| • แดงนัดเชียงใหม่ ลุยป๋าอีก อ้างคนสนิทรุกป่า |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 25 ม.ค. 53 เวลา 09:28:01 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
อริสมันต์ชี้แจง ลูกกัดหูเพื่อน เผยอนุบาลมีสี มาร์คยัน26มค. มีข้อยุติแก้รธน.
สลายตัว - กลุ่มคนเสื้อแดงสลายตัวจากเขาสอยดาว จ.จันทบุรี แยกย้ายกันขึ้นรถกลับบ้านเมื่อช่วงสายวันที่ 24 ม.ค. โดยแกนนำประ กาศครั้งต่อไปจะจัดชุมนุมที่สนามกอล์ฟ จ.เชียงใหม่
|
"เสื้อแดง" ปิดเวทีเขาสอยดาว นัดชุมนุม อีกที่เชียงใหม่ อ้างทวงคืน ป่าสงวนที่คนใกล้ชิด"ป๋า" บุกรุก ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่ แกนนำนปช. นัดกำหนดวันชัดเจน 27 ม.ค. "มาร์ค"รับปชป.เสียงแตกแก้ไขเขตเลือกตั้ง แต่เรื่องปกติ ไม่เกิน 26 ม.ค. นี้ชัดเจน "นพดล" เผยต้นก.พ. คนชอบ"แม้ว" แจกเอกสารนับแสน แจงกระบวนการหลังยึดอำนาจ และที่มา"แม้ว"รวย ยันไม่ได้กดดันศาล "เทือก"บลัฟรัฐบาลพลัดถิ่น ตั้งได้ก็ที่เขมร -ปาปัวฯ "เหลิม"ดอดเข้าเขมร แล้ว
"แดง"ปิดเวทีเขาสอยดาว
วันที่ 24 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.จันทบุรี ว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่สนามกอล์ฟสอยดาวไฮแลนด์กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท เลขที่ 224 หมู่ 2 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ได้สิ้นสุดลงแล้ว ภายหลังกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน นัดชุมนุมใต้แนวคิด"เพื่อหยุด 2 มาตรฐาน โค่นอำนาจอำมาตยาธิปไตย" เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 24 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมเน้นปราศรัยโจมตีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติของกลุ่มนายทุน และกล่าวหาพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ อยู่เบื้องหลังการบุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาสอยดาว เพื่อทำสนามกอล์ฟ สลับร้องรำทำเพลงอย่างคึกคักของแกนนำ อาทิ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท และนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย รวมทั้ง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และแกนนำในพื้นที่ ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุมหลายพันคนที่ปักหลักชุมนุมข้ามคืน เมื่อกลางดึก เวลา 01.45 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก เดินทางมาร่วมพูดคุยกับผู้ชุมนุมนานกว่า 3 ช.ม.
นัดชุมนุมอีกที่เชียงใหม่
เวลา 06.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มนปช. ขึ้นเวทีปราศัย กล่าวสรุปเหตุการณ์ที่นำมาสู่การชุมนุมครั้งนี้ โดยโจมตีว่าเป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐใช้ระบบ 2 มาตรฐาน และการใช้อำนาจของอำมาตยาธิปไตยเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง จากนั้น นายวีระ มุสิกพงศ์ ประธานกลุ่มนปช. ขึ้นกล่าวปิดเวที เชิญชวนเสื้อแดงให้ติดตามข้อมูลข่าวสารว่ากลุ่มนปช. จะเคลื่อนไหวไปจ.เชียงใหม่ ในวันเวลาใด จบด้วยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี
นายวีระ ให้สัมภาษณก่อนเดินทางกลับว่า วันพุธที่ 27 ม.ค. นี้ แกนนำกลุ่มนปช. จะประชุมเพื่อกำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการเดินทางไปชุมนุมที่จ.เชียงใหม่ เพื่อไปทวงผืนแผ่นดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งถูกกลุ่มบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับพล.อ.เปรม เข้าไปบุกรุกยึดพื้นที่ป่าสงวน กลับคืนให้กับประเทศชาติ
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัว กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จ.จันทบุรีและจังหวัดต่างๆ เริ่มทยอย เก็บข้าวของเดินทางกลับ และรื้อเวทีปราศรัยอย่างรวดเร็ว ทำให้การจราจรโดยรอบติดขัดพอสมควร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง (ส่วนหน้า) คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับชาวบ้านในพื้นที่ ส่วนเศษขยะที่มีอยู่จำนวนมาก ผู้ชุมนุมไม่ได้เก็บไปภายหลังแกนนำนปช. ประสานกับเทศบาลทับไทร ส่งเจ้าหน้าที่มาจัดเก็บและเคลียร์พื้นที่
ดาวกระจายไปกลาโหม
แหล่งข่าวจากแกนนำนปช. เผยว่า จากการชุมนุมที่สนามกอล์ฟเขาสอยดาวฯ ครั้งนี้ มีการถ่ายทอดผ่านดาวเทียม ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ติด ตามอย่างต่อเนื่อง เมื่อเห็นว่ามีประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมหลายหมื่นคน ประกอบกับได้ฟัง ข้อมูลโจมตีพล.อ.เปรม และกลุ่มนายทุน พ.ต.ท. ทักษิณ พอใจเป็นอย่างมากจึงให้แกนนำประสานให้นายสำเริง ประจำเรือ แกนนำกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก รวมถึงแกนนำในพื้นที่จ.จันทบุรี เดินทางไปกัมพูชา เพื่อพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ แต่วันเวลาใดยังไม่ได้ระบุ ต้องรอพ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมากัมพูชา จากนั้นจึงกำหนดวันเวลาที่เข้าพบที่ชัดเจนแน่นอน แต่เชื่อว่าคงเป็นช่วงเดือนก.พ. ก่อนการนัดชุมนุมใหญ่ และก่อนการตัดสินยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน
น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ให้สัม ภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์ดาวกระจายหลังจากนี้ ว่า แกนนำจะเดินทางไปกองบัญชาการกองทัพบก และกระทรวงกลาโหม เพื่อสอบถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. ว่าจะทำรัฐประ หารหรือไม่ เพราะอาจเกิดการนองเลือดได้เนื่อง จากเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้จะบังคับให้รัฐบาลดำเนินคดีกับกลุ่มคนที่ยึดสนามบินในข้อหา ก่อการร้าย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายสากล
"อริสมันต์"แจงลูกกัดหูเพื่อน
นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท หนึ่งในแกนนำนปช. กล่าวบนเวทีเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 23 ม.ค. ระบุที่นายอริสมันต์ ขึ้นเวทีช้าเพราะต้องพาเพื่อนของลูกไปโรงพยาบาล เนื่องจากเด็กคนดังกล่าวต่อว่าลูกสาวของนายอริสมันต์ว่ามีพ่อไม่ดี เพราะไปอยู่กับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นคนไม่ดี จนเกิดการทะเลาะวิวาทและลูกสาวนายอริสมันต์ กัดหูเพื่อนคนดังกล่าว นายอริสมันต์ จึงต้องพาเด็กไปโรงพยาบาล และจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปกว่า 3,000 บาท ว่า เป็นเหตุการณ์ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา เป็นเพียงการทะเลาะกันของเด็ก 5 ขวบเท่านั้น ไม่อยากจะพูดถึงรายละเอียด เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นประเด็นใหญ่โต
นายอริสมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าภายในโรงเรียนมีทั้งเด็กสีแดง และสีเหลือง พ่อแม่ของเด็กคงสอนกันมา คู่กรณีของลูกสาวเป็นเด็กผู้ชาย เมื่อทะเลาะกันได้รับบาดแผลเป็นรอยขีดข่วนกันทั้งคู่ แต่ลูกสาวตนเป็นผู้หญิงสู้ไม่ได้เลยต้องกัดหู แต่ไม่ได้บาดเจ็บอะไรรุนแรง หลังเกิดเหตุครูพาส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล จึงต้องตามไปจ่ายค่ารักษาเท่านั้น
ที่ร้านอาหารตำนานลาว ต.ทับเที่ยง เขตเทศ บาลนครตรัง กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชา ธิปไตย 16 จังหวัดภาคใต้ นำโดย นายสุนทร รักษ์รงค์ แกนนำกลุ่มพันธมิตรชุมพร นายกัมป นาท อินทองมาก แกนนำกลุ่มพันธมิตรตรัง รวมตัวกันหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะการเปิดศูนย์พันธมิตรภาคใต้อันดามัน ที่จ.ตรัง จากนั้นออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2553 สนับสนุนแถลงการณ์แกนนำพันธมิตร ค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 และขอกดดันส.ส.ในพื้นที่ร่วมยับยั้ง คัด ค้าน สนับสนุนการเอาผิดก.ตร. ต่อกรณีกลับมติ ป.ป.ช. เรียกร้องให้นายกฯ เร่งสางคดียิงเอ็ม 79 ใส่กลุ่มพันธมิตรและคดียิงแกนนำ
"มาร์ค"แจงปมสิทธิมนุษยชน
เมื่อเวลา 09.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ที่ออกอากาศทางสถานีวิทยุและโทรทัศน์ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นรายการสด ถึงรายงานขององค์การฮิวแมนไรท์ วอตช์ ประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2552 ระบุรัฐบาลของไทยละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก ว่า มีองค์กรเอกชนจัดทำรายงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ความจริงถ้าได้อ่านเนื้อหาก็จะทราบว่าไม่รุนแรงเหมือนที่เป็นข่าว รวมทั้งยังมีเนื้อหาบางประการคลาดเคลื่อน มี 4 เรื่องที่มีการจับตามองอยู่ อาทิ การชุมนุมในช่วงเดือนเม.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งการเสียชีวิตดังกล่าวไม่ได้มีสาเหตุมาจากการปราบปรามของเจ้าหน้าที่ แต่เกิดจากการปะทะกันของผู้ชุมนุมกับประชาชนในชุมชน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ก็ได้มีการแก้ไขในทางที่ดีขึ้น ถึงแม้จะยังมีสถานการณ์ความรุนแรงอยู่แต่ก็มีจำนวนลดลง ขณะเดียวกันระบบการดูแลของรัฐบาลก็เป็นไปในทางที่จะช่วยดูแลคุ้ม ครองสิทธิมนุษยชนได้ดียิ่งขึ้น สำหรับด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะเรื่องกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและกฎหมายคอมพิวเตอร์นั้น เรื่องนี้รัฐบาลพิจารณาด้วยความรอบคอบ โดยดูที่เจตนาและไม่ได้มีการนำมาใช้เป็นเครื่องมือทาง การเมือง เข้าใจว่ารายงานของฮิวแมนไรท์ วอตช์ อาจถูกเขียนขึ้นก่อนจะมีการตั้งกลไกพิเศษเข้ามาดูแลในเรื่องนี้ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจต่อไป
เมิน"แม้ว"ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการใช้กฎหมายความมั่นคง ในบางครั้งก็เข้าใจผิดว่าเป็นการห้ามชุมนุม ซึ่งไม่เป็นความจริงและเราไม่เคยห้ามชุมนุม แต่การประกาศใช้กฎหมายเพื่อต้องการบูรณาการการจัดการในพื้นที่ ทุกครั้งก็รายงานให้สภาทราบ ขอยืนยันว่าเราไม่ได้ใช้กฎหมายนี้กับเฉพาะบางกลุ่ม แต่ต้องขึ้นอยู่กับการข่าวในแต่ละครั้ง ถ้าเราละเมิดสิทธิมนุษยชนก็คงไม่กล้าไปสมัครเป็นกรรมการยูเอ็น ส่วนด้านแรงงานต่าง ด้าวกำลังมีการจัดระบบ ในส่วนของม้งลาวที่ส่งกลับประเทศไปแล้วนั้น ก็ไม่มีรายงานมาว่าส่งกลับไปแล้วมีเรื่องไม่ดี ส.ส.ของสหรัฐ ก็เดินทางไปดูและพบว่าประเทศลาวก็ทำตามข้อตกลงที่มีต่อกัน
ภายหลังออกรายการ นายอภิสิทธิ์ ให้สัม ภาษณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ระบุระหว่างการวิดีโอลิงก์มายังกลุ่มเสื้อแดงที่ชุมนุมกันอยู่ที่สนามกอล์ฟ สอยดาวไฮแลนด์กอล์ฟ คลับ แอนด์ รีสอร์ท จ.จันทบุรี เมื่อคืนวันที่ 23 ม.ค. โดยอ้างถ้ามีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศไทยอีกพร้อมจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นขึ้นมาต่อสู้ ว่า ไม่มีความเห็น พ.ต.ท.ทักษิณวิเคราะห์อะไรไปเรื่อย และเห็นว่าวิเคราะห์มาเยอะแล้ว ไม่ทราบจะไปทำอะไรตอนไหนเรื่องครม.พลัดถิ่น เพราะตอนนี้ยังไม่มีกรณีเช่นนั้น และหากมีการปฏิวัติก็ปฏิวัติรัฐบาลปัจจุบัน ไม่เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ
ปชป.ได้ข้อยุติแก้รธน.ก่อน 26 ม.ค.
นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิ ปัตย์ กล่าวถึงข่าวความขัดแย้งของพรรคประชาธิ ปัตย์เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญระหว่างการประชุม พรรคที่จ.กระบี่ ว่า ช่วงที่มีการประชุมพรรคตนก็อยู่ด้วย มีการอภิปรายซึ่งมีความเห็นเป็น 2 ด้าน ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องปกติของพรรค พอตนกลับออกมานึกว่าจะได้ข้อสรุป แต่ตอนกำลังขึ้นเครื่องที่สนามบินกระบี่ รับทราบว่าที่ประชุมจะขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา คงไม่เกินวันที่ 26 ม.ค.จะเรียบร้อย ทั้ง นี้ความเห็นที่แตกต่างถือเป็นเรื่องปกติ
จี้คดีพธม. - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยนำภาพถ่ายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ขณะเยี่ยมม็อบเสื้อเหลือง มาโชว์ระหว่างแถลงข่าวจี้รัฐบาลเร่งเดินหน้าคดีกลุ่มพันธมิตรฯ ปิดยึดสนามบิน
|
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ขู่ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญนายกฯ เตรียมตัวยุบสภาได้ เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบอื่นเข้ามา นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องขู่ เป็นเรื่องการวิเคราะห์สถานการณ์ตามปกติว่าถ้าตัดสินใจอย่างนั้นอย่างนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และตนกับสมาชิกพรรคไม่มีใครคิดว่าต้องเกรงกลัวในเรื่องใดๆ อยู่แล้ว เชื่อว่าคงมีข้อยุติได้ไม่เกินวันอังคารที่ 26 ม.ค. เมื่อถามว่าการพูดของนายกฯ ไม่ได้เอาใจพรรคร่วมรัฐบาลว่าไม่ยุบสภาแน่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคยังไม่มีข้อสรุปอะไร ส่วนข่าวที่ออกมาว่าเสียงส่วนใหญ่ของพรรคจะสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนอยู่ในที่ประชุมด้วย
เมื่อถามว่ามองปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ใจอยากให้จบตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค. แต่เมื่อไม่จบก็ไม่เป็นไร คณะกรรมการบริหารพรรคจะดูแลทุกอย่างและน่าจะได้ข้อยุติวันอังคารนี้ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลคงต้องนัดหารือภายหลังวันที่ 26 ม.ค. เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าประเด็นการแก้ไขรัฐบาลจะไม่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า โดยหลักการควรจะเป็นอย่างนั้น เพราะคุยกันไว้ว่าเรื่องการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญจะให้เป็นเรื่องของสภา
ภท.เชื่อไม่มีใครพร้อมเลือกตั้ง
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื้อการแก้รัฐธรรมนูญ ว่า ทราบว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าวันที่ 25 ม.ค. จะมีข่าวดี ก็ต้องรอฟังนายสุเทพ ว่าจะมีข่าวดีอะไร เพราะจะต้องรอฟังพรรคชาติไทยพัฒนาด้วยว่าจะทำอย่างไรต่อ เพราะที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตี แต่พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคหนึ่งที่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนกระแสข่าวนายสุเทพ ขู่จะยุบสภา เรื่องนี้ จะต้องดูกันไปก่อน คงจะเป็นการขู่ไปอย่างนั้นเพราะตอนนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะต้องยุบสภา แต่หากจะยุบจริงอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เชื่อว่าไม่มีพรรคใดพร้อมเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กหรือ พรรคใหญ่ หากยุบสภาก่อนแก้รัฐธรรมนูญ ก็จะได้เปรียบเสียเปรียบกันเรื่องเขตเลือกตั้งเท่านั้น แต่คงไม่มีพรรคไหนพร้อม ดังนั้นเรื่องนี้อย่าเพิ่งไปคิดถึงเลย
นายปัญญา ศรีปัญญา ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้ข้อสรุปก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน แต่เท่าที่ทราบมี ส.ส.ในพรรคประชาธิปัตย์จำนวนมากที่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย จึงเกิดปัญหาเสียงแตก และต้องโยนให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา หากยังอยากเป็นรัฐบาลอยู่ก็จะต้องเห็นใจพรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะต่างฝ่ายต่างจะต้องช่วยกัน พรรคประชาธิปตย์ อยู่อย่างไม่มีพรรคร่วมไม่ได้ การแก้รัฐธรรมนูญมาใช้การเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ แต่ถือว่าเป็นหลักสากลที่ทั่วโลกเขาก็ใช้กัน ส่วนเรื่องยุบสภาเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะรัฐบาลยังต้องอยู่อีกนาน
"สุวัจน์"ชี้เปลี่ยนขั้วอีกก็วุ่นวาย
ที่จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงการนัดหารือกับพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน ในวันจันทร์ที่ 25 ม.ค. ว่า ทราบว่านายบรร หาร ศิลปอาชา มีนัดกับ น.พ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรค เพื่อพูดคุยหารือถึงภาพรวมและสถานการณ์การแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ จุดยืนของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะเป็นอย่างไร ก็คงเป็นเรื่องของภายในพรรค เพราะการแก้ไขต้องดูในหลายเรื่อง การตัดสินใจต้องดูเสียงส่วนใหญ่และสำคัญที่สุดต้องฟังเสียงประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีโอกาสเรื่องเปลี่ยนขั้วหรือ ไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องขั้วได้เปลี่ยนมาแล้วหลายครั้ง ถ้าเปลี่ยนอีกครั้งก็คงจะวุ่นวาย ส่วนตัวมองว่าไม่น่าจะมีเรื่องการเปลี่ยนขั้ว ส่วนเรื่องการปฏิวัติ จะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าว ว่า เป็นเรื่องที่คิดว่าทุกคนไม่อยากเห็นและทุกคนก็คงไม่อยากทำ เพราะจะทำให้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่คาดคิด ถ้าเกิดแล้วมันจะมีผลกระทบระยะยาวต่อภาพรวมของประเทศ ภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจ
ปชป.งดสรุปผลสัมมนา
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการสัมมนาส.ส. คณะกรรมการบริหาร และรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 2 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค นำสมาชิกพรรคและรัฐมนตรีของพรรคลงเรือไปเยี่ยมชมเกาะปอดะและทะเลแหวก บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น การพูดคุยกับกลุ่มส.ส. นายสุเทพ พยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงการสัมมนาพรรคเมื่อวันที่ 23 ม.ค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกำหนดการหลังเยี่ยมชมทะเลแหวกแล้ว จะมีการสรุปผลการสัมมนาและปิดการสัมมนาโดยนายอภิสิทธิ์ แต่มีการงดการสรุปผลการสัมมนาอย่างกะทันหัน โดยช่วงเย็นนายกฯ จะร่วมงานมงคลสมรสของบุตรสาวนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ ที่ลานพระอาทิตย์ อบจ.คลองติหราด
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค กล่าวถึงสาเหตุการยกเลิกการสรุปผลการสัมมนาว่า การสัมมนาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ได้ข้อสรุปแล้วว่าจะให้กรรมการบริหารพรรครับข้อคิดเห็นจากที่ประชุมสัมมนาไปหารือกันในวันอังคารที่ 26 ม.ค.นี้ ซึ่งช่วงบ่ายจะมีการประชุมส.ส.พรรคประจำสัปดาห์ด้วย
ปชป.อีสานเสียงอ่อนผวายุบ
รายงานข่าวจากแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า หลังจากที่ประชุมสัมมนามีมติให้กรรม การบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาว่าจะแก้ไขรัฐธรรม นูญในมาตรา 94 ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเขตเลือกตั้ง โดยส.ส.ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่ควรแก้ ไข และต้องการให้ใช้การเลือกตั้งแบบเขตใหญ่ตามเดิม จากการตรวจสอบเสียงส.ส.ภาคอีสาน ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และลุกขึ้นแสดงความเห็นต่อที่ประชุมไปแล้วนั้น เมื่อส.ส. เหล่านี้ได้ฟังการวิเคราะห์จากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค ที่ขู่ว่าหากพรรคประชาธิปัตย์เอาเขตใหญ่ ก็เตรียมยุบสภาได้เลย ทำให้บรรดาส.ส.อีสาน มีท่าทีที่อ่อนลง พร้อมรับมติของกรรมการบริหารพรรค โดยให้เหตุผลว่าไม่พร้อมลงเลือกตั้งในช่วงนี้เช่นกัน ขณะที่ยังมีส.ส.จำนวนหนึ่ง อาทิ ม.ล.อภิมงคล โสณกุล นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส. กทม. นางพจนารถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นเขตเลือกตั้งแบบใดก็ยอมรับได้ เพราะ มั่นใจฐานเสียงในพื้นที่
รายงานข่าวแจ้งว่า หากมติของกรรมการบริหารพรรคออกมาไม่ตรงกับความต้องการของพรรคร่วมที่ต้องการเขตเล็ก ก็เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะเข้าใจวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีกฎระเบียบ จุดนี้จะทำให้นายสุเทพ นำไปอ้างกับพรรคร่วมได้ว่าเป็นการทำตามมติของพรรค แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีความกังวลว่าพรรคร่วมอาจไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย เพื่อแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะพรรคเล็กจำเป็นต้องดิ้นรนเพื่อให้พรรคตัวเองอยู่รอด เพราะเชื่อว่าถ้าเป็นเขตเลือกตั้งแบบเดิม พรรคเล็กๆ ก็จะเล็กลงเรื่อยๆ และอาจสูญพันธุ์ได้ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ต้องพยายามไม่ให้พรรคร่วมหันไปพึ่งพรรคเพื่อไทยในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องพยายามตะล่อมให้พรรคร่วมมาอยู่แนวเดียวกับพรรคประชาธิ ปัตย์ให้ได้
"นายสุเทพ เคยบอกกับส.ส.ในกลุ่มว่า ดูอย่าง ผมกับนายเนวิน (ชิดชอบ) ที่เมื่อก่อนด่ากันจะตาย แต่ภายหลังก็มาทำงานร่วมกันได้ แต่นายสุเทพมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าใจ" แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายสุเทพ
คาดมติกก.บห.สวนผลประชุม
แหล่งข่าวจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคสัปดาห์หน้า คงพิจารณาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เพราะ การสัมมนาเมื่อวันที่ 23 ม.ค. มีองค์ประชุมที่ใหญ่แล้ว เพราะมีทั้งส.ส. กรรมการบริหารพรรคประชุมร่วมกัน ดูแล้วส่วนใหญ่ยอมรับได้หากจะมีการแก้ไขมาตรา 190 แต่หากจะแก้ไขเรื่องเขตเลือกตั้งส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ซึ่งที่ประชุมหารือกันหลายชั่วโมง คุยกันละเอียดแล้ว จึงไม่จำเป็นที่กรรมการบริหารพรรคต้องมาคุยอะไรเพิ่มเติม สามารถประมวลความเห็นว่าไม่สนับสนุนการแก้ ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 94 ส่วนที่กลัวว่าพรรคร่วมรัฐบาลอาจไม่พอใจและเกิดการสะวิงขั้วนั้น ก็ ไม่ได้หมายความว่าถ้ามีแก้รัฐธรรมนูญแล้ว พรรค ร่วมรัฐบาลจะไม่สะวิงขั้วเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม กรรมการบริหารพรรคอีกคน ซึ่งไม่ได้อยู่ในกลุ่มของนายสุเทพ เผยว่า แม้ที่ประชุมส่วนใหญ่จะไม่สนับสนุนการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ แต่แนวทางการโยนให้กรรมการบริหารพรรคตัดสินใจก็ไม่น่าวางใจ เพราะกรรมการบริหารพรรคประกอบด้วยสมาชิกกลุ่มนายสุเทพ หลายคน และรู้อยู่แล้วว่านายสุเทพต้องการอะไร จึงอาจวิเคราะห์ได้ว่ามติกรรมการบริหารพรรคอาจเห็นตรงกับพรรคร่วมรัฐบาล
"เทือก"ส่งซิกพรรคร่วมสบายใจ
ที่จ.กระบี่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสวนดุสิตโพลระบุฝ่ายค้านจ้องอภิปรายไม่ไว้วางใจโครงการไทยเข้มแข็ง ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดี ตนยกย่องที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบในสภา ฝ่ายรัฐ บาลก็ทำการบ้านให้เต็มที่ ประชาชนจะได้รู้ว่าฝ่ายไหนน่าเชื่อถือ โดยรัฐบาลต้องเตรียมตัวชี้แจงให้ดีที่สุด สำหรับเสียงสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนมั่นใจว่าเหนียวแน่น ไม่มีปัญหา ไม่เกี่ยวกับปัจจัยเรื่องการต่อรองเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะอีก 1 ถึง 2 วัน พรรค ประชาธิปัตย์จะมีความชัดเจน เพื่อนพรรคร่วมทั้งหลายจะได้สบายใจขึ้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้าใจว่าหลายพรรคที่ร่วมรัฐบาลอยู่ก็คงถูกอภิ ปรายด้วยกันทั้งนั้น ต่างคนจึงต้องต่างทำการบ้าน
เมื่อถามว่า ที่บอกพรรคร่วมรัฐบาลจะสบายขึ้นนั้น แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวโน้มจะแก้รัฐธรรมนูญให้เขตเลือกตั้งเป็นเขตเล็กหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่การมีคำตอบก็ยังดีกว่าที่จะรอคอยโดยไม่รู้ว่าจะได้คำตอบเมื่อ ไร มั่นใจว่าความเห็นแตกต่างของพรรคประชาธิ ปัตย์ จะไม่ทำให้เกิดความร้าวฉานในพรรค เพราะ พรรคเราเป็นแม่แบบประชาธิปไตยที่มีความเห็นที่แตกต่างกันได้ โดยไม่ต้องโกรธเคืองกัน หลังจากการสัมมนาพรรคตนยังไม่ได้ประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะต้องให้เวลาและหัวใจกับเพื่อนพรรคเดียวกันก่อน หลังจากกลับจากจ.กระบี่ ตนจะไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล
ไม่มีเหตุผลต้องยุบสภา
เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะสะวิงขั้วได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่หรอก พรรคร่วมรัฐบาลเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก คิดว่าเขาเข้าใจไม่กลัว มั่นใจว่าไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีมติอย่างไรก็ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนขั้วทาง การเมือง เมื่อถามว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์วาง ท่าทีในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเช่นนี้ จะทำให้อายุรัฐบาลสั้นลงหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ เพราะทุกวันนี้อายุรัฐบาลก็สั้นลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว คือเหลืออีกปีกว่า จึงจะครบวาระ และขณะนี้ก็ยังไม่เห็นประเด็นที่จะเป็นอุปสรรคให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้ 1 ปี ของการทำงานเป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเป็นอย่างมาก และยังไม่เห็นว่ามติของพรรคเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะนำสู่การยุบสภา โดยต้องคิดว่านายกฯ ทำงานโดยได้รับการสนับสนุนจากประชาชน มีความสำเร็จ ไม่มีอุปสรรคแล้วจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องยุบสภา เพื่อที่จะกลับไปนับหนึ่งใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุสำคัญคือพรรคร่วมรัฐบาลไม่คบจึงต้องมีการยุบสภา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เคยมีใครบอกอย่างนั้น และปัญหาของประเทศที่สำคัญคือความเคลื่อนไหวของพ.ต.ท. ทักษิณ เมื่อถามว่าหากพรรคร่วมยื่นแก้ไขรัฐ ธรรมนูญต่อรัฐสภา แต่วาระการประชุมสภามีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับคปพร. ของน.พ.เหวง โตจิราการ ค้างอยู่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาว่าจะรับฉบับไหน และเชื่อว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคปพร. จะไม่เป็นตัวแปรอะไร ส่วนที่มองกันว่าอาจมีปัญหาเรื่องเสียงสนับสนุนจากส.ว. ถือเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า ที่สร้างความน่ากลัวให้กับตัวเอง ซึ่งตนไม่ทำอย่างนั้น
เรื่องน่ากังวลคือตัว"ทักษิณ"
เมื่อถามถึงกลุ่มเสื้อแดงจะดาวกระจายไปกด ดันกองทัพ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพยายามจะวางใจกับสถานการณ์เพราะมองโลกในแง่ดี เมื่อกลุ่มเสื้อแดงบอกว่าจะหยุดก็ดีใจ เพราะจะทำให้คนไทยมีความสุข แต่ก็ไม่ประมาทเตรียมรับสถานการณ์ตลอด ตั้งเป้าว่าจะดูแลรักษาความสงบให้ได้ ส่วนที่ได้ประเมินว่าในวันที่ 19-26 ก.พ.นี้ กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมและเกิดความรุนแรง ประเมินจากการที่ผู้ประสานงานผู้จัดชุมนุมพูดไว้ในสถานที่ต่างๆ รวมถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์และโฟนอินเข้ามาก็ได้บอกชัดว่าจะทำอะไร เมื่อใด อย่างไร แต่เมื่อเราเป็นคนไทยด้วยกันไม่ควรคิดเผด็จศึก หรือให้เป็นฉากสุดท้ายเพราะยังต้องมีชีวิตอยู่ด้วยกันในประเทศนี้อีกนาน จึงไม่ควรสร้างความบาดหมางขยายผลออกไป
นายสุเทพ กล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับประ เทศในตอนนี้คือเรื่องของพ.ต.ท.ทักษิณ สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และบริวาร กำลังดำเนินการอยู่และจะดำเนินการต่อไปเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจของคนไทย ตนจะพยายามแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ขณะนี้ประชาชนช่วยส่งข้อมูลข่าวสารให้เราบ้างแล้ว และขอให้มั่นใจในรัฐบาล ไม่ต้องตื่นตระหนกในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถ้ามีอะไรที่จำเป็นต้องให้ประชาชนช่วยเหลือรัฐบาลจะบอกประชาชนเป็นระยะ
เมื่อถามว่า คิดว่าสถานการณ์หลังจากที่ศาลตัดสินคดียึดทรัพย์แล้ว สถานการณ์ของประเทศจะที่ดีขึ้นแล้วหรือยัง นายสุเทพกล่าวว่า คิดว่าคงมีแรงเฉื่อยต่อไป จนถึงเดือนมี.ค.ไปแล้ว และหวังว่าสงกรานต์ปีนี้จะเป็นช่วงที่คนไทยมีความสุข
รบ.พลัดถิ่นตั้งได้ที่เขมร-ปาปัวฯ
นายสุเทพ กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ประ กาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นว่า คงจะไม่เป็นที่ยอมรับของชาวโลก เพราะการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นโดยทั่วไปต้องเกิดขึ้นภายหลังการปฏิวัติ แต่พ.ต.ท. ทักษิณ ถูกปฏิวัติมาตอนปี 2549 จนมีรัฐบาลที่มาจากพรรคพวกตัวเองมา 2 รัฐบาล จนมาถึงรัฐบาลประชาธิปัตย์ แต่หากพ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นจริงก็คงตั้งได้แค่ในประเทศกัมพูชา และปาปัวนิวกินี เชื่อว่าหากมีการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นจริง ก็ไม่กระทบกับรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และไม่น่ากลัวอะไร ขออย่างเดียวอย่าเผาบ้านเผาเมืองเหมือนตอนเดือนเม.ย.ปี 2552 เพราะบ้านเมืองจะทรุดไปอีกหลายเดือน
ที่บ้านพักอ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ พูดถึงการจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นหากมีการปฏิวัติ ว่าถือเป็น การพูดปลุกระดมมวลชนเสื้อแดงให้มีขวัญกำลังใจลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประโคมข่าวเรื่องการปฏิวัติ ที่ทำให้คนเข้าร่วมได้ แต่ถ้าตามดูสถานการณ์ปัจจุบันไม่มีเงื่อนไขที่จะปฏิวัติ จึงไม่ทราบว่าเหตุใดจึงปลุกผีปฏิวัติขึ้นมา การจัดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นมีเงื่อนไขการจัดตั้ง แต่กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ 1.มีราคาแค่นักโทษหนีคดี 2. พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจและถูกปฏิวัติ 3.ไม่สามารถสร้างความชอบธรรมในประชาคมโลกเพื่อให้ยอมรับการเป็นรัฐบาลพลัดถิ่นได้
ปลุกผีปฏิวัติดึงประชาชน
นายเทพไท กล่าวว่า ที่บอกว่าจะชุมนุมให้ใหญ่กว่า 14 ตุลา พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องพลิกหนัง สืออ่านประวัติศาสตร์ว่า 14 ตุลา นั้น เป็นการสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย โค่นล้มรัฐบาลเผด็จ การ แต่รัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เป็นเพียงสู้เพื่อคนๆเดียวแล้วเอาประชาธิปไตยมาบังหน้า เงื่อนไข 14 ต.ค. กับปัจจุบันนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นไปไม่ได้ที่คนเสื้อแดงจะร่วมกันเช่นนั้น และเมื่อดูคนเสื้อแดงนับวันยิ่งน้อยถอยลง ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยา ยามที่จะหาประเด็นให้คนเข้าร่วม และจุดประเด็นเรื่องการปฏิวัติมาเรียกกระแสจากประชาชน
ส่วนประเด็นกองกำลังต่างชาติที่จะหนุนคนเสื้อแดง นายเทพไท กล่าวว่า เป็นเพียงกระแสข่าวไม่มีข้อเท็จจริงที่ชัดเจน เรื่องนี้หมดยุคไปกว่า 10 ปีที่แล้ว ยิ่งถ้าพูดถึงฮุนเซน ทำได้แค่ให้ที่พักพิง ให้การสนับสนุนการแสดงบทบาทของ พ.ต.ท. ทักษิณ แต่คงไม่หนุนกองกำลังที่เข้ามารุกราน ถ้ามีเรื่องนี้จริงประชาคมโลกจะไม่ยอม สถานการณ์จากนี้จะยิ่งร้อนแรงขึ้นอย่างแน่นอนเพราะเสื้อ แดงที่ประกาศแตกหักกับรัฐบาล แต่เชื่อว่ารัฐบาลสามารถรับมือได้ และคำตัดสินของศาลวันที่ 26 ก.พ. จะเป็นการส่งสัญญาณว่าคนอย่างพ.ต.ท. ทักษิณ จะเป็นพยัคฆ์ติดปีก หรือว่าพยัคฆ์ติดคุก
เสธ.อู้ไม่รับประกันไม่ปฏิวัติ
นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ อ้างจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีก ว่า เป็นไปไม่ได้ ยังไม่มีเงื่อนไขอะไรที่จะก่อให้เกิดการปฏิวัติ เพราะเหตุการณ์ยังสงบเงียบอยู่ คิดว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อโยนหินถามทางของคนที่อยากให้เกิดการปฏิวัติมากกว่า ขณะนี้ทหารก็ไม่อยากจะทำ เพราะการปฏิวัติเป็นการถอยหลังเข้าคลอง และเชื่อว่าทุกคนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะเศรษฐกิจกำลังฟื้น ประเทศกำลังเดินไปได้
นายประสพสุข กล่าวถึงการเคลื่อนไหวแก้รัฐธรรมนูญ 2 ประเด็นของพรรคร่วมรัฐบาลยก เว้นพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร หากส.ส.อยากแก้ก็ต้องแก้ ถ้าแก้เพียง 2 มาตราไม่น่าจะมีปัญหา ส่วนที่มีคนคัด ค้านเพราะเกรงว่าจะไปแตะประเด็นอื่นด้วย แก้มาตรา 190 ไม่น่าจะมีปัญหา ทุกคนคงเห็นด้วย ส่วนเขตเดียวเบอร์เดียวเพียงเปลี่ยนเขตใหญ่ให้เป็นเขตเล็กก็เป็นการเลือกตั้งเหมือนกัน
พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ในคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถึงการแก้ไขรัฐ ธรรมนูญ ว่า ในส่วนของวุฒิสภายังไม่ได้มีการหารือกันอย่างเป็นทางการ แต่ปกติ ส.ว.ทุกคนมีความเป็นอิสระ ดังนั้นใครจะสนับสนุนให้แก้หรือ ไม่แก้รัฐธรรมนูญนั้นก็ถือเป็นสิทธิ และส.ว.คงปล่อยให้แต่ละคนมีเอกสิทธิ์ในการโหวต
ส่วนกรณีพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ คงไม่ใช่เป็นการซื้อเวลาอย่างที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ แต่น่าจะเพราะเป็นพรรคใหญ่ ความคิดเห็นที่แตกต่างจึงมีมาก คงต้อง ให้เวลา เชื่อว่าน่าจะได้ข้อสรุปตามที่นายอภิสิทธิ์ ระบุไว้คือวันที่ 26 ม.ค.
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวถึงกระแสข่าวการปฏิวัติว่า ทหารคงพยายามเต็มที่ไม่ให้มีการปฏิวัติเกิดขึ้น เนื่องจากประชาชนไม่สนับสนุนและคงไม่เป็นผลดีกับประเทศ แต่คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะมีเหตุการณ์ใดมาบีบบังคับหรือไม่ ตนคงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าการปฏิวัติจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
พท.อัดรัฐบาลตี 2 หน้า
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การแก้รัฐธรรมนูญกำลังทำให้เกิดวิกฤตขัดแย้งรุนแรงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ หวังนำกระแสการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรม นูญ มาเป็นประโยชน์กับตนเอง เพราะเล่นการ เมืองแบบตีสองหน้ามาตลอด ด้านหนึ่งให้นาย สุเทพ มาแสร้งทำดี และให้สัญญากับพรรคร่วมรัฐบาล อีกด้านหนึ่งนายอภิสิทธิ์ และผู้ใหญ่ในพรรคบางคน เช่น นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน แสดงบทบาทคัดค้านทำนองเหมือนแยกกันเล่นบทละคร 2 เศียร 2 หน้า แต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือไม่แก้รัฐธรรมนูญ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่ไม่ยอมแก้ไขและยอมผิดข้อตกลงกับพรรคร่วมรัฐ บาล เพราะมีความมั่นใจว่าพรรคร่วมคงไม่กล้าถอนตัว อีกประเด็นหนึ่งก็เพราะเกรงใจกลุ่มพันธ มิตร การโยนให้กรรมการบริหารพรรคตัดสินเป็น เรื่องน่าเวทนาสำหรับพรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกหลอกซ้ำซาก ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ เหยียบบ่าเพื่อนเป็นใหญ่ แล้วก็ลืมพันธสัญญาก่อนร่วมรัฐบาล
จี้ 5 คดีใกล้หมดอายุความ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนและฝ่ายกฎหมายไปยื่นคำร้องให้ป.ป.ช. เร่งรัดคดีสำคัญ 5 เรื่อง เช่น คดีการขายทรัพย์สินขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่มีนายธารินทร์ นิมมานเหมินท์ อดีตรมว.คลัง สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและถูกกล่าวหา คดีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เรื่องทุจริตยางพารา คดีที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ คดีนายอภิสิทธิ์ ส่งเอสเอ็มเอสมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และคดีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ว่าคดีนายจุรินทร์ ที่ปัจจุบันเป็นรมว. สาธารณสุข มีข้อมูลพร้อมแล้วจะชี้มูลได้ภายในเดือนม.ค.นี้ ขณะนี้ใกล้ครบกำหนดตามที่ ป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ไว้ หลายคดีที่เร่งรัดนั้นใกล้หมดอายุความแล้ว หากคณะกรรมการป.ป.ช.ไม่เร่งดำเนินการพิจารณา แล้วปล่อยให้คดีขาดอายุความก็จะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ส่วนคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร 7 ต.ค.51 ที่ก.ตร มีมติว่านายพลตำรวจ 3 นาย ไม่มีความผิดวินัยร้ายแรงฐานทุจริตต่อหน้าที่ตามที่คณะป.ป.ช.ชี้มูล แสดงให้เห็นว่ากระบวนและเหตุผลการวินิจฉัยของ ป.ป.ช.อาจมีข้อบกพร่อง ขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช. โปรดยึดหลักกฎหมายและความเที่ยงธรรมในการพิจารณาคดี อย่าสร้างมาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยมีในระบอบกฎหมายของไทยมาใช้ในการไต่สวนและชี้มูลความผิด ป.ป.ช.อย่ายื้อเวลาในการพิจารณาคดีสำคัญที่น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ถูกร้อง วันที่ 27 ม.ค.เวลา 10.00 น. ตนจะไปยื่นหนังสือทวงถามต่อป.ป.ช.เป็นครั้งที่สองถึงความคืบหน้าคดีสำคัญ 5 เรื่องที่ยังไม่มีความคืบหน้า
ปัด"แม้ว"ไม่เกี่ยวฮิวแมนไรท์วอตช์
นายพร้อมพงศ์ แถลงว่า กรณี ผอ.ฮิวแมน ไรท์ วอตช์ เอเชีย อัดรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ว่าสองมาตรฐาน บั่นทอนสิทธิมนุษยชนและนิติธรรม ถือเป็นมุมมองของต่างชาติที่มองการทำงานของรัฐบาล ว่าสองมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองที่ต่างกัน ไม่มีความเป็นธรรมและไม่มีมาตรฐาน ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการไร้มาตรฐาน และการช่วยเหลือ พวกพ้องของนายอภิสิทธิ์ คือการดำเนินคดีต่อกลุ่มพันธมิตร เรื่องดังกล่าวหากไปดูภาพหรือข่าวที่พันธมิตรบุกยึดทำเนียบในอดีต ประชาชนก็จะเข้าใจเหตุผลว่าเหตุใดนายอภิสิทธิ์ จึงไม่เร่งรัดให้ดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตร
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกฯ บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีของกลุ่มพันธ มิตรอย่างจริงจัง และให้เป็นมาตรฐานเดียว ไม่ใช่สองมาตรฐานหรือไร้มาตรฐานแบบนี้ และต้องไม่เห็นแก่พวกพ้องเพื่อสร้างความเป็นธรรม ความ ยุติธรรม และความเท่าเทียมกันทางการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อประโยชน์สุขของสังคมและประ เทศชาติ รวมถึงลดความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า หลีกเลี่ยงการปะทะของประชาชนในอนาคต และสร้างมาตรฐานในการบริหารประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนานาชาติด้วย
ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า กรณีฮิวแมน ไรท์ วอตช์ ระบุประเทศไทยมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง และมีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน สะท้อนให้เห็นว่าต่างชาติมีความ เป็นห่วงเรื่องการใช้กฎหมายที่ไม่เท่าเทียมกัน พอกลุ่มคนเสื้อแดงหรือพรรคเพื่อไทยพูด นายอภิสิทธิ์ กลับทำเป็นหูทวนลม แต่พอต่างชาติท้วงติงกลับมาโยนความผิดให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ โดยเฉพาะนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ให้ข้อมูลกับฮิวแมน ไรท์ วอตช์ ทำนองเดียวกับนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่าไปได้ข้อมูลจากใครมา พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เคยให้ข้อมูลใด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทุกคนสามารถรับรู้และเห็นได้โดยไม่ต้องมีใครไปบอก และเขามีคนอยู่ในพื้นที่
ออกเอกสารแจงที่มานายใหญ่รวย
นายนพดล กล่าวว่า เร็วๆ นี้ กลุ่มคนที่ชื่นชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำเอกสารชี้แจงกระบวนการต่างๆ ภายหลังยึดอำนาจ ทั้งการใช้ระบบสองมาตรฐานในประเทศไทย กระบวนการล้มล้างประชาชน ประวัติของพ.ต.ท.ทักษิณและครอบ ครัว โดยเฉพาะเรื่องทรัพย์สินก่อนเข้ามารับตำแหน่งทางการเมือง ที่ปรากฏชัดว่าร่ำรวยมาก่อนเล่นการเมือง ชี้แจงกระบวนการทำมาหากินก่อนรับตำแหน่งนายกฯ ระหว่างที่รับตำแหน่งนายกฯ จะทำหลายแสนฉบับและแจกจ่ายทั่วประเทศประมาณต้นเดือนก.พ.นี้ เอกสารดังกล่าวจะไม่เป็นการกดดันศาล หรือส่งผลกระทบต่อคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เป็นเพียงการให้ข้อมูลกับสังคมและไม่ว่าผลของคดีจะออกมาอย่าง ไร หรือการเลือกตั้งครั้งหน้าจะออกมาแบบไหน ความจริงจะยังเป็นสิ่งที่ยังคงอยู่
นายนพดล กล่าวว่า สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนี้ยังอยู่ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความกังวลในเรื่องของกระบวน การใส่ร้ายป้ายสี ที่ล่าสุดมีการปลอมทวิตเตอร์สร้างความสับสน ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณมี ทวิตเตอร์เพียงทักษิณ ไลฟ์ และทักษิณ บิซ เท่า นั้น ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณจะทยอยบอกความจริงกับประชาชนในรายการทอล์ก อะราวนด์ เดอะ เวิลด์ ทุกวันอังคารด้วย
นายนพดล กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ว่า ส่วนตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ไม่เคยบอกกล่าวแนวคิดนี้ให้ทราบ คงเป็นการพูดเพื่อปรามและส่งสัญญาณถึงคนที่คิดจะยึดอำนาจมากกว่า ว่าคนเสื้อแดงจะไม่มีทางยอมรับการยึดอำนาจ แม้ว่าจะไม่เห็นด้วยกับรัฐ ธรรมนูญ 50 แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนอกระบบตามที่ปรากฏข่าวลือเป็นระยะๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อให้คนเสื้อแดงกลัว หรือปล่อยถึงรัฐบาลที่บริหารล้มเหลว
รับ"แม้ว"คิดตั้งรบ.พลัดถิ่นหลังปฏิวัติ
เมื่อถามว่าหากมีการยึดอำนาจอีกครั้ง พ.ต.ท. ทักษิณอยู่ในฐานะที่จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น และขอการรับรองจากสหประชาชาติได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นเพียงการพูดเพื่อปรามหรือดำเนินการอย่างไรได้ แต่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พูด คือต้องมีเงื่อนไขว่าเกิดการยึดอำนาจอีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ตั้งโดยไม่มีเงื่อนไข ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ในเรื่องนี้ได้ ต้องว่าไปตามสถานการณ์ หลักการทั่วไปการที่จะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้เมื่อผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนถูกยึดอำนาจไป ก็จะเป็นเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นได้ แต่รัฐบาลพลัดถิ่นก็ไม่ได้มีอำนาจในประเทศจริงๆ ตามกฎหมายภายใน แต่มีนัยยะทางการเมืองมากกว่า
เมื่อถามว่าการรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ปรากฏรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีแนวคิดตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น นายนพดล กล่าวยอมรับว่าก็มีคนเสนอแนวคิดดังกล่าวจริง แต่เราเข้าใจว่าบ้านเมืองจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่เอาเข้าจริงผ่านพ้นไป 3 ปีก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จึงเป็นเรื่องของอนาคตที่จะต้องรอดู เมื่อถามต่อว่าจะเข้าไปเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล พลัดถิ่นหรือไม่ นายนพดล หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่ได้เป็น อย่าให้ตนตอบคำถามเลยเพราะยังไม่ถึงขั้นนั้น
"เหลิม"ย่องเข้าเขมรแล้ว
ที่จ.สระแก้ว ว่า บริเวณด่านตรวจคนเข้าอรัญ ประเทศ จ.สระแก้ว ในวันเดียวกันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากกลุ่มเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง เดินเข้าประเทศเขมร โดยเมื่อ 14.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมผู้ติด ตาม 3 คน เดินทางเข้าเขมร บริเวณด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ
คณะของร.ต.อ.เฉลิม นั่งรถเก๋งสีเขียว ป้ายแดง มีรถตำรวจทางหลวงวิ่งนำไปจอดที่บ่อนกาสิโนแห่งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนไปนั่งรถปิกอัพโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กข-6795 สระแก้ว ขับไปส่งหน้าด่านตม.คลองลึก จากนั้นคณะของ ร.ต.อ.เฉลิม เข้าไปตรวจหนังสือเดินทาง ก่อนขึ้นรถข้ามไปฝั่งกัมพูชา ร.ต.อ.เฉลิม หันมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะเดินทางต่อไปยังกรุงพนมเปญ เพื่อพบพ.ต.ท.ทักษิณ โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์เพิ่มเติม และว่า "มารอทำข่าวเสธ.แดง (พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล) เหรอ แกไม่มาหรอก"
ข่าวจาก ข่าวสด
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1231 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 25 ม.ค. 53
เวลา 09:28:01
|
