• เตรียมส่งเสด็จฯสมเด็จพระพี่นาง เชียงใหม่ - ลำพูน ร่วมถวายความอาลัย |
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 15 พ.ย. 51 เวลา 12:02:12 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เตรียมส่งเสด็จฯสมเด็จพระพี่นาง เชียงใหม่ - ลำพูน ร่วมถวายความอาลัย
.................ส่งเสด็จฯ............
เชียงใหม่ - ลำพูน ร่วมถวายความอาลัย เตรียมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมสร้าง "นกหัสดีลิงค์" เพื่อแสดงความอาลัยและแสดงความจงรักภักดีถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อย่างสมพระเกียรติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย.51 ที่วัดสวนดอก ต.สุเทพ อ.เมือง จ.ชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ ได้เร่งจัดเตรียมและตกแต่งสถานที่บริเวณโดยรอบวัด ซึ่งจะใช้เป็นสถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลและพิธีถวายดอกไม้จันทน์ในพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พ.ย.2551 นี้ ขณะที่การก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง ที่จะใช้ในการประกอบพิธี ได้มีการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว และได้มีประชาชนต่างสนใจทยอยมาดูพระเมรุมาศจำลอง กันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดขึ้นอย่างประณีตสวยสดงดงาม ตระการตา
นายสุเทพ กาญบุตร นายช่างโยธา สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองเชียงใหม่ ซึ่งรับผิดชอบการควบคุมการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลองดังกล่าว เปิดเผยว่า พระเมรุมาศจำลอง ใช้เวลาในก่อสร้างประมาณ 1 เดือน ที่ผ่านมา ปัจจุบันได้สร้างเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว โดยใช้ช่างพื้นเมืองเชียงใหม่ โครงสร้างหลักเป็นไม้เนื้ออ่อน ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นประมาณ 2 แสนบาท สำหรับพิธีที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พ.ย.2551 นั้น คาดว่า จะมีประชาชนเข้าร่วมจำนวนมาก โดยเบื้องต้นได้มีการจัดเตรียมดอกไม้จันทน์สีทองไว้ประมาณ 10,000 ชิ้น ซึ่งนอกจากการจัดพิธีที่วัดสวนดอกในเขตอำเภอเมืองแล้ว ก็ยังมีการจัดพิธีขึ้นในทุกอำเภออีกด้วย
ทางด้าน นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้กล่าวว่า จังหวัดลำพูนได้ร่วมกันจัดสร้าง “นกหัสดีลิงค์” เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยและแสดงความจงรักภักดีถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นาง เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งค่าจัดสร้างทั้งสิ้นใช้งบประมาณ 6 แสนบาทโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ร่วมสมทบทุนสร้างเป็นจำนวนเงิน 1 แสนบาท ส่วนอีก 5 แสนบาท พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ (พระครูบาอินทร ปัญญาวัฑฒโน) เจ้าอาวาสวัดสันป่ายางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน พร้อมด้วยศิษยาณุศิษย์และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาครูบาร์อินทรเป็นผู้ออกค่าใช้ จ่าย โดยครูบาร์อินทรทำการออกแบบสร้าง ตามแบบศิลปะล้านนา มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 9 เมตร สูง 8 เมตร อย่างสมพระเกียรติฯ
ซึ่งครูบาร์อินทร ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้ร่วมกับบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านจำนวน 100 กว่าคน ร่วมกันจัดสร้าง “นกหัสดีลิงค์”ขึ้น ให้แล้วเสร็จทันในวันพิธีพระราชทานเพลิงศพฯ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งการจัดสร้างครั้งนี้ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา และแล้วเสร็จในวันนี้(13 พย.) พร้อมกับขนย้ายไปยังวัดพระธาตหริภุญไชย วรมหาวิหาร ตำบลในเมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานของจังหวัดลำพูนในเย็นวันเดียวกันนี้ โดยใช้เวลา 9 วันในการจัดสร้างครั้งนี้
ครูบาร์อินทร ได้กล่าวต่ออีกว่า ตามตำนานล้านนาได้กล่าวไว้ว่า นกหัสดีลิงค์เป็นนกใหญ่ตัวโตเท่าช้าง เรียกชื่อตามภาษาบาลีว่า หัตถิลิงคะสะกุโณ เรียกตามภาษาของเราว่า นกหัสดีลิงค์ ตามประวัติศาสตร์ล้านนา ที่เล่าขานต่อกันมาว่า นกหัสดีลิงค์ เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีความพิเศษ คือ มีเพศเพียงดั่งช้าง เป็นนกที่มีหัวเป็นช้าง มีหางเป็นหงส์ มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ 3-5 เชือกรวมกัน ซึ่งเป็นสัตว์คู่บารมีของกษัตรา เจ้าเมืองผู้มีอำนาจบารมีสูง ความเชื่อของชาวล้านนา แต่อดีตกาล นิยมสร้าง ปราสาทนกหัสดีลิงค์ เพื่อบรรจุศพของกษัตริย์เจ้านายฝ่ายเหนือ รวมถึงพระมหาเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มรณภาพ เพื่อให้พิธีศพสง่างาม สมฐานะบารมี และเป็นการส่งดวงวิญญาณไปสู่ชาติสรวงสวรรค์ชั้นพรหมโลก เทวโลก แต่ในปัจจุบัน ปราสาทนกหัสดีลิงค์ นิยมใช้ในพิธีศพของพระเถระชั้นผู้ใหญ่เท่านั้น
โดยรูปลักษณะของตัวนกหัสดีลิงค์นั้น มีรูปร่างโครงสร้างส่วนหัวและลำตัวทำจากโครงไม้ ตัดแต่งกระดาษเป็นลวดลาย ทำเป็นเกล็ด ส่วนหัวช้าง มีความพิเศษของการเคลื่อนไหวไปมาได้ โดยชิ้นส่วนคอและหัว ต้องเคลื่อนไหวหมุนไปมา ใบหูสามารถพับกระพือได้ ส่วนงวงทำจากผ้าเย็บเป็นทรงกระบอก เลียนแบบงวงช้าง มีเชือกร้อยอยู่ด้านในสำหรับดึง เคลื่อนไหวได้ ดวงตาต้องมีลักษณะกลมมน ขนตายาวสวย กะพริบได้ เหมือนมีชีวิตจริงๆ ในอดีต เมื่อเจ้านายฝ่ายเหนือสิ้นชีพิตักษัย การจัดประเพณีศพของเจ้านายสมัยนั้น จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ และสมเกียรติ ด้วยการสร้างบุษบก สวมทับพระโกศ ตั้งบนหลังนกหัสดีลิงค์ ใช้เชือกเส้นโตๆฉุดลากด้วยช้าง และให้ชาวบ้านชาวเมืองเดินตามขบวนแห่ไปยังสุสาน หรือใช้คนฉุดลากซึ่งจะมีคนมาร่วมฉุดลากเป็นหมื่นๆไปสุสาน ร่วมแรงรวมพลัง ตามความเชื่อที่ว่า หากผู้ใดได้ลากปราสาทนกหัสดีลิงค์แล้ว จะมีอายุเพิ่มขึ้นยืนยาว ครั้งละ 1 ปี ปัจจุบันพิธีศพนี้ นำมา
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1515 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 15 พ.ย. 51
เวลา 12:02:12
|