กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สถานการณ์เตียงผู้ป่วยโควิด จ.เชียงใหม่เข้าใกล้วิกฤต เหลือเตียงว่างเพียง 7.9%
จากสถานการณ์โควิดจ.เชียงใหม่ที่มีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องมาหลายวันติดต่อกัน จนในวันนี้ทำลายสถิติผู้ป่วยใหม่รายวัน สูงที่สุดนับตั้งแต่จ.เชียงใหม่เริ่มพบผู้ป่วยโควิดมา (ผู้ป่วยรายใหม่ 337 ราย ใน วันที่ 13 ต.ค. 2564 ) ทำให้มีผู้ป่วยที่เพิ่มเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาล เป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มความรุนแรงของอาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก (สีส้ม) และผู้ป่วยวิกฤต (สีแดง) ที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาในสถานพยาบาลที่มีความพร้อมระดับสูง ซึ่งในขณะนี้เตียงที่มีได้ถูกใช้ไปเกือบทั้งหมดแล้ว
รพ.นครพิงค์ ซึ่งทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยโควิดที่มีอาการหนักของจ.เชียงใหม่เป็นหลัก มีห้อง icu ความดันลบที่สามารถดูแลผู้ป่วยอาการหนักได้ 35 ห้อง แต่ในขณะนี้มีผู้ป่วยโควิดที่รักษาในรพ.นครพิงค์แล้ว 36 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจถึง 7 ราย ผู้ป่วยที่ใส่เครื่องให้ออกซิเจนอัตราไหลสูง 3 ราย ซึ่งนอกจากกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการหนักแล้ว รพ.นครพิงค์ยังต้องให้การรักษาผู้ป่วยโควิดที่ต้องได้รับการผ่าตัด รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงเช่น ผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต,ผู้ป่วยเด็กเล็กซึ่งต้องให้การรักษาพร้อมกับครอบครัว ทำให้ในตอนนี้รพ.นครพิงค์ รับผู้ป่วยเกินจำนวนเตียงที่มีแล้ว ขณะที่สถานการณ์เตียงกลุ่มอื่นๆในจ.เชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระดับปานกลาง (สีเหลือง) หรือแม้แต่กลุ่มที่อาการไม่รุนแรง (สีเขียว) ทั้งในรพ.ชุมชน,รพ.เอกชนและรพ.สนาม ก็เริ่มตึงแล้วเช่นกัน โดยมีอัตราการครองเตียงสูงถึง 92.1% เหลือเตียงว่างเพียง 7.9% (ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจ.เชียงใหม่)
ในสถานการณ์ที่เข้าใกล้วิกฤตเช่นนี้ หากจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ยังคงเพิ่มในอัตราที่เกินกว่าจำนวนเตียงในระบบจะรองรับได้เช่นนี้ต่อไป อาจนำมาซึ่งความสูญเสียของคนที่เรารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ควรได้รับวัคซีนโดยเร็ว เพื่อลดความรุนแรงและลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นและแม้ว่าเราจะเหนื่อยล้ากับการตั้งการ์ดระวังตัวเอง กันมาตลอดเกือบ 2 ปี แต่ในครั้งนี้ชาวเชียงใหม่คงต้องร่วมใจกันอีกสักครั้ง ด้วยการใช้ชีวิตไม่ประมาท สวมหน้ากาก,ล้างมือ,เว้นระยะห่าง แล้วเราจะผ่านวิกฤตนี้ได้อีกครั้ง
ที่มา: รพ.นครพิงค์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|