“ซิ โก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาทีมชาติไทย ที่หันมาเอาดีในการทำธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการแข่งขันและสอนฟุตบอลในนาม บริษัท สปอร์ต ฮีโร่ จำกัด และดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ตัดสินใจเปิดห้องราชาวดี โรงแรมเรดิสัน ย่านถนนพระราม 9 แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ส.ค. กรณีฟ้องร้องนายรัฐสุภา ธีรณัฐสุภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มหาภาค มีเดีย แอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ว่าจ้างทำโครงการแข่งขันฟุตบอลโรงงาน ได้จ่ายเช็คเด้ง หนำซ้ำนำชื่อไปแอบอ้างจนได้รับความเสียหายอย่างมาก
“ซิโก้” ศูนย์หน้าจอมตีลังกา กล่าวถึงที่มาของเรื่องราวที่ทำให้ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลในครั้งนี้ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนที่จะหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาโดยไม่อายใครว่า ความจริงแล้วบริษัทของตนมีความคิดที่จะทำ โครงการแข่งขันฟุตบอลประชาชนมาตั้งแต่แรกแล้ว เพื่อต้องการพัฒนากีฬาฟุตบอลในประเทศไทยให้มีคุณภาพมากขึ้น แต่ขาดเงินทุน
กระทั่งเมื่อประมาณเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นายรัฐสุภาได้ติดต่อเข้ามาแสดงวัตถุประสงค์เพื่อจัดการแข่งขันฟุตบอลโรงงาน ขึ้น โดยใช้ชื่อโครงการว่า การแข่งขันฟุตบอลอินดัสเตรียลคัพ หลังจากที่ตนพิจารณาแล้วเห็นว่า มีแนวทางสอดคล้องกับโครงการฟุตบอลประชาชนของตน
โดยนายรัฐสุภาบอกกับตนว่ามีเงินทุนสนับสนุนการจัดการแข่งขันโครงการฟุตบอล ดังกล่าว แต่ขาดคนทำ ตนเห็นว่ามันลงตัวดีทุกอย่าง จึงตกลงทำสัญญากัน โดยนายรัฐสุภาให้ตนนำเงินสดจำนวน 5 แสน 5 หมื่นบาท มาเป็นหลักค้ำประกัน
ซึ่งทำให้ตนรู้สึกผิดสังเกต แต่ ไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากทำสัญญากันเรียบร้อย นายรัฐสุภาและบริษัทมหาภาคฯได้เซ็นเช็คไว้ให้ตน 1 ฉบับ เป็นเงิน 1 ล้าน 7 แสนกว่าบาท เพื่อนำมาใช่จ่ายในการทำงาน
ซิโก้เปิดเผยอีกว่า นายรัฐสุภายังพูดถึงรายการ “ซิโก้ ทิปส์” เป็นรายการสอนฟุตบอลที่ตนผลิตขึ้นมาออกอากาศทางช่อง 3 โดยเสนอตัวเข้ามาดูแลในการหาผู้สนับสนุนรายการทีวีดังกล่าว ทำให้เกิดการทำสัญญาขึ้นเป็นครั้งที่ 2 กับบริษัทมหาภาคฯ ตนเห็นว่าทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย จึงเตรียมการแข่งขัน
รวมทั้งติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว แต่บริษัทมหาภาคฯ กลับมีพฤติกรรมในการชำระเงินล่าช้า เช็คฉบับที่ตนรับมาหลังจากเซ็นสัญญาเมื่อนำไปขึ้นเงินกลับถูกตีคืน
ตนจึงมีความจำเป็นที่ต้องหยุดการดำเนินการทุกอย่าง เพราะไม่สามารถที่จะแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่างๆได้ รวมถึงรายการ ซิโก้ ทิปส์ ด้วย ที่ต้องหยุดออกอากาศไปโดยปริยายและทิ้งเงินไป 3 ล้านกว่าบาท
อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยชื่อดัง ต้องหยุดแถลง ข่าวชั่วขณะเพราะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เป็นครั้งที่ 2 ต้องควักผ้าเช็ดหน้าออกมาซับน้ำตาตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ของบริษัทสปอร์ต ฮีโร่ หลายคนพากันร่ำไห้ตามซิโก้ไปด้วย และหลังตั้งสติได้ ซิโก้กล่าวอีกว่า
ตนรู้สึกอึดอัดมานานหลายเดือน สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้การดำเนินชีวิตของตนไม่ราบรื่น ที่ผ่านมาตนไม่เคยด่างพร้อยทั้งในสนามและนอกสนาม สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้ ทำให้นอนไม่หลับ ซ้ำร้ายยังถูกนำชื่อเสียงของตนเองไปหากินด้วยการแอบอ้างชื่อว่า
ตนเป็นคนจัดการแข่งขันฟุตบอลดังกล่าวขึ้นมา เพื่อหาเงินสนับสนุนโครงการตามหน่วยงานจากภาครัฐ เท่านั้นยังไม่พอ ยังเรียกเงินค่าสมัครเข้าร่วมแข่งขันจากโรงงานต่างๆ โรงงานละ 1 หมื่น 5 พันบาท
นักบอลชื่อดังกล่าวอีกว่า หลังจากนั้น ทางบริษัทมหาภาคฯจัดงานแถลงข่าวขึ้นโดยไม่ยอมบอก ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนโครงการดังกล่าวโทรศัพท์มาต่อว่า ตนก็บอกไปว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานดังกล่าวแน่นอน เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ ถ้าขืนปล่อยไปคนที่เดือดร้อนจะต้องเป็นตน
ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำ เงินกว่า 20 ล้านบาท ตนจะเอาที่ไหนไปคืนเขา สุดท้ายต้องออกมาแจ้งให้ทุกคนรับรู้ว่า โครงการฟุตบอลดังกล่าว ไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย และไม่เคยขอเงินใครมาทำโครงการนี้ ถ้าไม่เห็นตัวเป็นๆ ของตน อย่าให้เงินเด็ดขาด และที่ออกมาแถลงข่าวเพื่อจะบอกว่า
ขอยกเลิกสัญญากับบริษัทมหาภาคฯ ส่วนเรื่องคดีความต่างๆไม่ได้แจ้งความ แต่ให้ทนายความประจำตัวฟ้องร้องนายรัฐสุภาและบริษัทมหาภาคฯ แล้ว โดยเรียกค่าเสียหายที่เกิดขึ้นตามสัญญาเป็นเงินกว่า 15 ล้านบาท ส่วนค่าเสียหายอื่นๆ ขอมอบหมายให้ทนายความดำเนินการตามสิทธิของตนต่อไป
ซิโก้กล่าวในตอนท้ายอีกว่า หลายคนที่มีชื่อเสียงในวงการกีฬาเคยถูกบริษัทนี้เอาเงินไป ที่เห็นๆ ก็มี โค้ชหรั่ง-ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทย วิชัย ราชานนท์ นักชกเหรียญทองแดงโอลิมปิก และสืบศักดิ์ ผันสืบ นักตะกร้อทีมชาติไทย ก็เคยโดนมาทั้งนั้น ตนอยากจะเตือนให้นักกีฬาที่เป็นฮีโร่ทั้งหลายระวัง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายวิชัย ราชานนท์ ทราบว่าเป็นเรื่องจริงที่นายรัฐสุภาเอาชื่อไปแอบอ้าง เพื่อหลอกเงินโดยใช้ชื่อตนทำให้ต้องเสียชื่อเสียเสียง
ขณะที่โค้ชหรั่ง-ชาญวิทย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ตนไม่ได้ถูกโกงเงินแต่อย่างใด แต่รู้ว่านายรัฐสุภามีปัญหาเรื่องการเงินจริง
ด้านนายวรินทร์ เทียมจรัส จากสำนักงานทนายความวรนิติ ซิโก้ได้มอบหมายให้ติดตามฟ้องร้องนายรัฐสุภา และบริษัทมหาภาคฯ กล่าวว่า คงจะแยกฟ้องเป็นเรื่องๆไป อย่างเรื่องสัญญาก็แบ่งเป็นสองเรื่อง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแอบอ้างชื่ออีก ตนได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว
ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก