พบได้ในผักและผลไม้ หลายชนิด
- ควบคุมน้ำหนักตัว เนื่องจากผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากมีแนวโน้มจะเป็นนิ่วมากขึ้น
4. ทานแคลเซียมแต่พอดี
แม้ว่าแคลเซียมจะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของนิ่วหลายชนิด แต่พบว่า หากมีการจำกัดการบริโภคแคลเซียมมากเกินไป กลับก่อให้เกิดนิ่วออกซาเลตมากขึ้น ซึ่งพบว่าสาเหตุเกิดจาก การที่โดยปกติแล้วแคลเซียมจะจับตัวกับออกซาเลตในทางเดินอาหารแล้วขับออกไปทางอุจจาระ แต่ถ้าหากเราจำกัดการบริโภคแคลเซียมก็จะทำให้มีออกซาเลตในทางเดินอาหารที่ไม่ถูกจับเหลือมากขึ้น และถูกดูดซึมมากขึ้นจึงก่อนิ่วชนิดออกซาเลตมากขึ้น
ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรบริโภคแคลเซียมในปริมาณปกติตามที่ร่างกายต้องการ ประมาณ 800-1,000 มก./วัน หรือเทียบเท่ากับนมสด ประมาณ 3-4 แก้ว
อย่างไรก็ตามสาเหตุของการเกิดนิ่วนั้น ประกอบไปด้วยหลายๆปัจจัยร่วมกัน ปัจจัยด้านอาหารและน้ำดื่ม เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นหากท่านมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นนิ่วในทางเดินปัสสาวะ เช่น ปวดเอว ปวดท้องน้อย ร้าวไปขาหนีบหรืออัณฑะ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะออกน้อยผิดปกติ หรือมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะบ่อยๆ ก็ควรมาปรึกษาศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะเพื่อตรวจรักษาแต่เนิ่นๆครับ
ขอบคุณข้อมูล :นพ.ประพนธ์ เปี่ยมอนันต์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ โรงพยาบาลนครพิงค์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|