• สองโจ๋วิ่งราวเย้ยกฎหมาย! |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 12 มิ.ย. 51 เวลา 00:59:59 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สองโจ๋วิ่งราวเย้ยกฎหมาย!
................รวบทันควัน.............
รวบสองโจ๋ก่อเหตุเย้ยกฎหมาย ด้วยการวิ่งราวทรัพย์กลางวันแสกๆ แต่สุดท้ายดาวโจรไม่รุ่งถูกตำรวจรวบตัวได้ หลังถูกจับกุมให้การรับสารภาพสิ้น ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เมื่อเวลา 17.20 น. วันที่ 10 มิ.ย. จ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายใต้การอำนวยการโดย พ.ต.อ.กริช กิติลือ ผกก.สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ต.รัฐการ เกิดดี สว.สป. ร.ต.อ.อำนาจ ธรรมสร รอง สวป.สภ.แม่ปิง ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าชุดสายตรวจ พร้อมกับพวกได้ร่วมกันทำการจับกุมตัวนายกิตติพงศ์ อินทะวงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/1 ถนนทุ่งโฮเต็น ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และนายสานิตย์ ผลดี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 ถนนทุ่งโฮเต็น ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอน-ดำ หมายเลขทะเบียน คษล-641 เชียงใหม่ จับกุมได้ที่บริเวณสะพานข้าทางรถไฟ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากวิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ว่ามีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาและก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ผู้เสียหายเป็นหญิง 1 ราย คือนางกันตินันท์ วรรณฤทธิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ถ.บ้านใหม่ ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โดยคนร้ายได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 สลึงของผู้เสียหายไป 1 เส้น เหหตุเกิดบริเวณหน้าตลาดสันป่าข่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนสายเชียงใหม่ - ลำพูน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกไล่ติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ขณะนั้น พ.ต.ท.สวัสดิ์ หล้ากาศ รอง ผกก.จร.ภ.จว.เชียงใหม่ ซึ่งได้ขับรถผ่านบริเวณเส้นทางดังกล่าวพอดี และได้ยินวิทยุสกัดจับกุมคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ผ่านมาเส้นทางดังกล่าว จึงได้ดักเพื่อจะจับกุม กระทั่งพบเห็นกลุ่มคนร้ายขับรถผ่านมาจึงได้พอดี จึงได้ไล่ติดตามไปจนถึงบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ และได้มีเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ คือ จ.ส.ต.อำนาจ เนียมจันทร์ และ จ.ส.อ.ยศกร พงตุ้ย ไล่ติดตามมาทันพอดี จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณสะพานข้าทางรถไฟ ถนนมหิดล อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดังกล่าว
หลังจากจับกุมตัวได้แล้วผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำจริง โดยก่อเหตุแล้วหลายครั้ง เพื่อหาเงินไว้ใช้เที่ยวแต่ กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้งสองคนมาให้นางกันตินันท์ ผู้เสียหายชี้ตัวยืนยัน โดยผู้เสียหายได้ชี้ยืนยันว่าเป็นผู้ต้องหาที่ก่อเหตุกระชากสร้อยคอทองคำหนัก สองสลึงของไปจริง เมื่อมีหลักฐานชัดเจนจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนพร้อมด้วยของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ"
ด้าน พล.ต.ต.สุเทพ เดชรักษา ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จและเป็นการแสดงเรื่องศักยภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการร่วมกันทำงานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร และเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ ซึ่งหลังจากจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ ก็ได้มีการขยายผลการจับกุมไปถึงเพื่อนร่วมแก๊งว่ามีอยู่หรือไม่ ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 ครั้งในเขตตัวเมืองเชียงใหม่ และขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการคุมประพฤติเรื่องคดียาเสพติดด้วย แต่มาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ซ้ำอีกจนมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.สุเทพ กล่าวต่อไปอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาที่ยังถือว่าเป็นเด็กวัยรุ่นนั้นก็ทราบว่าปัญหาส่วนใหญ่มาจากปัญหาด้านครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่หย่ากัน อาศัยอยู่กับญาติ พ่อแม่ไม่ดูแลเอาใจใส่ลูกหลาน อย่างนี้เป็นต้น โดยทั้งหมดนี้ตนจึงคิดโครงการอบรมกล่อมเกลาจิตใจขึ้นมา เพื่อให้มีการนำวัยรุ่นซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ต้องหาหรือเพื่อนร่วมแก๊งของผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุแต่ยังไม่ถูกจับกุม แต่ทางผู้ต้องหาซัดทอดมาว่าร่วมกับใครบ้าง ก็ให้ผู้ต้องหาเป็นตัวแทนในการติดต่อเจรจาว่าหากเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็จะไม่ทำการจับกุมหรือดำเนินคดี เพียงแต่ให้มาเข้ารับการอบรม และร่วมกันดื่มน้ำสาบานว่าจะไม่ทำอีก ซึ่งมั่นใจว่าโครงการนี้จะทำให้มีการลดปัญหาด้านอาชญากรรมได้อย่างชัดเจนแน่นอน โดยโครงการเบื้องต้นจะนำเพื่อนและกลุ่มแก๊งของผู้ต้องหาในคดีต่างๆ จำนวน 150 คน จากหลายๆ โรงพักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่
มารวมตัวกัน แล้วจัดอบรมเป็นรุ่นๆ ไป ซึ่งการที่จะจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งของผู้ต้องหาให้หมดเลยนั้นก็ถือว่าเป็นผลดี แต่หากให้กลุ่มคนพวกนี้กลับเนื้อกลับใจน่าจะเป็นผลดีมากกว่า ซึ่งก็จะไม่ทำให้ประวัติของเด็กเสียด้วย สำหรับการป้องกันด้านอาชญากรรมในตัวเมืองเชียงใหม่นั้น ก็จะมีการประสานข้อมูลไปยังทุกท้องที่ โดยช่วงระยะหลังนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยจับตัวผู้ต้องหา เพราะผู้ต้องหาส่วนใหญ่นั้นมักจะหลบหนีออกจากตัวเมืองไปยังรอบนอก แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรประจำอยู่จุดที่ใกล้กับที่เกิดเหตุก็สามารถที่จะไล่ติดตามจับกุมคนร้ายได้ทัน ซึ่งก็จะจับกุมคนที่กระทำมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันทีเช่นกัน
ข่าวจาก เชียงใหม่นิวส์
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1203 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 12 มิ.ย. 51
เวลา 00:59:59
|