• สธ. เตรียมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีน บูสเตอร์ โดส ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ภายในสัปดาห์หน้า |
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 11 ก.ค. 64 เวลา 23:54:27 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กระทรวงสาธารณสุขขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพยาบาลที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ เตรียมเสนอการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติพิจารณา ย้ำวัคซีนช่วยลดความรุนแรงของโรคและการเสียชีวิต
(11 กรกฎาคม 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ ว่า กระทรวงสาธารณสุขขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 โดยพยาบาลรายนี้ได้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม แต่จากการปฏิบัติงานภายในหอผู้ป่วยผู้ป่วยโควิด 19 แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีโอกาสรับเชื้อจากการปฏิบัติงาน ถือเป็นความเสียสละที่ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท และจากการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์ไวรัสจากอัลฟาเป็นเดลต้า ทำให้การป้องกันโดยวัคซีนโควิด 19 อาจไม่ได้ผลดีเท่าเดิม ดังนั้น คณะกรรมการวิชาการภายใต้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่ประชุมเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันวิทยา ด้านไวรัสวิทยา และโรคติดเชื้อเข้าร่วม เห็นตรงกันว่า บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ควรได้รับวัคซีนกระตุ้นอีก 1 เข็ม ด้วยวัคซีนต่างชนิด คือ ไวรัลเวคเตอร์ หรือ mRNA โดยเสนอคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติพิจารณาวันที่ 12 กรกฎาคมนี้
“หากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเห็นชอบสามารถดำเนินการได้ทันที กระทรวงสาธารณสุขจึงได้สำรวจความต้องการของบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อจัดสรรและส่งวัคซีนไปฉีดเป็นเข็มกระตุ้น โดยจะมีการเก็บข้อมูลด้วยการเจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันก่อนและหลังฉีด เพื่อเป็นประโยชน์การให้วัคซีนแก่บุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ เชื้อไวรัสที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ไวรัสตัวใหม่มักมีความสามารถหลบภูมิคุ้มกันมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด ดังนั้น คำแนะนำแนวทางการให้วัคซีนจะมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม เพื่อรับมือกับเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บุคลากรทางการแพทย์และผู้รับวัคซีนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” นายแพทย์โสภณกล่าว
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 453 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย คนข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 11 ก.ค. 64
เวลา 23:54:27
|