กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
"อาร์เอส" ประกาศจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์แพร่ภาพฟุตบอลยูโร 2008 ทั่วประเทศ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ส้มตำน้ำตก หมูกระทะ และข้าวต้มโต้รุ่ง ที่เปิดฟรีทีวีนัดฟาดแข้งเรียกลูกค้าเข้าร้าน ต้องควักกระเป๋าจ่ายราคาเหมาตลอดทัวร์นาเมนต์ 2,000 และ 5,000 บาท หากฝ่าฝืน เจอโทษหนักทั้งจำคุก 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1-8 แสนบาท ขณะที่ผู้ประกอบการไม่เห็นด้วยเหตุดูผ่านฟรีทีวี ปฏิเสธจ่ายเงิน ขอรอ "กรมทรัพย์สินทางปัญญา" ชี้ขาดต่อไปขณะที่เจ้าของร้านค้า -ธุรกิจกลางคืนต้านเก็บลิขสิทธิ์ ขู่หากทำจริงโดนรุมต้านแน่
ปัญหาการจัดเก็บลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2008 ระหว่างวันที่ 7-29 มิถุนายน 2551 ของบริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด (ทีซีซี) จนทำให้กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและโรงแรมได้ร้องเรียนไปยังกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายยรรยง อัครจินดานนท์ รองกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และนายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานกฎหมายและปราบปราม บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด (ทีซีซี) ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงถึงกรณีดังกล่าว นายสุทธิศักดิ์เปิดเผยว่า อาร์เอสซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เผยแพร่ฟุตบอลยูโรแต่เพียงผู้เดียวในเมืองไทย ได้มอบหมายให้ทีซีซีจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่ครั้งนี้ ทั้งการถ่ายทอดสดผ่านทีวีช่อง 7 และช่อง 9 รวมถึงผู้ประกอบการที่สนใจจะนำไปต่อยอดธุรกิจเพื่อผลประโยชน์การค้าหรือในเชิงของธุรกิจเพื่อดึงดูดลูกค้า เช่น ห้องอาหารภายในโรงแรม ภัตตาคาร สวนอาหาร ร้านอาหารอีสาน ร้านหมูกระทะ และข้าวต้มโต้รุ่ง ถึงแม้จะดูผ่านเคเบิลทีวี แต่ถ้าเปิดเพื่อการค้าก็จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เช่นกัน แต่ไม่เรียกเก็บผู้ที่รับชมภายในบ้าน ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้รณรงค์และประชาสัมพันธ์ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต ฯลฯ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากร้านค้าและร้านอาหารเป็นอย่างดี
ในต่างประเทศธุรกิจด้านการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ถือเป็นเรื่องปกติ ในสหรัฐอเมริกาก็มีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์แบบนี้เช่นกัน สำหรับในเมืองไทยยังเป็นเรื่องใหม่ แต่ก็ได้รับการยอมรับมากขึ้น และจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการร้านค้าต่างเห็นว่า อัตราค่าลิขสิทธิ์มีราคาถูกมาก ซึ่งมีด้วยกัน 2 ราคา โดยคิดจากขนาดจอทีวีคือ ขนาดจอเล็กกว่า 50 นิ้ว ราคา 2,000 บาทต่อจอ และขนาดจอ 50 นิ้วขึ้นไป ราคา 5,000 บาทต่อจอ อย่างไรก็ตาม ถ้าซื้อก่อนวันที่ 31 มีนาคมนี้ จะได้รับส่วนลด 40 เปอร์เซ็นต์ หากซื้อระหว่างวันที่ 1 เมษายน-31 พฤษภาคม 2551 จะได้รับส่วนลด 20 เปอร์เซ็นต์
นายสิทธิศักดิ์กล่าวต่อว่า ช่วงแข่งขันจะส่งบุคลากรจำนวน 200 คนลงไปตรวจสอบ หากพบว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ ในเบื้องต้นจะตักเตือนก่อน แต่ถ้ายังฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ผู้กระทำผิดการละเมิดลิขสิทธิ์ ต้องโทษตามมาตรา 69 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 2 หมื่นถึง 2 แสนบาท ถ้าเป็นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้า ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1-8 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่หมายเลข 0-2938-8000 ต่อ 2302-2316
ด้านนายยรรยงกล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่ซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเก่าของอาร์เอสที่สนใจแล้วประมาณ 1 หมื่นราย ส่วนลูกค้าใหม่ก็มีติดต่อมาแล้ว ซึ่งรวมถึงร้านอาหารอีสาน แต่ยังมีจำนวนไม่มาก คาดว่าช่วงใกล้แข่งขันจะตื่นตัวมากกว่านี้ และที่ผ่านมาได้ประสานผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเชิญผู้ประกอบการมาทำความเข้าใจ รวมถึงขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้สอดส่องและติดตามผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ให้ อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกต่อว่าจากการดำเนินการครั้งนี้ แต่อาร์เอสขอยืนยันได้ทำตามสิทธิ์ ในฐานะเจ้าของลิขสิทธิ์ที่ถูกต้อง
ขณะที่นายศักรินทร์ ช่อไสว ผู้จัดการสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า ทางสมาคมไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์บอลยูโรในสถานประกอบการของอาร์เอส เนื่องจากการออกอากาศผ่านสถานีฟรีทีวี จึงไม่สามารถจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ได้ เนื่องจากช่องฟรีทีวีเกิดขึ้นจากความสมัครใจ ว่าใครๆ ก็สามารถรับชมรายการจากช่องทีวีดังกล่าวได้อยู่แล้ว อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมก็ไม่ได้มีการจัดกิจกรรมในการเชียร์ฟุตบอล เพื่อเรียกกลุ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการ เป็นเพียงกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการปกติ เช่น ในห้องอาหารของโรงแรมและอาจนั่งชมการถ่ายทอดฟุตบอลเท่านั้น
ทั้งนี้ สมาคมจะรอดูท่าทีของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่เป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา และศึกษากฎหมายว่าเปิดช่องให้มีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์รายการทีวีผ่านทางช่องฟรีทีวีหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นบรรทัดฐานในอนาคต หากอาร์เอสสามารถเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากช่องฟรีทีวีได้ ในอนาคตยังมีการแข่งขันโอลิมปิกก็ต้องมีการจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์อีก หรือหากรายการทีวีใดที่มีคนชมเป็นจำนวนมาก ก็อาจออกมาเรียกร้องจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์รายการทีวีเช่นเดียวกันกับกรณีนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก
"ไม่ควรมีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์จากรายการที่นำมาออกผ่านฟรีทีวี เพราะถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ อย่างนี้หากเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดทีวีชมฟุตบอล แล้วมีคนเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวในร้านช่วงเวลาที่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลกลับต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ อย่างนี้ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่หากนำไปออกในช่องทรูวิชั่นส์ แล้วมีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่างนี้ยังพอรับได้" นายศักรินทร์กล่าว
ด้านผู้ประกอบการแห่งหนึ่งย่านท่าพระอาทิตย์กล่าวว่า ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นตัวแทนจากบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย ในเครืออาร์เอส ได้เข้ามาติดต่อเพื่อจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร โดยมีการสอบถามว่าทางร้านเปิดชมการแข่งขันฟุตบอลยูโรหรือไม่ หากเปิดจะต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ให้อาร์เอส ซึ่งทางร้านได้สอบถามว่า หากทรูวิชั่นส์ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดผ่านทางอาร์เอส แล้วร้านเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์ ทำไมจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้อาร์เอสอีก เจ้าหน้าที่ก็พยายามคะยั้นคะยอให้ร้านต้องจ่ายเงินค่าสมาชิกภายในวันนี้ โดยเสนอโปรโมชั่นส่วนลด 40 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับขู่ว่าหากไม่จ่ายแล้วมีการตรวจเจอจะต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ทางร้านได้ปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ เพราะกว่าจะมีการแข่งฟุตบอลยูโรก็อีกหลายเดือน อีกทั้งรูปแบบการจัดเก็บยังแตกต่างจากครั้งฟุตบอลโลกเมื่อปี 2549 ที่เบียร์ช้างเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ที่แม้จะมีการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในการชม แต่ก็มีการแลกเปลี่ยนกัน โดยร้านจะต้องจำหน่ายแต่เบียร์ช้างเท่านั้น หรืออาจเข้ามาขอใช้พื้นที่เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการขายภายในร้านแทนการจ่ายค่าลิขสิทธิ์
ค่ำวันเดียวกัน "คม ชัด ลึก" สอบถามความเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยนางวัชรี สว่างโรจน์ เจ้าของร้านข้าวต้มมังกรแดง ย่านประชาชื่น ชี้ว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงถือว่าไม่เห็นด้วย เพราะปกติที่ร้านก็จะมีโทรทัศน์ไว้บริการลูกค้าอยู่แล้ว ไม่ใช่เฉพาะร้านตน ร้านอื่นก็มีเช่นกัน แต่ไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นการค้าขายแต่อย่างใด เพราะส่วนใหญ่ก็มีไว้ชมรายการต่างๆ รวมทั้งเด็กเสิร์ฟในร้าน หากว่างงานก็สามารถชมได้ หากลูกค้ารายใดต้องการจะชมรายการของสถานีใดก็จะเรียกให้เด็กในร้านเปิดให้ชม ทางเรามีหน้าที่ให้บริการลูกค้าอยู่แล้ว ไม่มีร้านไหนที่จะปฏิเสธลูกค้าอยู่แล้ว ถ้าลูกค้าจะเรียกร้องขอชมฟุตบอลก็เป็นเรื่องปกติ
นางวัชรีกล่าวอีกว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าบริษัทมีรายได้สูงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จากทางร้าน เพราะเราเหมือนประชาชนทั่วไปที่ต้องการชมรายการต่างๆ ที่อยู่ในกระแส เช่น ฟุตบอลยูโร เจ้าของร้านก็เปิดเพื่อชมเองด้วยเช่นกัน เหตุใดต้องมาเรียกเก็บ คิดว่าน่าจะเกิดผลกระทบบ้าง เช่น ร้านเล็กๆ ที่มีรายได้น้อยๆ อยู่แล้วต้องมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์อีกหรือ แล้วจะมีกำไรจากส่วนใด ทั้งที่บางทีเจ้าของร้านชมเองต้องมาเสียค่าลิขสิทธิ์อีก รู้สึกไม่ยุติธรรม
น.ส.ส้ม เจ้าของผับชื่อ ”ติดลม” ย่านตลาดประชานิเวศน์ 1 กล่าวว่า หากมีการเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์จริงตนไม่เห็นด้วยและขอต่อต้าน เพราะปกติที่ร้านมีโทรทัศน์ไว้บริการลูกค้าอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องช่วงเทศกาลฟุตบอลหรือช่วงเทศกาลใดๆ ซึ่งทำมานานแล้ว ไม่ใช่เฉพาะร้านตนเท่านั้น เชื่อว่าร้านอื่นๆ ก็คงไม่เห็นด้วยเช่นกัน คิดว่าไม่น่าจะมาเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ดังกล่าว เพราะประชาชนทั่วไปสามารถเปิดชมรายการได้อยู่แล้วที่บ้านไม่จำเป็นต้องมาชมที่ร้านก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามตามร้านข้าวต้มรอบดึกและร้านอาหารต่างๆ รวมทั้งผับ ที่มีโทรทัศน์ไว้บริการลูกค้าต่างมีความเห็นตรงกันว่าไม่ควรจะมีการเก็บค่าลิขสิทธิ์
ที่มาจากคมชัดลึก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|