สัก กอแสงเรือง

"สัก กอแสงเรือง" ยังตามกัดไม่ปล่อย ชงสรรพากรอายัดทรัพย์ "ทักษิณ" ที่เหลือ 3 หมื่นกว่าล้าน แฉยังมีภาษีที่ค้างชำระอยู่อีกราว 1.4 หมื่นล้าน ด้านสวนดุสิตโพลชี้ส่วนใหญ่เห็นว่าสถานการณ์จะวุ่นวาย-รุนแรงขึ้น..

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ถึงกรณีศาลตัดสินยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 46,373 ล้านบาท จาก 7.6 หมื่นล้านบาท เหลืออีกประมาณ 30,247 ล้านบาท ว่าเงินที่ศาลตัดสินยึดนั้นต้องก็ตกเป็นของแผ่นดิน  ส่วนที่เหลือนั้นก็อาจจะถูกกรมสรรพากรอายัดได้ นอกจากนี้ยังมีในส่วนภาษีที่ยังค้างชำระอยู่ ทั้งที่เป็นของบุตรสาว และบุตรชาย ประมาณ 1.3-1.4 หมื่นล้านบาท และ ยังมีเงินในส่วนที่เป็นนของของบริษัท แอมเพิลริช อีก 2 หมื่นล้านบาท

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนหลังองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 4.6 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ 35.74% ยังกังวลกับสถานการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ยังมีอยู่ รองลงมา 21.72% เห็นว่าเป็นการตัดสินที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม สมเหตุสมผล ทุกคนควรเคารพการตัดสินของศาล 16.68% รู้สึกสงสารและเห็นใจอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่ถูกยึดทรัพย์เป็นเงินจำนวนมาก 13.91% เห็นด้วยกับเงินที่ยึดคืนมา เพราะมาจากการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์และเอื้อประโยชน์อันมิชอบ และ 11.95% ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินของศาล คิดว่าไม่เป็นธรรม และใช้ระบบสองมาตรฐาน

เมื่อถามว่หลังการตัดสินคดีจะทำให้ความขัดแย้งระหว่าง "เสื้อแดง" กับ "รัฐบาล" เป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ 42.39% เห็นว่ารุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะเป็นการสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงมากขึ้น อาจนำผลตัดสินมาเป็นประเด็นขยายผลเรื่องความไม่เป็นธรรม ส่วนที่เห็นว่าลดลงมีเพียง 11.96% นอกจากนี้ 53.85% ยังเห็นว่าหลังการตัดสินคดีจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองวุ่นวายมากขึ้น เพราะกลุ่มเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวเนื่องจากไม่พอใจที่อดีตนายกฯทักษิณ ถูกยึดทรัพย์ มองว่าถูกกลั่นแกล้ง มีที่เห็นว่าสถานการณ์จะวุ่นวายลดลงเพียง 9.89%

นอกจากนี้ โพลยังเห็นว่าหลังการตัดสินคดียึดทรัพย์ บทบาทของสื่อมวลชนควรนำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา เป็นไปตามข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือน 48.72% นำเสนอในทางสร้างสรรค์ ไม่นำเสนอข่าวเชิงยั่วยุหรือสร้างกระแส 30.48% และคอยทำหน้าที่ตรวจสอบ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ และรายงานอย่างรวดเร็ว 20.80%.

ข่าวจาก ไทยรัฐ