| • ในหลวง' ประชวร ช่องพระศอ พระอาการไม่หนัก |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 05 ธ.ค. 51 เวลา 14:43:10 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ในหลวง' ประชวร ช่องพระศอ พระอาการไม่หนัก
|
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ รับการถวายพระพรชัยมงคลจากคณะบุคคลต่างๆ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม เนื่องจากทรงพระประชวรช่องพระศอและหลอดพระศออักเสบ โดยทรงฝากพระกระแสขอบใจมายังผู้เข้าเฝ้าถวายพระพรชัยมงคลและพระราชทานพรให้ทุกคนมีความสุขมีความเจริญ มีกำลังกายกำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ขณะที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเล่าถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ทรงเสวยเครื่องไม่ค่อยได้ หลอดลมมีเสมหะมาก ทำให้รู้สึกไม่ทรงพระสำราญ อ่อนเพลีย ไม่มีไข้ แต่พระอาการไม่หนักมาก
ปวงประชาชาวไทยทั่วแผ่นดิน ร่วมแซ่ซ้องถวาย พระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่งในวันที่ 5 ธันวาคม โดยในปีนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมายุครบ 81 พรรษา แต่เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระประชวร ในการนี้จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เข้าเฝ้าถวายพระพร เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 ธ.ค. โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเสด็จด้วย
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ความว่า ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาท เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัย คล้ายวันพระบรมราชสมภพ เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง ในวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2551 นี้ ข้าพระพุทธเจ้า นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี ข้าราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ต่างมีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่ใต้ฝ่าละอองพระบาทมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงสถิตเป็นมิ่งขวัญฉัตรแก้ว ร่มเกล้าของปวงพสกนิกรไทย ใต้ฝ่าละออง พระบาทเป็นพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ นับแต่เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เมื่อพุทธศักราช 2489 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบัน เป็นเวลายาวนานถึง 62 ปี เป็นที่ประจักษ์ว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาท ยึดมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม สมดังพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม พระราชกรณียกิจทั้งปวงล้วนมุ่งขจัดทุกข์ ผดุงสุขแก่พสกนิกรและก่อให้เกิดการพัฒนาประเทศแบบยั่งยืน
นายชวรัตน์กล่าวต่อว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาททรงพระกรุณาทุ่มเทอุทิศกำลังพระวรกาย กำลังพระปัญญา และกำลังพระราชทรัพย์ สร้างสรรค์ความอยู่ดีมีสุข แก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงขจัดปัดเป่าทุกข์ภัย ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยความยากจน โรคาพยาธิภัย ตลอดจนภัยทางสังคมและเศรษฐกิจ ได้พระราชทานแนวทางการแก้ปัญหา ด้วยพระบรมราโชบายที่ลึกล้ำและบูรณาการอย่างเป็นระบบ ทรงวิเคราะห์ปัญหาอย่างถ่องแท้จึงทรงสามารถขจัดปัดเป่า คลี่คลายปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสมทุกประการ
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริมากกว่า 3,000 โครงการ ล้วนผ่านการวิเคราะห์วิจัยและทดลองเพื่อให้ได้ผล เป็นข้อยุติก่อนพระราชทานให้ประชาชน นำไปใช้เป็นประโยชน์ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ เป็นต้นว่า แนวทางทฤษฎีใหม่ด้านเกษตรกรรมและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใต้ฝ่าละอองพระบาท เป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนา ทรงพระปรีชาสามารถ ทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ โดยเฉพาะด้านการเกษตรทรงเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดิน แหล่งน้ำ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ทรงพระกรุณาพระราชทานแนวทางในการจัดระบบชลประทาน การสร้างฝาย อ่างเก็บน้ำ เขื่อน การทำฝนหลวง และแก้มลิง ปัญหาเรื่องน้ำได้รับการบูรณาการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งปัญหาการขาดแคลนน้ำ และปัญหาน้ำหลาก น้ำท่วม
ใต้ฝ่าละอองพระบาท ได้พระราชทานแนวทาง การแก้ปัญหาจราจรของกรุงเทพมหานคร พระราชทานพระราชดำริ ให้สร้างเส้นทางคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก เป็นคุณูปการแก่ราษฎร ในด้านเศรษฐกิจและสังคมทรงสนพระราชหฤทัย ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ เช่น โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ฟื้นฟู พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ทรงพัฒนาการศึกษา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดระบบ การสอนทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อกระจายโอกาสให้การศึกษา แก่เยาวชนให้ทุกท้องถิ่น พระราชทานโครงการสารานุกรมไทย สำหรับเยาวชนและอื่นๆ อีกนานัปการ
พระราชกรณียกิจและพระราชจริยวัตรอันงดงาม เป็นที่ประจักษ์แซ่ซ้องไปทั่วสากล องค์การต่างๆ ได้เทิดพระเกียรติคุณทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลเป็นจำนวนมาก เช่น องค์การสหประชาชาติ ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุด ในฐานะนักพัฒนามนุษย์ ล่าสุดองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวายรางวัลโกลบอลลีดเดอร์อวอร์ดเป็นพระองค์แรก ในฐานะที่ทรงใช้ทรัพย์สินทางปัญญา ในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร และพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และสหพันธ์สมาคมนักประดิษฐ์ระหว่างประเทศ ได้มีมติให้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสิทธิบัตรกังหันน้ำชัยพัฒนา ที่ทรงคิดค้นประดิษฐ์ขึ้นเพื่อบำบัดน้ำเสีย และขจัดปัญหาด้านสภาวะแวดล้อม เป็นวันนักประดิษฐ์โลก อาณาประชาราษฎร์ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาที่สุดมิได้ และต่างมีความจงรักภักดี จักถวายชีพเพื่อปกป้องรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้ให้ยั่งยืน มั่นคง ตราบกาลนิรันดร์
เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาศกนี้ ข้าพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัยและสรรพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล เดชะพระสยามเทวาธิราชและพระบรมเดชานุภาพ แห่งสมเด็จพระบูรพมหากษัตราธิราชเจ้าทุกพระองค์ โปรดอภิบาลประทานพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมสำราญ พระชนมพรรษายิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธอุปัทวันตราย หมู่ปัจจามิตรพ่ายพระบรมเดชานุภาพ ทรงสถิตเป็นร่มฉัตรปกเกล้าปกกระหม่อมพสกนิกรไทย เป็นหลักชัยอันมั่นคงของสยามประเทศ ตราบนิรันดร์กาลเทอญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
จากนั้น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร ทรงมีพระดำรัสตอบความว่า วันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้าและสมเด็จพระเทพฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ ในการที่จะรับท่านทั้งหลาย ในวโรกาสที่เข้าถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระกระแสให้ขอบใจ ในพรอันบริสุทธิ์ที่ได้ถวายมาด้วยความจงรักภักดี ทรงปลาบปลื้ม และทรงขอสนองพรทุกท่านที่ได้มีถวายมาอย่างจริงใจ ในการนี้ได้ทรงขอให้บอกทุกท่านและพระ ราชทานพรให้ทุกคนมีความสุขมีความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจ และกำลังปัญญา ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ก็ขอให้ท่านมีความสุขความเจริญ และก็ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ดีงามทั้งในด้านส่วนรวมและส่วนตัว
ในโอกาสนี้ที่ท่านไม่เสด็จลง เพราะว่าทรงมีพระอาการประชวรเล็กน้อย ซึ่งก็ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระเทพฯ ซึ่งได้ขึ้นเฝ้าฯได้อธิบายให้ท่านฟัง ถึงอาการประชวรในเบื้องต้น แต่สุดท้ายนี้ในพระปรมาภิไธยก็ขออัญเชิญพระกระแสขอบใจและสนองไมตรี สนองพรทุกท่าน ที่ได้มาถวายพระพรในวันนี้ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญสมปรารถนาทุกประการ
หลังจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ ราชกุมาร ทรงมีพระดำรัสจบแล้ว สมเด็จพระเทพรัตน ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า เมื่อวานนี้ไปเฝ้าฯ ก็ยังไม่เป็นไรและได้ตั้งเครื่องถวายพระกระยาหาร ก็ยังเสวยได้ดี แต่พอดีมาถึงวันนี้ ทรงมีพระอาการเป็นช่องพระศอ คือทั้งหลอดลมหลอดอาหารอักเสบ ทำให้เสวยเครื่องไม่ค่อยได้ เขาก็เลยถวายเป็นน้ำเกลือแล้วก็ยา ส่วนทางด้านหลอดลมก็มีเสมหะออกมามาก ทำให้รู้สึกไม่ทรงพระสำราญ ทำให้อ่อนเพลีย แต่ว่าไม่มีไข้ ทรงพักไปสักพัก จนกระทั่งมีพระกำลังดีค่อยมาพบท่านหรือทำอะไรได้ เพราะถ้าตอนนี้คิดว่า อยากจะทรงพักดีกว่าและเรื่องรายละเอียดจะเป็นอย่างไร เข้าใจว่าประเดี๋ยวทางแพทย์เขาคงพูดด้วยภาษาที่ถูกต้องอีกที
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระดำรัสถึงพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยว่า แต่ว่าเท่าที่เห็นคือท่านก็มีพระอาการไม่ค่อยหนักมาก ดูเหมือนจะอ่อนเพลีย เสวยไม่ได้เต็มที่และก็เสมหะออกและติดอยู่ คือมีเสมหะแต่ติดอยู่ไม่ค่อยจะออก ถวายน้ำเกลือเพื่อที่จะล้างให้ ถ้าได้น้ำไม่พอ เวลาคนที่มีเสมหะเขาให้ดื่มน้ำมากๆ แต่ดื่มได้ไม่ดีก็ถวายน้ำเกลือ ตอนนี้ดูจะอ่อนลงมาก เหมือนกับว่าถึงเวลาให้เฝ้าแล้วก็จะให้เสมหะออกมาดี ก็ยังไม่ทัน ก็เลยโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมฯมารับพรและขอบใจพวกท่านแทน
หลังจากทรงมีพระดำรัสจบ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับ
เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศล และถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา มีพระสังฆาธิการทุกรูป ทุกระดับ ในเขตกรุงเทพมหานคร กว่า 500 รูป เข้าร่วมพิธี โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน พร้อมกันนี้มหาเถรสมาคมยังมีมติให้เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดจัดให้มีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดของเจ้าคณะจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม พร้อมทั้งแจ้งวัดในเขตปกครองจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ณ วัดนั้นๆในวัน เวลาเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค. ด้วยบทพระพุทธภาษิต หรือพระพุทธพร ความโดยสรุปว่า นอบน้อมอัญเชิญพระพรนี้ มาในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ด้วยมุ่งมั่นขอรับพระราชทานเป็นพระพรชัยมงคล จากสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า แก่พสกนิกรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั่วหน้า เพื่อให้ความดีในจิตใจมากหลาย อันเกิดจากได้รับพระราชทานพระพุทธพรนี้ มีพลังพิชิตความร้อนแรงแห่งกิเลสที่รุนแรงหนักหนาขึ้นทุกที ย่อมจะยังพระราชหฤทัยให้ไกลความเศร้าหมองน้อยใหญ่ได้ ตามพระพุทธพรสมเด็จพระบรมศาสดาพระผู้ทรงเหนือพรหมเทพมนุษย์สัตว์ ขอพระราชทานถวายพระพุทธพร
|
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1169 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 05 ธ.ค. 51
เวลา 14:43:10
|
