• รมว.คมนาคมเปิดทางลอดอมตะ ข่วงสิงห์-ศาลเด็ก |
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 26 ธ.ค. 50 เวลา 15:22:02 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เปิดเป็นทางการแล้ว ทางลอดสี่แยกศาลเด็ก-แยกข่วงสิงห์ รมว.กระทรวงคมนาคม เดินทางมาเป็นประธาน ชี้จะสามารถลดปัญหา สภาพการจราจรติดขัดได้
เมื่อ วันที่ 26 ธ.ค.นี้ เวลา 10 น. พลเรือเอก ธีระ ห้าวเจริญ รมว.กระทรวงคมนาคม เป็นประธาน พิธีเปิดการจราจรทางลอดที่จุดตัดทางหลวง หมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 118 (แยกศาลเด็ก) และทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 107 (แยกข่วงสิงห์) จ.เชียงใหม่ โดยใช้สถานที่บริเวณทางลอดแยกศาลเด็ก อ.เมือง เชียงใหม่ โดยมี นายนิกร บุญศรี อธิบดีกรมทางหลวง และคณะให้การต้อนรับ
โดย นายนิกร บุญศรี อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และพัฒนาโครงข่ายเส้นทางคมนาคมระหว่างเมืองของภาคเหนือตอนบน ให้มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยในการเดินทาง และแก้ปัญหาการจราจรใน จ.เชียงใหม่ กรมทางหลวง จึงได้ก่อสร้างทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 118 (แยกศาลเด็ก) และทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 107 (แยกข่วงสิงห์) โดยมีรายละเอียดของโครงการ ดังนี้คือ ทางลอดจุถดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 118 (แยกศาลเด็ก) ระยะทาง 1.010 กม. แบ่งการก่อสร้างออกเป็นงานทางลอดยาว 650 เมตร จำนวน 6 ช่องจราจร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน งานสะพาน ก่อสร้างในระดับพื้นราบลนทางลอดความยาว 32 เมตร ความกว้างสะพานรวมทางเท้า และเสาราวสะพาน 56 เมตร และงานถนนเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมงานติดตั้งไฟส่องสว่าง
ส่วนทางลอดจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหลวงหมายเลข 107 (แยกข่วงสิงห์) ระยะทาง 1.750 กม. ก่อสร้างเป็นทางลอด ผิวทางเป็นคอนกรีตขนาด 6 ช่องจราจรไป-กลับ ข้างละ 3 ช่องจราจร พร้อมไหล่ทางข้างละ 2.50 เมตร ความยาว 570 เมตร โดยตรงกลางทางแยกก่อสร้างเป็นทางลอดแบบปิด โครงสร้างเป็นพื้นสะพานคอนกรีตราบรวมทางเท้ากว้าง 40 เมตร พร้อมสัญญาณไฟจราจร ส่วนด้านข้างทางลอดก่อสร้างเป็นพื้นระดับราบผิวคอนกรีตข้างละ 4 ช่องจราจร พร้อมทางเท้า และท่อระบายน้ำ ตลอดจนมีการติดตั้งไฟส่องสว่าง ป้ายจราจร ตีเส้น และระบบระบายน้ำทิ้ง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
สำหรับทั้ง 2 โครงการ เบื้องต้นได้ดำเนินการโดยวิธีการจ้างเหมาบริษัทเอกชน แต่เกิดปัญหาผู้รับจ้างขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงาน กรมทางหลวงจึงบอกเลิกสัญญา และให้หน่วยงานก่อสร้างทางดำเนินการเองของกรมทางหลวงดำเนินการแทน โดยศูนย์สร้าง และบูรณะสะพานที่ 2 จ.ขอนแก่น ดำเนินการก่อสร้างทางลอดสี่แยกศาลเด็ก ส่วนทางลอดสี่แยกข่วงสิงห์ ดำเนินการโดย ศูนย์สร้าง และบูรณะสะพานที่ 1 จ.พิจิตร จนแล้วเสร็จ นอกจากนี้เพื่อแก้ปัญหาจราจรในเขต จ.เชียงใหม่ บริเวณจุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กรมทางหลวงยังได้ก่อสร้าง และปรับปรุงขยายโครงการแก้ปัญหาจราจรอย่างต่อเนื่องคือ โครงการสร้างสะพานลอย ที่จุดตัดทางหลวงหมายเลข 11 กับทางหมายเลข 121 กำหนดแล้วเสร็จปี 2551 โครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมืองด้านใต้ (สะพานข้ามแม่น้ำปิง ที่ กม.3-935 ทางหลวงหมายเลข 1141 กำหนดแล้วเสร็จปี 2551 ซึ่งเมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะช่วยพัฒนาระบบทางหลวง ลดปัญหาจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุบริเวณทางร่วมทางแยก และเพิ่มศักยภาพการจราจร และขนส่งให้การจราจรในเชียงใหม่มีความคล่องตัว และปลอดภัยยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน รมว.กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การเปิดทางลอดทั้ง 2 แห่งดังกล่าว จะสามารถลดปัญหาสภาพการจราจรติดขัดได้ในปีใหม่ 2551 ไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องลดอุบัติเหตุ แต่จะเน้นว่าจะทำอย่างไรให้เกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด และจากสถิติที่ผ่านมาพบว่า เกิดขึ้นกับรถจักรยานยนต์เป็นส่วนใหญ่ จึงขอฝากมายังประชาชน ผู้ใช้รถจักรยานยนต์ ให้สวมหมวกนิรภัย ซึ่งกรมทางหลวง จะได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆรณรงค์อย่างต่อเนื่อง ส่วนจุดที่มีปัญหา ก็จะให้มีการปักป้ายสัญญาณเตือนให้ทราบ
ที่มา ไทยนิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1900 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 26 ธ.ค. 50
เวลา 15:22:02
|