กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เมื่อวันก่อน เห็น นช. เหลี่ยม โอดครวญใหญ่เลยครับ ว่ามีทรัพย์สินเยอะก่อนเล่นการเมือง จะยึดของผมได้อย่างไร เป็นเงินที่ได้มาจากการทำมาหากินก่อนเข้าการเมือง
ผมก็เลยไปตรวจค้นข้อมูลดูที่ ปปช. ว่าก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกฯ นช.เหลี่ยม ตรวจสอบได้ ที่นี่.
http://nacc.go.th/download/asset/in_taksin.pdf
เมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๔๖ ก่อนเข้ารับตำแหน่ง นายกฯ รอบสอง ได้แจ้งทรัพย์สิน ต่อ ปปช. ไว้ดังนี้
นช เหลี่ยม ได้รายงานทรัพย์สิน หลังหัก หนี้สินแล้ว ทั้งสิน = ๕๐๖,๔๙๓,๙๗๒.๑๑ บาท
พจมาน ชินวัตร(ขณะนั้น) แจ้งทรัพย์ สินไว้ = ๘,๘๐๒,๓๔๕,๘๖๐.๖๒ บาท
ลูกยังไม่บรรลุนิติภาวะ นางสาวแพรทองธาน ชินวัตร = ๓,๒๖๒,๘๘๒,๙๘๘.๕๙ บาท
รวมทั้งสามคน = ๑๒,๕๗๑,๗๗๒,๘๒๑.๓๒ บาท
(หนึ่งหมื่นสองพันห้าร้อยเจ็ดสิบเอ็ดล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นสองพันแปด ร้อยยี่สิบเอ็ดบาทสามสิบสองสตางค์)
สามารถดูข้อมูลการยื่นบัญชีทรัพย์สิน นักการเมือง ได้จาก เว็บไซด์ ปปช. ที่.....
มีคำถามต่อ
๑) หากทรัพย์สินที่รายงานก่อนเข้าตำแหน่งครั้งที่ ๒ เป็นทรัพย์สินจริงๆ แล้วส่วนต่างที่เหลือหลายหมื่นล้าน ท่านได้มาอย่างไร?
๒) หาก ๗๖,๐๐๐ ล้านไม่รวมที่แอบไว้ ที่ถูกยึดเป็น คือทรัพย์ที่แท้จริง แสดงว่าข้อมูลที่แจ้ง ต่อ ปปช. เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ ใช่หรือไม่
๓) ทรัพย์สินที่แจ้ง คือทรัพย์ ที่รวม เงิน ที่ดิน เครื่องประดับ สิ่งปลูกสร้าง เงินฝาก ทุกบัญชี แล้ว แต่ ๗๖๐๐๐ เป็นเงินที่อยู่ในบัญชี แสดงว่า ทรัพย์สินทั้งหมด มีมากกว่า ๗๖๐๐๐ ล้านใช่หรือไม่
๔) จำนวนเงินที่ถูก คตส. อายัด ทั้งหมด ดังนี้
เป็น คดีดำหมายเลขดำ ที่ 14/2551 ที่นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์ที่ร่ำรวยผิดปกติ และได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการจัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและ ประโยชน์ส่วนรวม ของนช เหลี่ยม ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จำนวน 76,621,603,061.05 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน
สำหรับบัญชีเงินฝาก 16 บัญชี ของนช เหลี่ยม และครอบครัวชินวัตร ที่ถูกอายัดไว้ ครั้งแรก มีดังนี้
๑ ธนาคารกสิกรไทย 36 ล้านบาท ,
๒ ธนาคารกรุงเทพ 18,156 ล้านบาท ,
๓ ธนาคารกรุงศรียุธยา 2,125 ล้านบาท ,
๔ ธนาคารทหารไทย 10 ล้านบาท,
๕ ธนาคารไทยพาณิชย์ 39,634 ล้านบาท,
๖ ธนาคารธนชาต 1,476 ล้านบาท,
๗ ธนาคารนครหลวงไทย 1 ล้านบาท,
๘ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 500 ล้านบาท,
๙ ธนาคารยูโอบี 492 ล้านบาท,
๑๐ ธนาคารออมสิน 15,748 ล้านบาท,
๑๑ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 200 ล้านบาท,
๑๒ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 10,000 ล้านบาท ,
๑๓ บลจ.กสิกรไทย 208 ล้านบาท,
๑๔ บลจ.ไทยพาณิชย์ 2,237 ล้านบาท,
๑๕ บลจ.แอสเวทพลัส 172 ล้านบาท และ
๑๖ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์และที่ดิน 2,722 ล้านบาท
เอ หว่า แล้วมันงอก มาได้อย่างไร ตั้งเยอะแยะตาแปะไก่ ว่ะนี่ ใครรู้ช่วยบอกที น่ะครับ อิอิ....
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
