| • ข่าวดี!! บัตรทอง เพิ่มสิทธิให้ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย #ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด |
|
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 11 ก.ค. 62 เวลา 09:56:18 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้

ที่มา ไทยคู่ฟ้า
“ธาลัสซีเมีย” เป็นโรคโลหิตจางที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์แบบยีนเดี่ยว ซึ่งพบได้บ่อยในประเทศไทย ความรุนแรงของโรคนี้มีได้ตั้งแต่แสดงอาการเพียงเล็กน้อย ปานกลาง ไปจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้มีคุณภาพชีวิตลดลง เนื่องจากต้องรักษาไปตลอดชีวิต และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูงมาก นับว่าเป็นโรคชนิดไม่ติดต่อที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย
ล่าสุด คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เห็นชอบให้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตกรณีผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคอื่น ๆ จากเดิมที่จำกัดสิทธิไว้เพียงเฉพาะผู้ป่วยธาลัสซีเมียชนิดรุนแรงและมีข้อบ่งชี้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2563
โดยปรับอัตราและเงื่อนไขการจ่ายชดเชยค่าบริการให้ครอบคลุมระยะการรักษาตั้งแต่ "ก่อน" รับการปลูกถ่าย "ระหว่าง" การปลูกถ่าย และ "หลัง" การปลูกถ่าย กำหนด "อัตราชดเชยแบบเหมาจ่าย" 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโดยใช้เซลล์ของผู้ป่วยเอง รายละ 750,000บาท
กรณีที่ 2 การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดจากผู้บริจาค ทั้งในกรณีที่ผู้บริจาคเป็นญาติพี่น้องและไม่ใช่ญาติพี่น้อง รายละ 1,300,000 บาท
เหตุผลในการ "ปรับอัตราและเงื่อนไขการจ่ายชดเชยค่าบริการ" เนื่องจาก การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดในอดีตมีผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาน้อยมากเพราะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 1 ล้านบาท
นับตั้งแต่ปี 2551 ที่บรรจุเรื่องการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตเป็นสิทธิประโยชน์ในกองทุนบัตรทองจนถึงปี 2561 มีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายแล้ว 414 ราย เป็นผู้ป่วยเด็ก 79 ราย ผู้ใหญ่ 335 ราย ส่วนปี 2562 กำหนดเป้าหมายการปลูกถ่าย 97 ราย
โดยในปี 2563 ขยายเป้าหมายการรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวน 110 ราย เพิ่มโอกาสการเข้าถึงการรักษาอย่างทั่วถึงให้กับผู้ป่วย
สำหรับหน่วยบริการที่ให้บริการการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มี 10 โรงพยาบาล ดังนี้
1. โรงพยาบาลรามาธิบดี
2. โรงพยาบาลศิริราช
3. โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
4. โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
5. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
6. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
7. โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
8. โรงพยาบาลศรีนครินทร์
9. โรงพยาบาลหาดใหญ่
10. โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
กระทู้/ข่าว อื่นๆ ที่น่าสนใจ
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1126 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 ก.ค. 62
เวลา 09:56:18
|