รอง ผบช.ภ.5 รุดไปตรวจ สภ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย หลังพบภารโรงปั๊มกุญแจ ขโมยปืนกว่า 20 กระบอก ขายเอาเงิน ตั้งแต่ปี 52 จี้ผู้ครอบครองนำปืนมาคืน หากไม่คืน จะผิดฐานรับของโจร-มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย ...
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันธุ์กุล ผบช.ภ.ภาค 5 ได้รับรายงานว่าที่ สภ.พญาเม็งราย มีอาวุธปืนหายไปจากคลังแสง จำนวน 20 กระบอก เป็นอาวุธปืนยาวเฮชเค(HK) 33 จำนวน 4 กระบอก และอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 16 กระบอก โดยอาวุธปืนทั้งหมดถูกขโมยไปตั้งแต่ปี 2552 เรื่องมาแดงขึ้นเมื่อตำรวจ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ได้ตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาพื้นอาวุธปืนพกสั้นตราโล่ จำนวน 1 กระบอก จากการตรวจสอบพบว่าหายไปจาก สภ.พญาเม็งราย จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รอง ผบก.ภ.5 คุมคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนกรณีดังกล่าวด้วย
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.จ.เชียงราย เปิดเผยว่า คดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความสนใจมาก เพราะเป็นอาวุธปืนของทางราชการที่ถูกขโมยไป โดยทาง พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รอง ผบก.ภ.5 จะได้เดินทางไปที่ สภ.พญาเม็งราย ในช่วงบ่ายนี้ เพื่อไปตรวจห้องเก็บอาวุธและสอบสวนปากคำตำรวจผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางตำรวจได้ติดตามเอาปืนพกสั้นคืนมาได้แล้วจำนวน 2 กระบอก ส่วนที่เหลือทั้งปืนพกสั้นกับปืนยาวเฮชเค 33 จำนวน 18 กระบอก นั้น นายนุดุลย์ ราชาภัทร อดีตภารโรงของ สภ.พญาเม็งราย ซึ่งถูกจับกุมได้และสารภาพว่าเอาไปขายให้ใครบ้างควรจะเอามาคืนเจ้าหน้าที่ ตำรวจ นอกจากนี้ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ทวีชัย ประทีบอุษานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงรายไปคุมคดีแล้ว ในส่วนของ ด.ต.ดต.ธนพล วงค์บุตร อดีตจ่ากองที่รับผิดชอบนั้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงแต่ยัง ไม่ได้ลงโทษ คงรอผลการสอบสวนก่อนว่าประมาทเลินเล่อขนาดไหนอีกครั้ง
ด้าน พ.ต.อ.ดอย วงค์พุ่ม ผกก. สภ.พญาเม็งราย กล่าวว่า จากการตรวจสอบสำนวนการสอบสวนนายนุดุลย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เริ่มขโมยปืนมาตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งได้นำกุญแจมาจาก ดต.ธนพล วงค์บุตร ทำหน้าที่จ่ากองขณะนั้น นำไปปั๊มกุญแจ แล้วอาศัยช่วงที่มีการเปลี่ยนเวรแอบเข้าไปขโมยปืนครั้งละ 1 กระบอกแล้วนำไปขายกระบอกละ 10,000-20,000 บาท กระบอกล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2554 โดยเบื้องต้นได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรทุกคนรวม ทั้งจ่ากองที่เก็บรักษากุญแจห้องเก็บอาวุธ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้คืนมาแล้วจำนวน 2 กระบอก เป็นอาวุธปืน ขนาด .38 มม. ส่วนที่เหลืออีก 18 กระบอกคาดว่าจะได้คืนในเร็ววันนี้ เพราะขณะนี้ทางตำรวจทราบแล้วว่าปืนอยู่กับใคร หากผู้ใดครอบครองและไม่ยอมคืน จะมีความผิดทั้งรับของโจร และมีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย จึงขอให้ผู้ที่มีไว้นำส่งคืนหรือติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์ 053-799113.
http://www.thairath.co.th/content/region/183072