กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
เพราะไม่ใช่มีแค่แก๊งคอลเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีประเภทอื่นๆอีก รวมแล้วเรียกว่า อาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งเป็นธุรกิจมืดที่มีมูลค่าสูงกว่าค้ายาเสียอีก โดย Cybersecurity Ventures ประเมินว่าปี 2021 ที่ผ่านมามูลค่าความเสียหายของ“อาชญากรรมไซเบอร์ทั่วโลก” เฉพาะด้านการแฮ๊กข้อมูลสูงถึง 6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เฉลี่ยแล้วมีข้อมูลถูกแฮ็กคิดเป็นมูลค่า 190,000 เหรียญสหรัฐต่อวินาที (ประมาณ 5.7 ล้านบาทต่อวินาที) ซึ่งเทียบเป็นตัวเลขทางเศรษฐกิจอันดับ 3 รองจากสหรัฐฯ และจีนเลยทีเดียว
วันนี้เพจจึงอยากนำเสนอความรู้ว่า อาชญากรรมไซเบอร์ที่ใช้ดูดทรัพย์ประชาชนในไทยมีอะไรบ้าง เพื่อให้ท่านใช้เป็นคัมภีร์ปกป้องเงินในกระเป่าให้ปลอดภัยครับ เนื่องจากการแจ้งความให้ตำรวจตามจับนั้นเป็นแก้ที่ปลายเหตุ อีกทั้งการติดตามจับกุมนั้นไม่ง่าย การป้องกันทรัพย์สินตนเองจึงเป็นวิธีที่ดีอันดับแรก รวมทั้งการเผยแพร่ความรู้สู่คนรอบตัวเพื่อลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจของคนที่เรารักและหวังดี
-หลอกขายของออนไลน์
กรณีนี้ภาพสินค้าที่โพสต์ขายจะดูดี ราคาถูกผิดปกติ หรือเงื่อนไขดีมากๆ จนตกหลุมโอนเงินโดยง่าย แต่เมื่อได้รับเงินแล้วจะไม่ส่งสินค้า หรือส่งสินค้าไม่ตรงตามที่ตกลง หรือล่าช้าจนต้องฟ้องร้องดำเนินคดีกัน บางร้านก็จะนำหลักฐานปลอมอื่นมาประกอบเพิ่ม อาทิ ใบทะเบียนพาณิชย์ปลอม แสดงที่อยู่ปลอม ติดต่อกันเฉพาะแชทโดยไม่ตรวจสอบความมีอยู่จริงของร้านค้า (โดยเฉพาะสินค้าราคาแพงต้องตรวจทุกครั้ง) ซึ่งผู้ซื้อต้องตรวจสอบให้ดี แม้ไม่มีสูตรสำเร็จในการตรวจสอบ แต่ความช่างสังเกต ช่างสงสัย จะทำให้เราจ่ายเงินและได้สินค้าคืนอย่างแน่นอนครับ
-เงินกู้ออนไลน์ ดอกเบี้ยมหาโหด
รวมทั้งยังมีพฤติกรรมที่โหดร้าย อาทิ หลงสมัครแล้วเปลี่ยนใจกู้ ก็จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมยกเลิกสัญญา ทั้งที่ตอนทำสัญญาก็คือการคุยกันทางแชทเท่านั้น (กล่าวคือ ตีมึนกินรวบครับ) ซึ่งอีกทั้งแม้ทำสัญญากู้แล้วก็ได้รับเงินมาไม่ถึงครึ่งเนื่องจากถูกหักล่วงหน้าเป็นดอกเบี้ยไปแล้วก็มี รวมถึงค่าปรับต่างๆที่มีจำนวนสูงมากหลายเท่าตัว
-กู้ทิพย์
กรณีนี้จะต่างจากกรณีข้างต้น คือ แก๊งมิจฉาชีพจะหลอกผู้เสียหายว่าก่อนได้รับเงินกู้ จะต้องเสียค่าบริการ ค่ามัดจำหรือค่าดำเนินการต่างๆ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้เรื่อยๆ จนสุดท้าย ก็ไม่ได้รับเงินกู้จริงตามที่กล่าวอ้าง
-หลอกให้ลงทุนต่างๆ
เป็นพฤติการณ์ที่มีมานานแล้ว แต่ยังปรากฏให้เห็นโดยตลอดเช่น ลงทุนธุรกิจ, ลงทุนแชร์ลูกโซ่ ฯลฯ แต่ยกระดับให้ลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะเสนอผลตอบแทนเป็นจำนวนมาก ได้เงินไว แรกๆ อาจจะได้รับผลจริง เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและร่วมลงทุนเป็นจำนวนมากขึ้น ก็จะเริ่มบ่ายเบี่ยง ไม่ให้ผลตอบแทนตามที่ตกลงไว้
-หลอกให้เล่นพนันออนไลน์
เพราะการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ดังนั้นหากโดนหลอกชวนให้เล่นพนันออนไลน์แล้ว ท่านอาจไม่สามารถแจ้งความหรือดำเนินคดีกับมิจฉาชีพได้นะครับ
-โรแมนซ์สแกม หลอกให้รัก หลอกให้โอนเงิน
กรณีนี้จะกระทำการเป็นแก๊ง โดยจะใช้รูปภาพและโปรไฟล์เป็นชาวต่างชาติ ที่ดูดีมีฐานะ ทักมาคุยสร้างความสนิทสนม จากนั้นจะหลอกผู้เสียหายด้วยวิธีการต่างๆ เช่น จะส่งของมาให้ หรือหลอกให้ลงทุน หรือส่งของมาแล้วให้โอนเงินชำระค่าภาษีปลอมที่พนักงานศุลกากรปลอม หรือเมื่อจ่ายค่าภาษีปลอมแล้วก็จะต้องจ่ายค่าขนส่งราคาแพงให้แก่พนังงานขนส่งปลอมอีกเป็นต้น
-พิชชิ่ง ( Phishing)
เป็นการเล่นคำที่มาจาก fishing ที่แปลว่า ตกปลา ดังที่เราจะเห็นมีการส่ง sms ต่างๆเช่น ท่านได้รับความช่วยเหลือต่างๆ ท่านเป็นผู้โชคดีได้รับเงินรางวัล หรือแม้กระทั่งหลอกว่าเป็นลิงก์จากหน่วยงานหรือธนาคาร ให้กดลิงก์เข้าไปเพื่อตรวจสอบข้อมูล แต่เมื่อกดลิงก์เข้าไปแล้ว มิจฉาชีพก็จะแฮ็กข้อมูลในโทรศัพท์หรือบัญชีธนาคาร ทำให้สูญเงินไปทันที
สิบรู้ไม่สู้มือคลำ อ่าน10รอบก็ไม่รู้เท่าโดนหลอกเพียงครั้งเดียว
ตำรวจภูธรจังหวัดไม่อยากให้ท่านและครอบครัวต้องเสียใจกับการสูญเสียเงินให้แก่แก๊งอาชญากรรมไซเบอร์เหล่านี้ จึงมีพันธกิจในการนำข่าวสารองค์ความรู้ ทั้งบริบท พฤติการณ์ ความเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนพฤติกรรมของเหล่าแก๊งนำมาเล่าบนเพจเสมอ ซึ่งหากท่านกดติดตามไว้จะได้รับทราบข่าวสารของแก๊งอย่างต่อเนื่อง สร้างภูมิรู้สู้ภัยอาชญากรรมไซเบอร์ไปร่วมครับ
ที่มา: อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ,ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|