กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
การสมัครงานนั้น “จะต้องแสดงผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม” ประกอบในการสมัครงานด้วย
เกณฑ์ดังกล่าว อาจทำให้ ปชช. ที่เคยมีประวัติถูกฟ้องคดีอาญา แต่ศาลยกฟ้อง และยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ในฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร อาจถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับการพิจารณาเข้าทำงาน ส่งผลให้ขาดโอกาสในการกลับไปใช้ชีวิตใหม่ ดังนั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกประกาศใช้ระเบียบฯ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ. 2566 แล้ว เมื่อ 27 เม.ย. 2566 และระเบียบฉบับนี้ มีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อ 27 พ.ค. 2566
โดยระเบียบฉบับนี้ มีการแก้ไขปรับปรุง “การจัดเก็บประวัติบุคคล” ออกเป็น 3 ทะเบียน :
• ทะเบียนประวัติ “ผู้ต้องหา” คือข้อมูลบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญา แต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล หรือฟ้องต่อศาลแต่คดียังไม่ถึงที่สุด ห้ามเปิดเผย เว้นแต่ใช้เพื่องานสืบสวนสอบสวน งานสำนักพระราชวัง งานสมัครเข้ารับราชการ
• ทะเบียนประวัติ “ผู้กระทำความผิดที่มิใช่อาชญากร” คือ ข้อมูลบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิด โดยศาลลงโทษ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือรอการลงโทษ หรือมีเพียงโทษปรับ หรือกักขัง รวมถึงกระทำผิดโดยประมาท ห้ามเปิดเผยทั่วไปเว้นแต่ใช้เพื่อ งานสืบสวนสอบสวน งานขออนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด
• ทะเบียนประวัติ “อาชญากร” คือ ข้อมูลบุคคลที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิด โดยศาลลงโทษ จำคุกเกินกว่า 1 เดือนขึ้นไป โดยไม่รอการลงโทษ ยกเว้นการกระทำผิดโดยประมาท
นอกจากนี้ ยังกำหนดหลักเกณฑ์ “การลบหรือถอนประวัติอาชญากร” ของบุคคลที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติอาชญากร ให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน หลักเกณฑ์ตามระเบียบ เช่น เมื่อศาลยกฟ้อง อัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการ “แบ่งทะเบียน” ในการจัดเก็บข้อมูลตามระเบียบฯ นี้ จะทำให้มีบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,708,359 ราย จากทั้งหมด 13,079,324 ราย
การดำเนินการดังกล่าว เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ ปชช. ผู้บริสุทธิ์ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุขได้ในสังคม รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านการทะเบียนประวัติอาชญากรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้อยู่ในระดับมาตรฐานสากล
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|