| • ส.ว.อภิปรายรัฐบาลเปิดแผล 10ไม่ ก่อวิกฤต |
|
โพสต์โดย reporter , วันที่ 24 มิ.ย. 51 เวลา 00:27:37 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ส.ว.เพชรบุรี ผู้ยื่นญัตติเปิดฉากอภิปรายรัฐบาลคนแรก ชี้รัฐบาลไม่จริงใจพลิกเกมให้เปิดอภิปรายได้กะทันหัน "คำนูณ"ชี้ 10ไม่สร้างวิกฤตซ้ำเติมจากรัฐบาลชุด"ทักษิณ"ไม่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 9.30 น. มีการประชุมวุฒิสภา(สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ชี้แจงปัญหาความไม่สงบเรียบร้อย และปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ส่อว่าจะเกิดความเสียหายแก่บ้านเมือง ตามมาตรา 161 ของรัฐธรรมนูญ 2550 ที่นางสาวสุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี และคณะรวม 61 คน เป็นผู้เสนอ
โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้ให้นางสาวสุมล และนายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา อภิปรายไม่จำกัดเวลา ส่วน ส.ว.คนอื่นๆ อภิปรายคนละ 15 นาที โดยนายสมัคร สุนทรเวช นายรัฐมนตรี นำ ครม. มาร่วมรับฟังการอภิปราย
น.ส.สุมล กล่าวว่า การยื่นญัตติครั้งนี้ ขอยืนยันว่าทำด้วยความหวังดี ในท่ามกลางที่บ้านเมืองมีวิกฤตมากมาย ที่ต้องการให้รัฐบาลได้รับทราบ และตอบคำถาม เพื่อที่จะคลี่คลายปัญหาทั้งปวง แต่เป็นที่น่าเสียใจที่รัฐบาลได้ปฏิเสธการตอบข้อซักถามของ ส.ว. ในเบื้องต้น เป็นเหตุให้ ส.ว. เชื่อว่ารัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงการตอบคำถามของ ส.ว. โดยอ้างว่าไม่มีเวลาและการประชุมในสมัยประชุมนี้ มีไว้เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณเท่านั้น
อย่างไรก็ตามในวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. รัฐบาลได้ตอบกลับมา โดยกำหนดว่าให้มีการอภิปรายในวันนี้เหมือนเดิม โดยส่วนตัวเห็นว่า เป็นการให้คำตอบในห้วงเวลาที่ฉุกละหุก
"ไม่อยากจะคิดเลยว่า รัฐบาลได้ใช้อกุศโลบาย หรือการใช้เล่ห์เหลี่ยมทางการเมือง เพื่อให้เราตายใจเตรียมตัวไม่ทัน รู้สึกเสียใจในการกระทำของรัฐบาลต่อรัฐสภาไทย จึงอยากถามว่า นี่คือการเล่นเกมของรัฐบาลใช่หรือไม่ นี่คือการวางแผนล่วงหน้าแล้วใช่หรือไม่ นี่คือความไม่จริงใจของรัฐบาลต่อ ส.ว.ใช่หรือไม่ แน่นอนว่ารัฐบาลคงตอบไม่ใช่ แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ดิฉันขอตอบว่าใช่ และไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ส.ว. ไม่มีพรรคการเมืองสังกัด ไม่มีบุคคลใดเป็นเงาอยู่เบื้องหลัง แต่ตระหนักถึงวิกฤตการเมืองเป็นสำคัญ จึงต้องถามรัฐบาลตามหน้าที่ของ ส.ว." น.ส.สุมล กล่าว
ส.ว.เพชรบุรี อภิปรายต่อไปว่า ครม.ภายใต้การนำของนายสมัคร ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 4 เดือน โดยได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2551 ว่าจะบริหารราชการเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขต่อชาติบ้านเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งให้เกิดความสมานฉันท์กับคนในชาติ แต่พฤติการณ์ของรัฐบาล 4 เดือนที่ผ่านมา ได้สวนทางกับการแถลงของนโยบายอย่างสิ้นเชิง เหตุการณ์ไม่สงบสุขเกิดขึ้นทั่วบ้านทั่วเมือง ส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง บางประการเกิดจากรัฐบาลโดยตรง บางปัญหาเกิดจากการเทน้ำมันราดบนกองเพลิงของรัฐมนตรีบางคน
น.ส.สุมล กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ขณะนี้ปักหลักอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดา คงต้องมองที่ต้นเหตุของปัญหา ซึ่งจุดเริ่มต้นของปัญหา เริ่มจากรัฐบาลแทนที่จะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่จะต้องแก้ไข แต่รัฐบาลนี้และพรรคพลังประชาชน กลับมีความร้อนรนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งเรื่องนี้อยากจะเรียกว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เพื่อช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ให้พ้นจากมลทินข้อหาโกงบ้านกินเมือง และให้พ้นจากบ้านเลขที่ 111 ตลอดจนให้หลดพ้นจากการอายัดทรัพย์เกือบแสนล้าน อีกทั้งการแก้รัฐธรรมนูญดังกล่าว ยังเป็นการล้มล้าง หรือบั่นทอนการตรวจสอบขององค์กรอิสระบางแห่ง ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม หากพิจารณาให้ดีการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ส่อไปในทางยกเลิกรัฐธรรมนูญทั้งฉบับส่อว่าจะขัด มาตรา 291
น.ส.สุมล กล่าวว่า วันนี้ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข มีการประท้วงของประชาชนในกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น การประท้วงปิดปากอ่าวเผาเรือประมง ของชาวประมงในภาคใต้ การประท้วงของกลุ่มเกษตรกรรายย่อย ประกอบการรถร่วมโดยสารสาธารณะ ปัญหาราคาสินค้าแพงทวีความรุนแรงมากขึ้น เกิดข้อสงสัยถึงการตัดสินในเชิงนโยบายของ ครม. เพราะขณะที่นายทุนที่ใกล้ชิดกับคนแวดวงรัฐบาล ร่ำรวยมากขึ้นทุกวัน แต่รายได้ของประชาชน และข้าราชการ กลับไม่กระเตื้องขึ้น การแก้ไขปัญหาราคาข้าวสารของกระทรวงพาณิชย์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม และไม่ได้แก้ปัญหาจริง ซ้ำยังไปซ้ำเติมปัญหาให้รุนแรงมากขึ้น ขณะที่ในกลุ่มอุปโภค บริโภค ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นปัญหารัฐบาลนี้ไม่มีความชัดเจนในการแก้ปัญหา ทั้งที่ต้องระดมสรรพกำลัง และองค์ความรู้ของประเทศมาร่วมกันแก้ไข ปัญหาชายแดนภาคใต้ยังมีการฆ่ากันตายทุกวัน
น.ส.สุมล กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำ ของนายสมัคร สุนทรเวช ส่อไปในทางล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ไม่มีภาวะของการเป็นผู้นำ ปัญหาความยากจนยังไม่ได้รับการแก้ไข ปล่อยให้มีการกดราคาพืชผลของเกษตรกร ชาวไร่ชาวนาอย่างไม่เป็นธรรม บ้านเมืองตกอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างที่ไม่ปรากฏมาก่อน มีการตั้งข้อสงสัยถึงการบริหารราชการแผ่นดินว่ามิได้ปฏิบัติตามหลักธรรมมาภิบาล มีการโยกย้ายข้าราชการที่ไม่เป็นธรรม ขัดต่อความรู้สึกของประชาชน มีพฤติกรรมขัดขวางการใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา แทรกแซงการทำงานขององค์การเภสัชกรรม เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฝ่ายบริหาร แทรกแซงและตัดตอนกระบวนการยุติธรรมด้วยการโยกย้ายอธิบดี และข้าราชการกรมสอบสวนคดีพิเศษ และข้าราชการตำรวจจำนวนมาก เสมือนเป็นการขัดขาวงมิให้คดีความของหมู่ขณะตนเอง เข้าสู่การพิจารณาคดีในชั้นศาล ล่าสุดยังได้มีการความพยายามใช้กลไกอำนาจสืบสวนสอบสวนทางราช คุกคามกลั่นแกล้ง และกดดันองค์กรตรวจสอบอิสระตามรัฐธรรมนูญ อันมีลักษณะเป็นทั้งการแทรกแซงองค์กรอิสระ และแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
น.ส.สุมล กล่าวว่า วันนี้มีคำถามต่อ ส.ว. จำนวนมากว่า รัฐบาลชุดนี้มีจุดยืนอย่างไร กรณีที่มีอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ชักนำนายทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนอย่างกว้างขวาง ซึ่งถูกสังคมตั้งข้อสังเกตว่า เสมือนเป็นการเตรียมยึดครองทรัพยากร และผลประโยชน์ของประเทศชาติ และสิทธิสัมปทานต่างๆในอนาคต ซึ่งเป็นอันตรายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติอย่างมีเงื่อนงำ เช่น กรณีการเปิดโอกาสให้ชาวตะวันออกกลาง เข้ามาศึกษาแทน ผูกขาดในการทำงานการขนส่งทางบก เชื่อมต่อระหว่างบริเวณจากชายฝั่งทะเลตะวันออก ไปยังชายฝั่งทะเลตะวันตก หรือที่เรียกว่า แลนด์บริดจ์ ตลอดจนการเปิดช่องทางให้ทุนขนาดใหญ่จากประเทศตะวันออกกลาง ให้เข้ามาหาประโยชน์จากการทำนา ซึ่งเป็นอาชีพสงวนของคนไทย ตลอดจนทำธุรกิจข้าวแบบครบวงจร ปัญหาเขาพระวิหาร ที่กัมพูชากำลังนำปราสาทพระวิหาร และดินแดนส่วนหนึ่งของไทย ที่เป็นปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ไปจดทะเบียนเป็นมรดกดโลก โดยรัฐบาลไทยโดยเฉพาะ รมว.ต่างประเทศ ไม่ได้แสดงบทบาทขัดขวาง หรือปกป้องดินแดนไทยอย่างจริงจัง
"ถ้าปัญหาต่างๆที่กล่าวมาเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้บ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย และส่อว่าจะเกิดปัญหาใหญ่ในบ้านเมือง ท่านยังยืนยันว่าการเป็นนอมินี หรือตัวแทนของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ที่ถามแบบนี้เกี่ยวเนื่องกับการภาวะผู้นำของประเทศไทย และของประชาคมโลก หากยืนยันการเป็นนอมินี ถือว่าไร้ศักดิ์ศรีของการเป็นผู้ประเทศอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนเจ้าของอธิปไตย นายกฯต้องตอบข้อซักถามเหล่านี้ให้หมด" น.ส.สุมล กล่าว
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ได้อภิปรายโจมตีรัฐบาล กรณีที่ไม่พยายามปกป้องสถาบันเบื้องสูง อันเป็นที่เคารพสักการะของคนไทย และมีความพยายามที่จะล้มล้างสถาบันองคมนตรี โดยมีการหยิบยกเรื่องการไม่ดำเนินการกับเวปไซต์ ที่เผยแพร่ข้อความในลักษณะหมิ่นสถาบัน โดยพูดพาดพิงไปถึงคนหัวเถิก ที่นายสมัครเคยกล่าวถึงมาก่อน ซึ่งคนหัวเถิกที่นายกฯพูดถึง คือคนที่พยายามดำเนินการให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ปิดเวปไซต์ดังกล่าว รวมถึงประเด็นการขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ตัดบทเฉพาะกาลออก ซึ่งส่วนนี้จะรวมถึงสถาบันองคมนตรีด้วย ตลอด 4 เดือนนายกฯไม่มีความเข้าใจเรื่องบทบาทการเมืองของภาคประชาชน หากเรายึดระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประชุม เราไม่สามารถปฏิเสธการเมืองภาคประชาชนได้ แต่ท่าทีของนายกฯ กลับทำให้การเมืองไทยลุกลามกลายเป็นวิกฤติ
นายคำนูณ กล่าวต่อว่า ถือว่ารัฐบาลนี้มีครบลักษณะของรัฐบาล 10 ไม่ คือ ไม่เข้าใจการเมืองในมิติใหม่ของภาคประชาชน ไม่เคารพประชาชนที่ถือเป็นเจ้าของประเทศ ไม่จัดสรรบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งด้วยความเหมาะสม ไม่ชัดเจนในทิศทางการแก้ปัญหาของชาติ ไม่ยึดถือหลักธรรมาภิบาลในการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐบาลขาดเอกภาพในการบริหารงานรัฐมนตรีต่างคนต่างทำงานไปคนละทาง ไม่แสดงให้เห็นว่ายึดถือผลประโยชน์ส่วนรวม เอาแต่ผลประโยชน์ของพวกพ้อง ไม่มีวุฒิภาวะ ขาดภาวะความเป็นผู้นำ หยาบคาย ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ เอื้ออาทรให้กลุ่มทุนต่างชาติเข้ามายึดทรัพยากรของชาติ ที่สำคัญที่สุดคือไม่พยายามที่จะปกป้องสถาบันกษัตริย์ แต่บางครั้งยังปกป้องและสนับสนุนคนที่เป็นปฏิปักษ์กับแนวทางระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ที่มาจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1097 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย reporter
IP: Hide ip
, วันที่ 24 มิ.ย. 51
เวลา 00:27:37
|
