กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า จากรายงานสถิติการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2566 ของกรมการท่องเที่ยว (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566) พบว่า ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นโลเคชันในการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศทั้งหมด 466 เรื่อง จาก 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งคณะถ่ายทำภาพยนตร์จากสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่เข้ามาถ่ายทำมากที่สุด ด้วยจำนวนภาพยนตร์ 34 เรื่อง เงินลงทุนกว่า 3,184 ล้านบาท ตามมาด้วยคณะถ่ายทำจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีเงินลงทุนกว่า 707 ล้านบาท ตามด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และสาธารณรัฐเกาหลี ตามลำดับ สร้างรายได้เข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศในภาพรวมกว่า 6,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา กว่า 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในรูปแบบการคืนเงินสูงสุดร้อยละ 20 ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศตัดสินใจเข้ามาลุงทุนถ่ายทำในประเทศไทย โดยกองกิจการภาพยนตร์และวิดีทัศน์ต่างประเทศ (TFO Thailand Film Office) ได้จัดอันดับ 5 จังหวัดของประเทศไทยที่ผู้สร้างภาพยนตร์จากทั่วโลกนิยมใช้เป็นโลเคชันหลักในการถ่ายทำ ดังนี้ อันดับที่ 1 กรุงเทพมหานคร จำนวน 282 เรื่องอันดับที่ 2 ชลบุรี จำนวน 77 เรื่อง อันดับที่ 3 สมุทรปราการ จำนวน 60 เรื่อง อันดับที่ 4 ปทุมธานี จำนวน 52 เรื่อง และอันดับที่ 5 ภูเก็ต จำนวน 47 เรื่อง
นอกจากมาตรการส่งเสริมแรงจูงใจแล้ว คณะถ่ายทำต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นสิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในทุกความต้องการของผู้สร้างหนังได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถกระจายรายได้ไปสู่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ เกิดการจ้างงานทีมงานไทย การเช่าสถานที่และอุปกรณ์การถ่ายทำ หรือในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการประชาสัมพันธ์ Soft power ด้านต่างๆ ของประเทศไทยผ่านกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศ ซึ่งสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้ชมทั่วโลก อันจะทำให้เกิดการท่องเที่ยวตามรอยการถ่ายทำภาพยนตร์ต่อไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|