• Rapid Antigen Test เรื่องต้องรู้ก่อนจะซื้อไปตรวจเองที่บ้าน |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 12 ก.ค. 64 เวลา 23:14:55 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
12กรกฎาคม 2564 กรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติถึงประเด็นการปลดล็อก ชุดตรวจโควิด-19 หรือ Rapid Antigen Test ในการตรวจเชื้อ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงการตรวจหาเชื้อโรคโควิด ทางเพจเฟซบุ๊ค MedTech คือเทคนิคดารแพทย์ ได้โพสข้อความให้ความรุ้เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยมีเนื้อหาดังนี้
สิ่งที่ประชาชนต้องรู้ เรื่อง “Rapid Antigen Test”
ที่ทาง สธ. กำลังจะอนุมัติให้ซื้อตรวจเองที่บ้านได้
ก่อนอื่น…ก่อนที่จะแห่ไปซื้อกันเพราะกลัวของขาดตลาด เหมือนช่วงที่ Mask ขาดแล้วไปขายอัพราคากัน โปรดอ่านก่อนนะคะ
1. ตอนนี้ควรรอเอกสาร หรือมติที่ประชุมของกระทรวงที่ประกาศอย่างชัดเจนแล้ว ว่ายี่ห้อไหนได้รับการรับรองแล้วบ้าง อย่าเพิ่งรีบซื้อค่ะ (ถ้ามีอัปเดทอย่างเป็นทางการแล้วว่ามียี่ห้อไหนบ้าง จะนำมาแจ้งอีกที)
2. ก่อนจะซื้อ แน่ใจว่าเราซื้อชุดตรวจได้อย่างถูกต้องแล้วหรือไม่ ซึ่งชุดตรวจนี้ต้องเป็น “Rapid Antigen Test” ไม่ใช่ “Rapid Antibody Test” ความแตกต่างสามารถดูที่รูปภาพประกอบได้เลยค่ะ
3. ***เมื่อซื้อมาแล้ว แน่ใจว่าเราจะสามารถทำการเก็บสารคัดหลั่งของตัวเอง หรือผู้ที่ต้องการเทสได้ถูกต้องหรือไม่*** ข้อนี้สำคัญมากค่ะ เนื่องจากว่าบ้านเรายังไม่มีการสอนเรื่องนี้อย่างจริงจังและถูกต้องให้กับประชาชน หรือแม้แต่ตัวเราเองที่เรียนสาขานี้มาโดยตรง แต่กลับไม่มีวิธีการสอนเก็บในหลักสูตร แต่ในเมื่อโรคนี้มันระบาดเป็นวงกว้าง เหล่าบุคลากรทางการแพทย์จึงอาจจำเป็นต้องได้รับการฝึกฝนในการเก็บสิ่งส่งตรวจอย่างเร่งด่วน แต่ในส่วนของประชาชนล่ะ ใครจะเป็นคนสอน โดยเฉพาะการทำ Swab ? (อันนี้ฝากไว้ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปพิจารณาก่อนจะอนุมัติให้ประชาชนซื้อมาใช้ตรวจเองด้วยค่ะ)
4. ***การแปลผล เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน โดยปกติแล้วนักเทคนิคการแพทย์จะเป็นคนแปลผลการทดสอบ แต่เมื่อประชาชนนำไปเทสเอง จะสามารถอ่านผลทดสอบได้อย่างถูกต้องหรือไม่ ต้องมีการให้ความรู้อย่างจริงจังกันแล้วค่ะ
5. ***การกำจัดสารคัดหลั่งและชุดตรวจหลังการทดสอบ ต้องมั่นใจว่าเราสามารถกำจัดขยะเหล่านี้ได้อย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่น
—————————————————————
ทำไมถึงจะเริ่มให้ประชาชนตรวจกันเองแล้ว ?
1. เพื่อเป็นการ “วินิจฉัยเบื้องต้น” สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงว่าได้รับเชื้อมา
2. เพื่อลดคอขวดของการที่ประชาชนต้องไปแห่กันหาที่ตรวจแบบ RT-PCR จริงอยู่ที่การตรวจแบบนี้จะรู้ผลเลยว่าติดหรือไม่ติด แต่อย่าลืมว่าบางคนไม่ได้ตรวจแค่รอบเดียว ส่งผลให้เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจสูง
3. เป็นการลดภาระในการทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ **หากผู้ที่ใช้ชุดตรวจสามารถใช้งานและอ่านผลได้อย่างถูกต้อง**
4. ทำให้เราได้คอยตรวจสอบอาการของตัวเองอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องออกไปเสี่ยงเจอเชื้อที่โรงพยาบาลอีก ตอนแรกเราอาจจะไม่ติด แต่การออกไป รพ. บ่อยๆ หรือออกนอกบ้านก็เป็นความเสี่ยงที่ทำให้เราได้รับเชื้อมาก็ได้—————————————————————เกริ่นมายาวมาก ต่อไปมาเริ่มกันที่เรื่อง
Rapid Antigen Test กันเลยค่ะ
- เป็นการตรวจหาเชื้อโควิด โดยต้องตรวจจากสารคัดหลั่งในโพรงจมูก (การทำ Swab) หรือตอนนี้อาจมีบางยี่ห้อที่สามารถตรวจจากน้ำลายได้แล้ว / ( ต่างกับการตรวจ Rapid Antibody Test เค้าเอาไว้คัดกรองคนที่เคยติดแล้วกำลังจะหาย ซึ่งใช้เลือดจากปลายนิ้วในการตรวจ ไม่ขอพูดรายละเอียดในตัวชุดตรวจนี้ต่อนะคะ )
- อย่างที่บอกไว้ ย้ำแล้วย้ำอีก ว่ามันเป็นแค่ “การวินิจฉัยเบื้องต้น” เพราะฉะนั้น “ไม่ใช่การยืนยัน ว่าเราติดโควิดหรือไม่ติด”
การอ่านผลแบบคร่าวๆ ดูรูปภาพประกอบด้วยนะคะ
*** แถบ C จะต้องขึ้นทุกครั้ง ถึงสามารถอ่านผลได้ ***
+ Positive (แถบ C , T ขึ้นขีด)
หากตรวจแล้วเป็นบวก ต้องไปทำการตรวจยืนยันด้วย RT-PCR อีกรอบด้วย เพราะถ้าติดจริงก็จะได้ทำการรักษาต่อไป หรือถ้าไม่ติดแสดงว่าเกิดจากการเทสที่ผิดก็เป็นได้ค่ะ
- Negative (แถบ C ขึ้น / T ไม่ขึ้นขีด)
ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ติด เพราะบางทีเราอาจจะเพิ่งได้รับเชื้อมาแค่ไม่กี่วัน เพราะฉะนั้น ถ้าเรารู้ว่าเรามีความเสี่ยงใกล้ชิดคนติดเชื้อมา “ห้ามดีใจไป แล้วออกไปใช้ชีวิตปกติ เด็ดขาด!!!” ควรลองเทสใหม่ดูเรื่อยๆ ทุกวันก็ได้นะ หรือ 2-3 วันที ถ้าตรวจไปเรื่อยๆ จนครบกำหนดกักตัว 14 วันแล้ว ก็อาจจะเบาใจได้ว่าเราไม่ติด / แต่ถ้าแถบ T ขึ้นมา ต้องไปตรวจ RT-PCR ต่อเช่นกัน
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านไหนยังมีข้อสงสัย หรือความกังวลเกี่ยวกับการใช้งาน การอ่านผล หรือเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ สามารถสอบถาม inbox มาที่เพจนี้ได้เลยนะคะ เรามีนักเทคนิคการแพทย์ที่คอยตอบคำถามทุกท่านอยู่ค่ะ
ที่มา: MedTech คือเทคนิคดารแพทย์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 377 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 ก.ค. 64
เวลา 23:14:55
|