เตือนระวังมิจฉาชีพติดต่อผู้นำหมู่บ้าน ประกาศเสียงตามสายเชิญชวนประชาชนมาใช้บริการชำระภาษีรถยนต์-รถจักรยานยนต์ก่อนหอบเงินหนี ตำรวจจับตัวได้ ประกันตัวแล้วหลบหนียังไม่ยอมเข็ดหลาบ ใช้พฤติกรรมเดิม ตระเวนหลอกเหยื่ออีก ใครพบตัวแจ้งจับได้ทันที

จากกรณี เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2551 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อหลวง อ.ฮอดเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.อดุลย์ สมนึก สวญ.กับพวกร่วมกันจับกุม นายเกษมสิทธิ์ เสรีเกียรติ อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 11/1 หมู่ 1 ต.ขี้เหล็ก อ.แม่แตงเชียงใหม่ ขณะนั่งมาในรถโดยสารประจำทาง ผ่านมาถึงจุดตรวจ ตู้ยามหน่วยบริการประชาชนบ่อแก้ว ต.บ่อหลวง อ.ฮอดเชียงใหม่ นำตัวส่งมอบให้ พ.ต.ท.ธวัช พรหมใจ สารวัตรเวร สภ.บ่อหลวง อ.ฮอดเชียงใหม่ ดำเนินคดีข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และเอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ในประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน หลังถูกจับกุม นายเกษมสิทธิ์ ได้ประกันตัวหลบหนีไป

ข่าวคืบหน้าคดีนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มิ.ย.นี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามคืบหน้าคดีไปยัง พ.ต.ท.ธวัช พรหมใจ สารวัตรเวร สภ.บ่อหลวง อ.ฮอดเชียงใหม่ เจ้าของคดี ได้รับการเปิดเผยว่า พฤติกรรมของคดีนี้เกิดขึ้นช่วงระหว่าง วันที่ 20 ก.ย.50 ต่อเนื่องมาจากถึง วันที่ 31 ต.ค.50 นายเกษมสิทธิ์ ได้เข้าไปติดต่อกับผู้นำหมู่บ้านใน ต.บ่อสลี อ.ฮอดเชียงใหม่ ให้ประกาศให้ชาวบ้านทราบว่า ผู้ใดต้องการใช้บริการชำระภาษีรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ สามารถนำมาฝากทำได้ทันที ซึ่งมีชาวบ้านในเขต ต.บ่อสลี หลงเชื่อมาขอใช้บริการ นายเกษมสิทธิ์ จำนวน 18 ราย และทั้ง 18 ราย ต่างถูกหลอกเอาเงินไปรวมจำนวน 25,666 บาท จึงนำความแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อหลวง ขอดำเนินคดีกับ นายเกษมสิทธิ์

สำหรับผู้เสียหายในคดีนี้ทาง พ.ต.ท. ธวัช เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วมี นายทอง กำทาง อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 116 หมู่ 4 ต.บ่อสลี อ.ฮอด นายชาญ กองสิงห์ อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 นายสมบูรณ์ เขียวสา อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 21 หมู่ 4 ตำบลเดียวกัน ส่วนที่เหลือได้ทยอยสอบปากคำใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะยังมีผู้เสียหายทยอยมาแจ้งความเพิ่มเติมอีก

พ.ต.ท.ธวัช เผยอีกว่า สำหรับ นายเกษมสิทธิ์ ผู้ต้องหารายนี้เท่าที่ทราบ หลังจากประกันตัวไป และได้หลบหนี ยังได้ใช้พฤติกรรมเดิมหลอกลวงเอาเงินประชาชนอีกในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน, จ.เชียงใหม่ และ จ.ลำพูน โดยพฤติกรรมคือ จะเข้าไปติดต่อกับผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ ประกาศเสียงตามสายชักชวนประชาชนมาใช้บริการชำระภาษีรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ โดยจะคิดค่าบริการรถยนต์คันละตั้งแต่ 1,000 -2,000 บาท รถจักรยานยนต์คันละ 300-500 บาท เมื่อมีประชาชนหลงเชื่อมาใช้บริการได้เงินจำนวนมากแล้วก็จะหลบหนีทันที จึงขอเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ และหากพบตัว นายเกษมสิทธิ์ ให้แจ้งจับกุมได้ทันที.

ข่าวจาก ไทยนิวส์