กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จังหวัดเชียงใหม่ จับกุมแก๊งทวงหนี้นอกระบบ ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ลูกหนี้ ที่ อ.ดอยสะเก็ด วอนผู้ใดพบเห็นหรือเดือดร้อน ขอเร่งแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง
รวบตัวได้แล้ว วัยรุ่นอ้างสร้างตัวด้วยการเป็นเจ้าหนี้นอกระบบ !!!
พ่อเมืองเชียงใหม่ เผยจับกุมผู้กระทำความผิดยิงปืนข่มขู่ลูกหนี้นอกระบบ ที่อำเภอดอยสะเก็ดได้แล้ว พบเป็นเจ้าหนี้นอกระบบในพื้นที่เชียงใหม่ พร้อมสั่งเร่งสืบสวนขยายผลต่อไป
.
วันนี้ (13 ธ.ค. 66) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงประเด็นข่าวที่มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนกรณีคนทวงหนี้นอกระบบข่มขู่ลูกหนี้โดยใช้อาวุธปืน ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โดยเหตุเกิดเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ซึ่งลูกหนี้ได้เผยภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้สามารถจับภาพผู้ก่อเหตุกลุ่มหนึ่งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาบริเวณหน้าบ้าน พร้อมยิงปืนข่มขู่ จำนวน 6 นัด ก่อนที่จะขับขี่ยานพาหนะหนีออกไป
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ในวันนี้จากการบูรณาการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้แล้ว จำนวน 2 ราย และได้ดำเนินการแจ้งขอกล่าวหาพร้อมส่งให้พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ดดำเนินคดีตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับพลตำรวจตรี ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ นายจักรินทร์ สิรินทรภูมิ นายอำเภอดอยสะเก็ด และพันตำรวจเอก ธงชัย กรรณิกา ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 2 รายได้แก่ นายสาธิต (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และนายอำพล (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
“จากการสืบสวนข้อเท็จจริงของเจ้าหน้าที่ พบว่านางกรวรรณฯ (ลูกหนี้) ได้มีการตกลงกู้เงินจากนายอำพลฯ จํานวนเงิน 6,000 บาท โดยไม่มีสัญญาเงินกู้และคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 20 ของเงินต้น โดยนางกรวรรณฯ ต้องชำระเงินคืน วันละ 300 บาท เป็นเวลา 24 วัน หากชำระครบแล้วจะเป็นเงิน ทั้งสิ้น 7,200 บาท ซึ่งเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 66 นายอำพลฯ และนายสาธิตฯ ได้เข้าไปที่บริเวณบ้านของนางกรวรรณฯ เพื่อทวงเงินรายวันที่ขาดส่ง จำนวน 3 วัน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์มือถือของนายอำพลฯ พบข้อมูลการรับโอนเงินจากนางกรวรรณฯ โอนไปยังนายอำพลฯ ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชีนายอำพลฯ จํานวนเงิน 50 บาท ซึ่งนายอำพลฯ รับว่าเป็นการชำระหนี้รายวันจริง และมีรายการแชทคุยกันเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินและการชำระยอดเงินกู้ยืม จึงเชื่อได้ว่านายอำพลฯ และนายสาธิตฯ ได้ประกอบ ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในการกำกับในทางการค้าเป็นปกติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังและยินยอมให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงได้แจ้ง ข้อกล่าวหาว่า “ร่วมประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลในการกำกับในทางการค้าเป็นปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและยินยอมให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด” ทั้งนี้ ได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่งให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธร ดอยสะเก็ดดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมสั่งการให้เร่งสืบสวนขยายผลแก๊งเงินกู้ดังกล่าว ต่อไป” นายนิรัตน์ฯ กล่าว
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ มุ่งมั่นในการกวาดล้างสิ่งผิดกฎหมายที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองทุกประเภท เพื่อไม่ให้มีการกระทำความผิดในการทวงหนี้ทุกรูปแบบ หากพบจะดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดไม่มีละเว้น เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับเจ้าหนี้รายอื่น ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน หากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ หรือเรื่องอื่น ๆ สามารถร้องขอความช่วยเหลือ หรือแจ้งเบาะแสได้ทั้งทางออนไลน์ที่ https://debt.dopa.go.th หรือวอร์คอินได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 และสายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
