| • โผใหม่! สมัครนายกฯ ควบกห. |
|
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 18 ม.ค. 51 เวลา 09:55:32 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
จากกรณีที่คนใกล้ชิดของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันว่า การเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยของคุณหญิงพจมานไม่ได้กลับมาเพื่อเคลียร์ปัญหาทางการเมืองกับผู้ใหญ่ หรือรับข้อเสนอเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ในขณะที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน เตรียมประกาศเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนนั้น
“ทักษิณ” ย้ำ “สมัคร” เหมาะนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา(ตามเวลาในประเทศอังกฤษ) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยที่ไปติดตามการฝึกซ้อมของทีมชาติไทย ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึงความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ว่า เป็นกติกาสากลว่าหัวหน้าพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง ก็ควรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรี นายสมัครเคยเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็นรองนายกฯ และยังเคยเป็นผู้ว่าฯ กทม. มีประสบการณ์ในการทำงานมากมาย ส่วนการที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เดินทางกลับเมืองไทย ท่ามกลางกระแสข่าวเข้ามาจัดโผรัฐบาลนั้น พ.ต.ท.ทักษิณยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง คุณหญิงพจมานกลับไทยเพราะคิดถึงลูกๆ อยากอยู่ใกล้ชิดกับครอบครัวเท่านั้น เรื่องมาเคลียร์กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ก็คิดกันไปเอง ไม่มีใครมากำหนดเงื่อนไขอะไร มีแต่กำหนดตัวเองว่าจะกลับบ้านไปทำงาน การกุศล ทั้งเรื่องกีฬาและการศึกษา เมื่อถูกถามว่า จะกลับบ้านเมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า คิดถึงบ้านมาก ไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านเกิดเมืองนอน คาดว่าอีก 2-3 เดือน จะเดินทางกลับประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ ก่อนชมเกมเอฟเอคัพ รอบ 3 นัดรีเพลย์ ระหว่างแมนฯซิตี้กับเวสต์แฮม ที่สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. โดยอยู่ชมเกมจนถึงช่วงต้นครึ่งหลัง ก็เดินทางออกจากสนามไป เนื่องจากต้องกลับลอนดอน เพื่อเตรียมตัวบินไปฮ่องกงในวันรุ่งขึ้น
แถลงตั้งรัฐบาล 6 พรรค 19 ม.ค.
เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 17 ม.ค. ที่ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน ได้แถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลว่า หลังจากที่พรรคเพื่อแผ่นดินประกาศร่วมรัฐบาลวานนี้ จึงต้องรอพรรคชาติไทยประกาศเป็นลำดับต่อไป จากนั้นพรรคจะเชิญหัวหน้าพรรค หรือตัวแทนทั้ง 6 พรรค แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 19 ม.ค.โดยเลื่อนจากกำหนดเดิมวันที่ 18 ม.ค. เนื่องจากหลายพรรคยังติดภารกิจช่วยผู้สมัครหาเสียง จากนั้นจึงรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเปิดประชุมสมัยรัฐสภา เลือกประธานสภาฯ และนายกฯตามลำดับ จากนั้นจึงค่อยมาพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะรับผิดชอบในกระทรวงต่างๆ คาดว่าภายในเดือน ม.ค. จะได้รัฐมนตรีทั้งคณะ และไม่เกิน 2 สัปดาห์ หรือกลางเดือน ก.พ. ครม.ชุดใหม่ จะแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภา
ย้ำยังไม่มีการหารือวางตัวรัฐมนตรี
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า สำหรับข่าวที่มีรายชื่อบุคคลจากพรรคต่างๆ ปรากฏในแต่ละกระทรวงนั้น เชื่อว่าไม่ใช่ ข่าวที่มาจากผู้ที่รับผิดชอบขับเคลื่อนโดยตรง แต่มาจากความเห็นของแหล่งข่าวจึงมีความแตกต่างออกไป ส่วนที่มีแหล่งข่าวอ้างว่า ส.ส.กลุ่มอีสานของพรรคมีการรวมตัวกันเพื่อขอตำแหน่งนั้น ได้ถามไปยังประธานคณะทำงานภาคอีสาน ปรากฏว่าไม่มีคนใดที่มีแนวคิดเช่นนี้ ซึ่งทุกคนก็ไม่เห็นด้วย จึงตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการพยายาม ปล่อยข่าวจากคนภายนอกพรรคมากกว่า และจะเป็นเช่นนี้จนกว่าพรรคพลังประชาชนจะตั้งรัฐบาล ซึ่งเป็นมาทุกยุคทุกสมัย เมื่อถามถึงความขัดแย้งในเรื่องการจัดวางตัวรัฐมนตรีภายในพรรค นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ไม่มี ผู้ที่ ปล่อยข่าวในลักษณะนี้เชื่อถือไม่ได้ และไม่ประสงค์ดีต่อพรรค และไม่แน่ใจว่าคนทำเป็นคนในหรือนอกพรรค อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพรรคจะต้องเปิดโอกาสให้สมาชิก ส.ส.แกนนำได้เสนอรายชื่อก่อนที่จะพิจารณากลั่นกรอง ซึ่งไม่ได้จำกัดว่า ส.ส.ภาคใดจะได้มากหรือน้อย แต่คำนึงถึงความเหมาะสมของตัวบุคคลมากกว่า
วางสเปกทำงานได้ทันทีไม่ต้องฝึกงาน
นพ.สุรพงษ์กล่าวอีกว่า คนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในขณะนี้ต้องเผชิญกับปัญหาที่หนัก ซึ่งไม่ใช่แค่ปัญหาระดับชาติแต่เป็นปัญหาระดับโลก โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐ-กิจ ที่สะท้อนมาทางตลาดหลักทรัพย์ของทั่วโลก ฉะนั้นคนที่เข้ามาจะต้องมีความพร้อมที่จะทำงานหนัก มีความรอบรู้และสามารถทำงานได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมาเรียนรู้ หรือทดลองทำงาน เมื่อถามถึงความคืบหน้าการทาบทามนายทนง พิทยะ อดีต รมว.คลัง มาทำหน้าที่ รมว.คลัง นพ.สุรพงษ์ตอบว่า มีบางชื่อที่เป็นข่าว บางชื่อต้องสงวนไว้จนกว่าจะคัดเลือก ซึ่งขณะนี้ยังมีอีกมากที่ยังไม่สรุป ส่วนที่มีชื่อของตนไปนั่ง รมว.คลังนั้น ก็ต้องขอบคุณที่มี สื่อเสนอหลายรายชื่อ แต่การจะตัดสินต้องดูจากความเชี่ยวชาญ ซึ่งยังตอบไม่ได้ เพราะไม่สามารถทำคนเดียวได้ เหมือนการเล่นฟุตบอลต้องมีศูนย์หน้า ปีกซ้าย ปีกขวา ซึ่งคาดว่าภายในเดือน ม.ค. คงจะได้เห็นภาพที่ชัดเจน แต่ที่ยืนยันได้ในขณะนี้ที่ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าตำแหน่งนายกฯเป็นของพรรคพลังประชาชนแน่นอน สำหรับกระ-ทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเกษตรฯ ยังต้องดูความพร้อม ของบุคลากรของพรรคร่วมว่ามีความพร้อมมากแค่ไหน ตอนนี้ยังตอบไม่ได้
ยันไม่มีเกมซูเอี๋ยกับอำนาจปัจจุบัน
ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ส่งสัญญาณให้นายสมัครเป็นนายกฯ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า เป็นเอกสิทธิ์ของพรรคที่จะพิจารณาในฐานะที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ทั้ง พ.ต.ท. ทักษิณและนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ก็ล้วนแต่สนับสนุน เมื่อถามว่า ได้มีการวางตัว รมว.คลังเป็นคนในหรือนอกพรรค นพ.สุรพงษ์ ตอบว่า ขณะนี้ยังไม่มีการคัดเลือก โดยต้องพิจารณาจากรายชื่อที่มีการเสนอมาก่อน ถึงเวลาจึงจะตัดสินใจ ส่วน โควตาของพรรคร่วมรัฐบาลได้มีการตกลงกับพรรคร่วมที่ปรากฏออกมา อยากบอกว่าไม่เป็นความจริง เพราะจะมีการตกลงอย่างเป็นทางการหลังประกาศร่วมรัฐบาล 6 พรรค ต่อข้อถามว่า ได้กำหนดตัว รมว.กลาโหมและมหาดไทยหรือยัง นพ.สุรพงษ์ตอบว่า หลักเกณฑ์ของกระทรวงความมั่นคง ต้องมองคนที่มีความสามารถ ต้องดูความเห็นของพรรคเป็นสำคัญ เมื่อถามว่า มีอำนาจปัจจุบันเข้ามาต่อรองหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า ไม่เป็นความจริง เราไม่มีความจำเป็นต้องต่อรองเกี้ยเซี้ย หรือสมยอม ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของกรรมการบริหารพรรค ส่วนที่ระบุว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. เสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. เข้ามารับหน้าที่นี้นั้น ผบ.ทบ.ก็พูดชัดว่าทหารจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่หากหลังจากจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จแล้ว จะมีการพูดคุยกันอีกหรือไม่นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการคัดเลือกไม่ใช่สิ่งที่พรรคต้องปรึกษากับ คมช. เพราะอีกไม่นานรัฐบาลชุดปัจจุบันก็จะหมดวาระลง
ยังแทงกั๊กชื่อประธานสภาผู้แทนฯ
ต่อข้อถามว่ากรณีที่ กกต.ยังไม่ชี้ขาดคดีของนายยงยุทธจะกระทบต่อการวางตัวในตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ตอบว่า คิดว่านายยงยุทธจะได้รับความเป็นธรรม แต่ตำแหน่งนี้พรรคยังไม่ตัดสินใจ อาจมีการวางตัวไว้มากกว่า 2 คน อาจมีชื่อของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค รวมอยู่ด้วยก็ได้ เพราะเป็นรองหัวหน้าพรรคเช่นเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีกระแสว่าแกนนำพรรคได้ระงับไม่ให้อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคได้ยื่นคัดค้านผลการเลือกตั้งนั้น ทางพรรคไม่ได้ห้าม เพราะก่อนหน้านี้ก็มี ส.ส.กทม. อาทิ นายมานะ คงวุฒิปัญญา และนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ไปร้องต่อ กกต.ไว้แล้ว รวมทั้งนายสมัครก็เคยบอกว่าก็ต้องการให้มีการร้อง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคพลังประชาชนเป็นฝ่ายที่โดนร้องเรียนมาตลอด
พปช.ต้องได้กระทรวงสำคัญหมด
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวการจัดสรรโควตากระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นหนึ่งในเงื่อนไขดึงพรรคชาติไทยมาร่วมรัฐบาลว่า เป็นแค่แหล่งข่าว ยืนยันว่ากระทรวงที่มีความสำคัญของชาติ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงกลาโหม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น พรรคพลังประชาชนจะดูแลเอง แต่ทั้งนี้คงต้องขึ้นอยู่กับการเจรจาของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางมายังฮ่องกง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนต่างประเทศถึงกำหนดการเดินทางกลับประเทศในอีก 2-3 เดือนว่า ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดในหลักการว่าเมื่อนายสมัครได้รับเลือกมาเป็นเสียงข้างมากก็ต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีตามหลักการประชาธิปไตย นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ตนได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณในคดีการฆ่าตัดตอน ก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดอดีตนายกฯได้ รวมถึงกรณีบริษัทชินแซทฯให้ผู้ก่อการร้ายเช่าสัญญาณไทยคมด้วย ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ย้ำให้คณะทนายเตรียมหลักฐานการชี้แจงต่อศาลกรณีทุจริตที่ดินรัชดาของคุณหญิงพจมาน ที่จะเดินทางไปชี้แจงต่อศาลในวันที่ 23 ม.ค.
“สมพงษ์” ไม่รู้เรื่องมีชื่อนั่งประธานสภา
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวถูกวางตัวเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า ยังไม่ทราบและก็ไม่รู้เรื่องกระแสข่าว ขณะนี้มีหน้าที่ดูเรื่องการเลือกตั้งซ่อมให้ผ่านไปได้ด้วยดี มากกว่าที่จะสนใจในเรื่องดังกล่าว ส่วนตัวก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องข้อบังคับกฎหมายเท่าที่ควร คิดว่าอีก 2-3 วันคงจะมีความชัดเจนในตำแหน่งดังกล่าว
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการจัดสรรตำแหน่งโควตารัฐมนตรีว่า เท่าที่ทราบทางพรรคได้กันโควตารัฐมนตรีไว้ 23 ตำแหน่ง ในภาคอีสานถือว่าได้ที่นั่ง ส.ส.มามากที่สุด การจัดสรรตำแหน่งก็ควรจะตอบแทนคนอีสาน การพิจารณาโควตาตำแหน่งต่างๆควรให้ความเป็นธรรมและให้ความเหมาะสมกับทุกภาค ไม่ว่าตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมาธิการในสภา รวมทั้งตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ
นายนิสิต สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคต้องให้ความสำคัญในส่วนของ ส.ส.อีสานในการจัดสรรโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ในฐานะที่เป็นภาคที่เป็นเมืองหลวงของพรรค และการเลือกตั้งล่าสุดภาคอีสานก็สามารถกวาดที่นั่งมาเป็นอันดับหนึ่ง เชื่อว่าพรรคจะดูตามความเหมาะสม ยอมรับว่าต้องมีการคุยและหารือกับแกนนำพรรค แต่คงไม่ใช่การต่อรองหรือกดดัน
มีข้อแม้ห้าม “วัฒนา-มั่น” นั่ง รมต.
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนว่า น่ายินดีที่ทุกพรรคแสดงท่าทีจะมาร่วมรัฐบาลด้วย ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคจะตัดสินใจให้พรรคใดบริหารกระทรวงไหน แต่สำหรับ ส.ส.สมุทรปราการที่ได้รับเลือกมายกจังหวัด 7 คน ยอมรับไม่ได้แน่หากนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน และนายมั่น พันธโนทัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ถ้ามีเรื่องดังกล่าว ส.ส.ทั้ง 7 คนจะทำหนังสือคัดค้านยื่นต่อนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน รวมทั้งนายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป
โวย “มีชัย” พูดจาไม่รับผิดชอบต่อชาติ
นายประเกียรติ นาสิมมา อดีตผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มที่ 4 พรรคพลังประชาชน กล่าวตอบโต้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ระบุว่าหาก กกต.ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.ได้ไม่ครบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จนไม่สามารถกระทำรัฐพิธีเปิดประชุมสภาได้ภายใน 30 วัน ก็ไม่เป็นอะไร และ กกต.ไม่มีความผิดว่า เป็นการพูดที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.ต้องประกาศรับรองผลให้ได้ภายใน 30 วัน ก็ชัดเจนอยู่แล้ว กรณีที่ กกต.ระบุว่าจะประกาศรับรองผลในช่วงเช้าของวันที่ 21 ม.ค. แล้วให้ ส.ส.ไปรายงานตัวช่วงบ่ายและเข้าร่วมในรัฐพิธีนั้น กกต.ควรใช้วิจารณญาณมากกว่านี้ กระบวนการกระทำรัฐพิธีต้องทำตามขั้นตอน สิ่งสำคัญที่สุดคือ กกต.ต้องประกาศรับรอง ส.ส.ให้ได้ร้อยละ 95 ก่อน จากนั้นทางสภาจึงนำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯถวายผ่านสำนักราชเลขาธิการ ต้องอยู่ในดุลพินิจของพระองค์ว่าจะทรงโปรดเกล้าฯ วันไหน และไม่มีใครไปบังคับพระองค์ ท่านได้ จึงอยากถามกลับไปว่าผู้ที่รับผิดชอบและคนที่เป็นถึงนักกฎหมายใหญ่ของบ้านเมือง ทำงานรับผิดชอบต่อแผ่นดินมากน้อยแค่ไหน
เปิดโรงแรมห้าดาวแถลงตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชาชนว่า สำหรับการประกาศจัดตั้งรัฐบาลผสม 6 พรรค โดยพรรคพลังประชาชน เป็นแกนนำอย่างเป็นทางการนั้น ล่าสุดพรรคพลังประชาชนจะเป็นเจ้าภาพเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค มาร่วมแถลงข่าวร่วมกัน ในวันที่ 19 ม.ค. เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมสุโขทัย ถนนสาทร ในส่วนของการที่ศาลฎีกานัดฟังคำวินิจฉัยคดีร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และคดีพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินี แกนนำพรรคพลังประชาชนได้หารือกันแล้วยังมีความมั่นใจว่า ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง จะรับฟังคำคัดค้านของพรรคและยกคำร้อง โดยจะต้องเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จเรียบร้อยก่อน จากนั้นก็ต้องมาเตรียมรับมือกับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ส่งนาย ถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปยื่นร้อง ต่อ กกต.เพื่อให้ยุบพรรคพลังประชาชน แต่ก็คาดว่าคงจะต้องใช้เวลาในการไต่สวนอีกเป็นระยะเวลานานไม่ต่ำกว่า 6-7 เดือน
“สมัคร” นั่งนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนความคืบหน้าในการจัดโผ ครม.ในส่วนของพรรคพลังประชาชน โดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญ คือตำแหน่ง รมว.กลาโหม ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวบางกระแสระบุว่าจะมีรายชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. มีความสนิทสนมและเป็นรุ่นพี่ของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน จะเข้ามาเป็น รมว. กลาโหม เพื่อสร้างแนวทางสมานฉันท์และความปรองดอง ลดภาพความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลที่มีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำกับฝ่ายทหารนั้น อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงแล้วทางแกนนำพรรคพลังประชาชนและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้วางตัวให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นั่งเป็นนายกฯ และควบ รมว.กลาโหม เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับฝ่ายกองทัพ โดยได้มีการประสานไปยัง พล.อ.อนุพงษ์แล้ว ก็ได้รับเสียงตอบรับว่าสามารถยอมรับได้ และมุ่งหวังที่จะให้เกิดการประสานกันเพื่อทำให้กองทัพไม่เกิดการแตกแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่ายอีก
รวมใจไทยฯหนุน “สมัคร” นั่งนายกฯ
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรค ตลอดจนรับทราบความคืบหน้าเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีที่พรรคจะได้รับ โดยจุดยืนของพรรคพร้อมจะสนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน ส่วนโควตารัฐมนตรีที่พรรคจะได้รับนั้น หากคิดตามอัตราส่วน ส.ส. 8 คนต่อรัฐมนตรี 1 คน ก็จะได้ประมาณ 1 เก้าอี้ แต่อาจจะได้เพิ่มเป็น 2-3 เก้าอี้ได้เช่นกัน เบื้องต้น ยอมรับว่ามีการคุยกันในกรอบกว้างๆ ถึงโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ ลงตัวชัดเจน พรรคคงไม่ไปต่อรองเรียกร้องว่าจะเอาตำแหน่งใด ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชนจะเสนอมา แล้วพรรคจะนำมาพิจารณาอีกครั้ง คิดว่าภายหลังจากที่พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินได้แถลงข่าวร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนอย่างเป็นทางการแล้ว จะมีความชัดเจนเรื่องโควตารัฐมนตรีของแต่ละพรรค
มัชฌิมาฯดัน “อนงค์วรรณ” เป็น รมช.มท.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยว่า แกนนำกลุ่ม 21 ในพรรคมัชฌิมาธิปไตย ในการจัดตำแหน่งโควตารัฐมนตรีของพรรคมัชฌิมาธิปไตยนั้น แกนนำกลุ่ม 21 อาจจะขอตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ให้นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค โดยทางกลุ่มต้องการให้นางอนงค์วรรณดูแลในเรื่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะมีความเชี่ยวชาญมากกว่าที่จะไปนั่งกระทรวงแรงงาน แม้สมาชิกกลุ่มบางคนจะต้องการให้ไป คุมกระทรวงแรงงาน เพื่อสานต่องานที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เคยทำไว้ นอกจากนี้ อาจจะมีการขอตำแหน่งแลก 1 ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกรดซี กับ 2 ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยเพื่อลดปัญหาการแก่งแย่งเก้าอี้ โดยกลุ่ม 21 จะไปหารือร่วมกันอีกครั้ง ภายหลังที่พรรคชาติไทยและ พรรคเพื่อแผ่นดินประกาศเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน โควตาตำแหน่งต่างๆอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้ง
นายธนพร ศรียากูร รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวว่า ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะเดินทางไปที่ กกต. เพื่อยื่นหนังสือคัดค้าน กรณีที่นายสุนทร วิลาวัลย์ ว่าที่ ส.ส.ของพรรคที่ถูกใบแดง และห้ามมีตำแหน่งทางการเมือง แต่นายสุนทรยังคงใช้ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จึงต้องมายื่นเรื่องคัดค้านไว้ก่อนว่า ได้แจ้งเรื่องนี้ให้ กกต. ทราบแล้ว
“ป้าอุ” สั่งจองเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการฯ
ที่บ้านเมืองทองธานี นางอุไรวรรณ เทียนทอง ภริยานายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ 1 ตำแหน่งที่พรรคพลังประชาชน มอบให้พรรคประชาราชว่า ยอมรับ พรรคพลังประชาชนได้มีการสอบถามว่าทางพรรคประชาราชต้องการตำแหน่งในกระทรวงใด ซึ่งนายเสนาะได้ตอบกลับพรรคพลังประชาชนไปแล้ว ว่าต้องการกระทรวงใดและจะไม่มีการต่อรองใดๆอีก ทั้งนี้ ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าขอตำแหน่งใดไป เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม พรรคประชาราชยืนยันว่ากระทรวงที่ได้จะไม่มีการแต่งตั้งคนในสกุลเทียนทอง เข้ามาเป็นเลขานุการหรือที่ปรึกษารัฐมนตรี เพราะจะดูไม่ดี การที่พรรคเพื่อแผ่นดินประกาศจะเข้าร่วมรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ทำให้สถานการณ์ที่อึมครึมชัดเจนขึ้น เพราะหากพรรคเพื่อแผ่นดินไม่เข้าร่วมรัฐบาล ก็อาจเกิดกรณีงูเห่า 2 ได้ อย่างไรก็ตาม ทุกพรรคต้องหยุดการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี หากยังทำอยู่จะส่งผลกระทบต่อพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงที่นายเสนาะได้แจ้งต่อพรรคพลังประชาชนว่า พรรคประชาราชต้องการเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ หรือกระทรวงวัฒนธรรมแค่ 2 กระทรวง ทั้งนี้ นายเสนาะให้พรรคพลังประชาชนตัดสินใจว่าจะให้เก้าอี้กระทรวงใดก็ได้
เพื่อแผ่นดินวิ่งโร่ขอเก้าอี้รัฐมนตรี
ทางด้านความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อแผ่นดิน ในวันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดิน จะมีมติมอบหมายให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นผู้ไปเจรจาในเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล รวมถึงหารือถึงการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ปรากฏว่าอีกด้านหนึ่ง นายสุชาติ ตันเจริญ และ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน สามารถผลักดัน ส.ส.เข้ามาได้เกือบ 10 เก้าอี้ โดยได้เจรจาสายตรงกับผู้มีอำนาจในพรรคพลังประชาชนโดยตรง เพื่อขอโควตา รมช.เกษตรและสหกรณ์ แล้ว และมีแนวโน้มสูงที่พรรคพลังประชาชนจะจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี ตามที่แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดินทั้ง 2 คนร้องขอ ขณะเดียวกันภายในพรรคเพื่อแผ่นดิน ก็มีการเคลื่อนไหวเพื่อวางตัวบุคคลในตำแหน่งรัฐมนตรีเช่นกัน ล่าสุดมีชื่อของนายวัชระ พรรณเชษฐ์ เลขาธิการพรรค นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ ประธานภาค กทม. และคนนอกที่มีชื่อเสียง ที่ได้รับการเสนอชื่อในสายของนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรคเพื่อแผ่นดิน เช่นกัน
ชท.-พผ.ชื่นมื่นแถลงร่วมรัฐบาล
เมื่อเวลา 18.30 น. ที่โรงแรมปาร์คนายเลิศ นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมนายวัชระพรรณเชษฐ์ นายจิรายุ วสุรัตน์ และแกนนำพรรค ได้เป็นเจ้าภาพในการแถลงข่าวประกาศร่วมรัฐบาล โดยไม่มีนายวัฒนา อัศวเหม ประธานพรรค และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานคณะที่ปรึกษาพรรค ทั้งนี้ มีการปิดห้องอาหารเพื่อเลี้ยงคนติดตาม และกองทัพสื่อมวลชน โดยนายสุวิทย์ตัดผมทรงใหม่ และมีสีหน้าแจ่มใส กระทั่งเวลา 19.30 น. นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพร้อม พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรค มาถึงโรงแรม โดยนายสุวิทย์และคณะไปต้อนรับถึงประตูรถ จากนั้นได้มีการหารือกันประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมกันแถลงข่าว
“บรรหาร” ยันยังไม่แบ่งเก้าอี้ รมต.
นายบรรหารกล่าวว่า ขณะนี้ความอึมครึมในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนหายไปหมดสิ้นแล้ว ขอเรียนว่าที่ผ่านมาพรรคชาติไทยและเพื่อแผ่นดิน จับมือกันตอนหาเสียงเลือกตั้ง โดยคุยกันว่าหาก 2 พรรคได้ตัวเลขที่มาก ก็อาจมีแนวทางอีกแนวทางหนึ่งให้ประชาชนได้เลือก แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ จึงดูแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เนื่องจากอาจมีปัญหาความไม่มั่นคง จึงเห็นควรว่าน่าจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชาชน ตามที่ประชาชนเรียกร้องจะเหมาะสมกว่า วันนี้เราทั้ง 2 พรรคจะไม่ยอมให้ประเทศเกิดสุญญากาศอีกต่อไป จึงขอประกาศกับประชาชนว่า พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดิน ยินดีเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนต่อไป ส่วนจะแถลงร่วมกันในวันที่ 19 ม.ค. หรือไม่ ต้องรอให้มีการติดต่อมา สำหรับเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรียังไม่มีแบ่งโควตากัน
ย้ำยังเคารพผู้ใหญ่ไม่เสื่อมคลาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า สนับสนุนนายสมัคร สุนทรเวชเป็นนายกฯใช่หรือไม่ นายบรรหารตอบว่าไม่ใช่ เพราะอันนั้นต้องโหวตในสภา แต่เรื่องนี้ก้าวไปไกลแล้ว ทั้งนี้การยอมรับหรือไม่ อยู่ที่พรรคพลังประชาชนจะเสนอใครเป็นนายกฯ และสภาฯจะยอมรับได้หรือไม่ เมื่อถามว่าจะทำความเข้าใจกับพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องสัจจะนิยมอย่างไร นายบรรหารตอบว่า รอให้จบเรื่องนี้ก่อน แล้วค่อยไปทานข้าวกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร้านช้อนเงินช้อนทองเมื่อถามว่า จะทำอย่างไรกับผู้ใหญ่ที่นับถือมานาน 30 ปี หัวหน้าพรรคชาติไทยตอบว่า ยังเคารพนับถือตลอดไม่เสื่อมคลาย แต่ต้องว่าเป็นกรณีๆไป
“เมื่อปี 38 สมัยที่ผมเป็นนายกฯ ถูกประชาธิปัตย์ เอาเรื่องไม่จริงมาพูด เอาพ่อแม่ปู่ย่าตายายผมมาพูด ผมยังต้องเก็บความอัดอั้นตันใจไว้ ต่อมา พล.ต.สนั่นเชิญให้ไปร่วมรัฐบาลกับประชาธิปัตย์ ผมก็มาคิดว่าเรื่องส่วนตัวต้องเก็บไว้ก่อน เป็นนักการเมืองบางทีต้องลืมเรื่องเก่า เรื่องความแค้นบ้าง”
“สุวิทย์” ให้เกียรติ พปช.เสนอนายกฯ
นายสุวิทย์กล่าวว่า มั่นใจว่าเมื่อทั้ง 2 พรรคประกาศเข้าร่วมรัฐบาล จะทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ ไม่ให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ ขั้นตอนต่อไปจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด เมื่อถามว่า เชื่อได้อย่างไรว่าเมื่อร่วมรัฐบาลแล้วจะทำให้สมานฉันท์ นายสุวิทย์ตอบว่า ถ้าพรรคพลังประชาชนยึดถือแนวทางที่เคยแถลงไว้ ปัญหาของประเทศจะไม่เกิด และขอร้องอย่าไปคิดเรื่องที่ยังไม่เกิด รวมถึงกระบวนการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯด้วย ที่ต้องให้เกียรติพรรคพลังประชาชน
“อภิสิทธิ์” จี้ พปช.แสดงความชัดเจน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนว่า อยากให้มีความชัดเจนว่าจะทำอะไรเพื่อบ้านเมือง และที่ยังไม่ได้แถลงก็ต้องแสดงให้ชัดเจนว่าติดขัดอะไรนอกจากนี้ ขอเรียกร้องกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่ เผด็จการที่เตรียมจะเคลื่อนไหวหากนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ไม่ได้เป็นนายกฯว่าให้เกรงใจประชาชนบ้าง เพราะวันนี้ทุกคนรอการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ การสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผ่านการเลือกตั้งมาเกือบเดือนแล้ว แต่ประชาชนยังกังวลใจ เพราะยังไม่ได้ยินคนที่อาสาตัวบอกว่าจะเป็นผู้นำรัฐบาล หรือจะนำพาบ้านเมืองไปทิศทางไหน แต่ละวันได้ยินแต่เรื่องที่ประชาชนไม่อยากได้ยิน และขณะนี้มีปัญหาเศรษฐกิจรออยู่ ตลาดหุ้นก็ตก ซึ่งการวางตัว การส่งสัญญาณ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นได้
ฝาก กกต.ยืนหยัดทำความถูกต้อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการวางตัวนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของอดีตนายกฯ เป็น รมว.ยุติธรรม เหมาะสมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ไม่ขอวิจารณ์ เพราะยังไม่มีการตั้ง และคิดว่าคงมีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก ต่อข้อถามว่า ยังยืนยันที่จะหารือกับนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยอยู่อีกหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ยังตั้งใจจะหาโอกาสพูดคุยกับนายบรรหารในฐานะที่เคยเป็นพรรคพันธมิตรกัน ส่วนกรณีที่แกนนำพรรคพลังประชาชนมั่นใจว่าคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ไม่ทำให้ยุบพรรคนั้น การเกิดรัฐประหารจนสู่วิกฤติ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกฎหมายไม่เป็นกฎหมาย จึงขอฝาก กกต.ว่าถ้าโอนอ่อนตรงนี้ไปเมื่อไหร่ นั่นหมายความว่าวิกฤติจะกลับมาอีก การดำเนินการอะไรขอให้เห็นใจบ้านเมืองและประชาชน จึงขอให้เป็นหลักให้บ้านเมือง โดยคิดว่าสิ่งใดที่จำเป็นต้องยืนยันความถูกต้องก็ต้องทำ แล้วในที่สุดจะตอบคำถามของทุกอย่างได้
ปชป.ยื่นหลักฐานเพิ่มดันยุบ พปช.
นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะทำงานด้านกฎหมาย ประจำศูนย์อำนวยการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คณะทำงานฯจะยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แก่ กกต. เป็นวีซีดีภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยบางคน ระบุว่ามีความเชื่อมโยงและช่วยเหลือพรรคพลังประชาชนอย่างไร แม้หลักฐานเหล่านี้เคยส่งให้แล้วแต่ กกต.เงียบเฉย การส่งหนังสือและวีซีดีสรุปในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชาชนแต่อย่างใด เป็นเพียงการทำหน้าที่ติดตามเรื่องร้องเรียนไปยัง กกต. ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ขอแสดงความยินดีด้วยหากพรรคพลังประชาชนจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบในสภาฯ อย่างไรก็ตาม หากคำวินิจฉัยของศาลในคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส. บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ร้อง เป็นเหตุให้การจัดตั้งรัฐบาลหยุดชะงัก จะทำให้การดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ก้าวไปในอีกระดับหนึ่ง
เตือน กกต.อย่าทำงานแบบปัดสวะ
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.จะรับรอง ส.ส. ให้ครบ 480 คน ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ทันการเปิดประ-ชุมสภาในวันที่ 22 ม.ค. แล้วค่อยมาสอยทีหลังว่า คิดว่า กกต.ไม่น่าเอาข้อจำกัดของกฎหมาย มาเป็นเหตุผลในการรับรอง ส.ส. จริงอยู่ที่มีเงื่อนไขให้เปิดประชุม ส.ส.ภายใน 30 วัน หลังจากการเลือกตั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็ควรคำนึงว่า ส.ส.ที่จะเข้าไปร่วมในสภาฯ อยากให้เป็น ส.ส.ที่มือสะอาดจริงๆ ดังนั้น การที่จะไปปล่อยผี โดยให้ ส.ส.เข้าสภาทั้งหมดให้ครบ และมาสอยทีหลัง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อยากให้ กกต.รับรองให้ครบเพียงเปิดประ-ชุมสภาได้คือ 456 คน นั่นคือยังเหลือ ส.ส.ที่มีคำร้องคัดค้านอยู่อย่างน้อย 24 คน หลังจากเปิดประชุมสภาแล้วคิดว่า กกต.ก็ไม่ควรจะชะล่าใจ และควรที่จะเร่งรัดให้มีการหยิบยกพิจารณาคำคัดค้านของ ส.ส.ที่รับรองไปแล้วขึ้นมาทันที เพื่อจะได้พิจารณาและตัดสินว่า ส.ส.ที่รับรองไปแล้ว มีคนใดบ้างที่สามารถให้ใบเหลืองใบแดงได้ ดังนั้น อยากให้ กกต.คำนึงถึงเรื่องนี้ให้มาก จึงไม่อยากให้ กกต.ทำงานแบบปัดสวะ คือรับรองไปให้หมดแล้วสุดท้ายมาตัดสินที่ศาลฎีกา หากเป็นเช่นนี้ทำให้พี่น้องประชาชนผิดหวัง
ข่าวจาก ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1150 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 18 ม.ค. 51
เวลา 09:55:32
|
