| • เนวินยอสุดๆ ชูทักษิณ คนเหนือดวง |
|
โพสต์โดย ตนข่าว เชียงใหม่ , วันที่ 01 มี.ค. 51 เวลา 10:19:59 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมาต่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาในเรื่องการทุจริตนั้น ความเคลื่อนไหวต่างๆของ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากหลายฝ่ายๆว่าจะมีการนัดพบหารือกับนักการเมืองคนไหนอย่างไรบ้าง
“ทักษิณ” เริงร่ากับครอบครัว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาอยู่เมืองไทยเป็นวันที่ 2 ว่า เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่โรงแรมเพนนินซูล่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ตื่นนอนตั้งแต่เช้า กระทั่งเวลา 08.00 น. จึงลงจากห้องพักมารับประทานอาหารร่วมกับครอบครัว ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยมีบุคคลต่างๆทยอยเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นระยะๆ เช่น นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รอง ผบ.ตร. และนายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย โดยมีสื่อมวลชนทุกแขนงมาปักหลักทำข่าวอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจรถทุกคันที่เข้าออกโรงแรมอย่างละเอียด ทั้งการแลกบัตรเข้าออก การตรวจใต้ท้องและกระโปรงรถทุกคัน
เข้าเฝ้าพระสังฆราชที่ รพ.จุฬาฯ
ต่อมาเวลา 09.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากโรงแรมไปยังตึกวชิรญาณสามัคคีพยาบาล โรงพยาบาลจุฬาฯ เข้าเฝ้าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ขณะที่สมาชิกในครอบครัวรออยู่ที่โรงแรม ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ พ.ต.ท. ทักษิณได้สั่งลดรถนำขบวนเหลือเพียงมอเตอร์ไซค์นำ 1 คัน รถยนต์กองปราบ 1 คัน รถยนต์ของทีมรักษาความปลอดภัย 3 คัน ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เปลี่ยนรถคันใหม่ แต่ยังเป็นยี่ห้อเดิมคือ Holden รุ่น Caprice สีเทา เลขทะเบียน ชย 9894 กรุงเทพมหานคร กันกระสุนทั้งคัน ผลิตในประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางไปถึง รพ.จุฬาฯโดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา น.ส. ศันสนีย์ นาคพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในฐานะโฆษกประจำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มารอรับหน้าตึก ร่วมกับประชาชนหลายสิบคนที่มาคอยให้กำลังใจพร้อมตะโกนเรียกชื่อ “ทักษิณๆ” ตลอดเวลา โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวถวายรายงานขอบพระคุณสมเด็จพระสังฆราชที่ประทานอนุญาตให้เข้าเฝ้าพร้อมถวายกระเช้าดอกกุหลาบสีเหลือง อาหารบำรุงสุขภาพ ตลอดจนสอบถามพระอาการประชวร โดยใช้เวลาเข้าเฝ้า 30 นาที จึงเดินทางกลับ
เลิกภารกิจเก็บตัวเงียบในโรงแรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินลงจากลิฟต์ น.ส.ศันสนีย์ได้ถาม พ.ต.ท.ทักษิณว่า “บรรยากาศคืนแรกที่เมืองไทยเป็นอย่างไรบ้าง” ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณได้ยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “โอ๊ย...นอนหลับสบายดีตื่นมาสบายมาก” และก่อนที่จะเดินทางขึ้นรถ พ.ต.ท.ทักษิณได้แวะมาทักทายจับมือและกล่าวขอบคุณประชาชนที่มาให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง จากนั้นจึงเดินทางกลับโรงแรมที่พักในเวลา 10.30 น. จากนั้นได้เก็บตัวพักผ่อนอยู่ในห้องพักตลอดเวลา โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านประจำที่ย่านสะพานเหล็กมารับประทานร่วมกับครอบครัว โดยได้ยกเลิกกำหนดการในการเดินทางไปกราบพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่พุทธมณฑล ในเวลา 14.00 น. และการเดินทางไปเป็นประธานเปิดคลินิกสอนการเล่นฟุตบอลแก่เยาวชนอายุ 12-15 ปี ที่สนามราชมังคลาฯซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสโมสรแมนฯซิตี้ กับ มูลนิธิไทยคม ในเวลา 16.00 น.
“เนวิน” ฟุ้ง “ทักษิณ” คนเหนือดวง
ต่อมา เวลา 12.00 น. นายเนวินได้เดินออกมาจากล็อบบี้โรงแรมด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมทักทายกลุ่มผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี โดยบอกว่าจะแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวข้างนอกโรงแรม เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีแกนนำพรรคหรือ คนในพรรคเข้าหารือ พ.ต.ท.ทักษิณบ้างหรือไม่ นายเนวิน ตอบว่า ไม่มีเลย เข้าไปก็ไม่เห็นใครเลย เมื่อถามว่า ได้ให้ คำปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายเนวินตอบว่า “ไม่มีครับ ไม่เกี่ยวครับ” เมื่อถามต่อถึงกระแสข่าวที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาในวันที่ 3 มี.ค. เพื่อออกรอบ ตีกอล์ฟกับสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายเนวิน ตอบว่า “ไม่เคยได้ยิน ไม่มีอะไรเลย วันนี้ท่านขอพักผ่อน นักข่าวไปพักได้แล้ว เพราะท่านไม่ไปไหน” ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว นายเนวินได้เดินกลับมา ทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดีอีกครั้ง ซึ่งช่วงหนึ่งผู้สื่อ ข่าวได้ถามว่า ได้ดูดวงให้ พ.ต.ท.ทักษิณช่วงนี้เป็นอย่างไร บ้าง นายเนวินตอบว่า “ไม่ต้อง ท่านเป็นคนเหนือดวง”
ส.ส.อีสานนัดให้กำลังใจ “ทักษิณ”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชาชนว่า ตัวแทน กลุ่ม ส.ส.อีสานได้ประสานไปยังนายเนวิน ชิดชอบ นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายผดุง ลิ้มเจริญรัตน์ เลขานุการส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเข้าพบ พ.ต.ท.ทักษิณก่อนที่จะเดินทางออกจากประเทศในวันที่ 12 มี.ค.นี้ เพื่อให้กำลังใจต่อสู้กับคดีความในชั้นศาล และ ขอขอบคุณที่ได้เดินทางกลับประเทศไทยตามที่บอกไว้ เพราะกลุ่ม ส.ส.อีสานได้แจ้งกับชาวบ้านไว้แล้วว่า อดีตนายกรัฐมนตรีจะกลับมา ทั้งนี้จะไม่พยายามรบกวน พ.ต.ท. ทักษิณที่อยู่กับครอบครัว ส่วนวันและสถานที่จะเข้าพบ ต้องอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นผู้กำหนด
สหรัฐฯเห็นด้วย “ทักษิณ” กลับมาสู้คดี
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือ Mr.Christopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชีย และแปซิฟิก กับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงความห่วงใยสถานการณ์การเมืองของไทย ในเรื่องการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย ว่า ในการหารือวันนี้ทางสหรัฐฯให้ความมั่นใจว่าตอนนี้ประเทศไทยได้ กลับมาเป็นประชาธิปไตยตามปกติแล้ว นอกจากนี้ได้มีการพูดถึงการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วย ซึ่งทางสหรัฐฯได้แสดงความเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทาง กลับมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เมื่อถามว่า ทางสหรัฐฯ เป็นห่วงหรือไม่ว่าการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท. ทักษิณจะทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้นอีก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สหรัฐฯไม่ได้ห่วงใยเรื่องนี้ และไม่มีการพูดถึงเลย
“สมัคร” ย้ำวันนี้นายกฯตัวจริง
เมื่อถามย้ำว่า นายสมัครได้ชี้แจงรายละเอียดในประเด็นเหล่านี้หรือไม่ น.ส.ศุภรัตน์ตอบว่า นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาในช่วงที่มีการยึดอำนาจ รวมถึงเหตุผล 4 ข้อ ในการยึดอำนาจของ คมช. และมีการ ตั้งข้อกล่าวหาต่ออดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายสมัครได้ชี้แจง รายละเอียดข้อกล่าวหาว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท. ทักษิณต้องเดินทางกลับมาเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหา และต่อสู้ คดีตามกระบวนการยุติธรรม “กรณีนี้นายสมัครได้พูดกับ Mr.Christopher Hill ว่า ขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา ว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงกลับมาแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้หัวเราะในเรื่องนี้ และบอกว่า Today is my day วันนี้คือวันของผม ที่เป็นนายกรัฐมนตรี” น.ส.ศุภรัตน์กล่าว
“สมัคร-ทักษิณ” จ๊ะจ๋าทางโทรศัพท์
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรียบร้อยดีทุกประการ และได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า คุยกันทางโทรศัพท์ใช่หรือไม่ นายสมัครตอบว่า จะให้ไปคุยที่ไหน แต่ต่อไปก็คงมีโอกาสเจอกัน ไม่มีปัญหาอยู่ที่เมืองไทยอย่างไรก็ต้องเจอ เมื่อถามถึงข่าวรัฐมนตรีหลายคนทาบทามให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษา นายสมัครย้อนถามว่า “กฎหมายห้ามไว้หรือเปล่า ช่วยไปดูกันหน่อยสิ ผมไม่เคยได้ยินข่าวนี้” เมื่อถามว่า จะขอคำปรึกษา พ.ต.ท.ทักษิณเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ นายสมัครตอบด้วยอาการหงุดหงิดว่า ทำไมต้องตั้งคำถามอย่างนี้ มันเป็นอะไร
ฉุนสื่อตีประเด็นผู้นำทับซ้อน
เมื่อถามถึงเสียงวิจารณ์เรื่องภาพผู้นำซ้อน นายสมัครมีอาการหงุดหงิดมากขึ้นจนเห็นได้ชัด พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “พวกคุณเขียนกันเอง หนังสือพิมพ์ไปเขียนว่านั่งเก้าอี้ซ้อนกัน มันเป็นความคิดของคนระดับพวกคุณเท่านั้นหรือ ขอย้ำเลยนะถ้าพวกคุณคิดกันอย่างนี้ ผมไม่อยากคิด คิดกันอย่างนี้กระทบกระแทกแดกดัน พูดจากันเสียดสีให้เสียหาย ทำไมคิดกันได้แค่นั้นเอง ความคิดมีอยู่ระดับแค่นี้เองหรือ ทำไมไม่คิดอย่างคนธรรมดาคิดกันบ้างว่านี่คือนายกรัฐมนตรี และนั่นก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ทำไมต้องมาแดกดัน เสี้ยมเขาควายให้ชนกัน ผมไม่ได้พูดจาอย่างนี้มานาน ผมอ่านแล้วผมก็อมยิ้มว่า ทำไมสติปัญญาในการแสดงความคิดเห็นมันมีได้เพียงแค่นี้”
โวยลั่นคำครหามีนายกฯ 2 คน
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ที่ผ่านมาเวลามีอะไรลูกพรรคพลังประชาชนมักวิ่งไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัครตอบว่า อย่างนั้นหรือ แล้วมันเป็นอย่างไร เมื่อก่อนเขาก็ไม่ เคยวิ่งมาหาตน ที่เขียนกันว่าต่อไปนี้บ้านจันทร์ส่องหล้าคนจะเนื่องแน่น ไม่มีใครไปบ้านของตนนั้น พวกเขาไม่เคยเจอกันนานแล้ว เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้อยู่ประ-เทศไทยนาน ส่วนที่บ้านของตน เวลาสื่อไปเฝ้าก็เห็นแล้วว่าไม่เคยมีใครมาหา รวมทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนบินไปฮ่องกงบ่อยๆ นายสมัครตอบว่า “แล้วมันเป็นอย่างไร ใครเดือดร้อน พวกคุณไปออกค่าเครื่องบินให้เขาบินไปฮ่องกงหรืออย่างไร” เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ ส.ส.วิ่งไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ นายสมัครตอบว่า รู้สึกว่าสื่อมวลชนมีความคิดอ่านกันเพียงแค่นี้หรือ ระดับความคิดมีเพียงเท่านี้ใช่หรือไม่ แสดงความรู้สึกนึกคิดว่าข่าวของตนหายไป ทั้งที่เมื่อวานนี้ก็ได้ไปประชุมสภากลาโหมและก็มีงานที่ทำเนียบรัฐบาลไปคิดเพียงแค่ว่านายกรัฐมนตรีมี 2 คน มันเป็นไปได้อย่างไร คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ตอกกลับนักข่าวถามเรื่องนอมินี
ผู้สื่อข่าวถามว่า Mr.Christopher Hill ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียและแปซิฟิก ที่เข้าเยี่ยมได้ถามว่า นายสมัครว่าเป็นนายกรัฐมนตรีนอมินีใช่หรือไม่ นายสมัครตอบด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่า“คุณอย่ามาพูดอย่างนี้กับผมนะ แขกคนไหนบอกมาซิ” ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า รองโฆษกประ-จำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงว่านายกรัฐมนตรีถูกถามเรื่องนอมินี นายสมัครย้อนถามว่า “รองโฆษกฯคนไหน ชื่ออะไร อย่าไปอ้างชื่อเขาสุ่มสี่สุ่มห้า แขกจะมาถามได้ อย่างไร เขาจะกล้ามาถามหรือความคิดระดับพวกคุณ คิดเองถามเอง เพราะคิดว่าคนอื่นถาม แล้วเอาคำถามไปยัดใส่ปากรองโฆษกฯ ไม่มีใครเขาถาม มีแต่คุณมาถาม คิดกันได้แค่นี้หรือ”
เย้ยสงสารความคิดเห็นนักข่าว
เมื่อถามอีกว่า แขกที่มาพบวันนี้ มั่นใจในการเป็นนายกฯตัวจริงของนายกฯสมัครใช่หรือไม่ นายสมัครตอบด้วยอาการหงุดหงิดว่า “เขาไม่คิดแบบคุณ เพราะเขามีสติปัญญา ถามยังไม่กล้าถามเลย แต่พวกคุณคิดกันเลอะเทอะเปรอะเปื้อน น่าอายน่าขายหน้า ที่คิดที่แสดงมาให้คนอ่าน ให้คนเห็น มันน่าอาย ทำไมผู้สื่อข่าวมีความคิดเพียงแค่นี้ คิดว่านายกรัฐมนตรีมี 2 คน นายก-รัฐมนตรีตัวจริงมา เหลือแต่นายกฯสมัคร เหมือนไอ้คนแก่ๆไปเดินหง่อมๆ ทำไมสติปัญญานักข่าวคิดได้แค่นี้ มันน่าอายจริงๆ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สังคมตั้งข้อสังเกตเรื่องนายกรัฐมนตรีมี 2 คน นายสมัครย้อนว่า “สังคมไหน ชาวบ้านคนไหน ผมไม่เห็นได้ยิน ผมเจอชาวบ้านก็ไม่เห็นเขาพูดถึง มันไม่มีปัญหา” ต่อข้อถามถึงการที่ ส.ส.แห่ไปรับ พ.ต.ท.ทักษิณกันคึกคัก นายสมัครกล่าวตัดบทว่า “มันน่าสงสารความคิดพวกคุณจริงๆ น่าสงสารระดับความคิดนักข่าวจริงๆ”
รัฐวอนยุติประโคมข่าว 2 นายกฯ
ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงข้อวิจารณ์การกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ทำให้ดูเหมือนมีนายกรัฐมนตรี 2 คนว่า เป็นไปไม่ได้ทั้งในข้อเท็จจริงและในหลักการ จึงขอวิงวอนเพื่อนสื่อมวลชนให้ร่วมกันรักษาบรรยากาศการทำงานของรัฐบาลในช่วงเริ่มต้นให้เป็นไปได้ด้วยดี เพราะมุมมองดังกล่าวไม่ได้ส่งผลบวกในแง่มุมใดๆ อีกทั้งเกรงว่าจะขัดต่อพื้นฐานการปกครอง ทั้งนี้ต้องแสดงความเห็นใจต่อ พ.ต.ท.ทักษิณเช่นกัน เพราะท่านพูดชัดเจนว่า จะยุติบทบาททางการเมือง กรณีที่มีการนำเสนอข่าวในรูปแบบดังกล่าวเหมือนกับว่า สังคมไทยยังเอาสถานะทางการเมืองไปร้อยรัดพันธนาการ พ.ต.ท.ทักษิณไว้ ทำให้เวลาจะพูดคุย สื่อสาร ขยับเขยื้อนอะไรก็มักจะถูกตีความไปในแง่มุมทางการเมือง และประเด็นดังกล่าวยังอาจจะมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลต่อบรรยากาศที่จะมีการเริ่มต้นลงทุนในสาขาต่างๆด้วย
“ศุภรัตน์” เต้นแก้ข่าวนายกฯนอมินี
ด้าน น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแถลงข่าวการเข้าพบนายกรัฐมนตรีของผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ-อเมริกาว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ทีมโฆษกฯเป็น ผู้ชี้แจงการเข้าพบดังกล่าว ซึ่งตนเป็นผู้ให้ข่าว แต่พบว่า มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะมีนักข่าวไปถามนายสมัครที่สนามบินสุวรรณภูมิว่า เป็นนายกรัฐมนตรีนอมินีและมีการระบุว่ารองโฆษกเป็นผู้พูด เรื่องนี้จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิดและอาจเสียหายได้ ข้อเท็จจริงคือ ได้มีการพูดถึงการกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่นายสมัครก็ชี้แจงไปแล้วว่า อดีตนายกรัฐมนตรีกลับมาเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ก็บอกว่าเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ท่านจะกลับมาต่อสู้คดี ไม่ได้พูดถึงเรื่องการเป็นนายก-รัฐมนตรีนอมินี หรือนายกรัฐมนตรีตัวจริงแต่อย่างใดเลย จึงขอชี้แจงต่อสื่อมวลชนในประเด็นนี้ เพราะบางครั้งการไปถามในสิ่งที่คลาดเคลื่อน จะทำให้ประเด็นการตอบคำถามอาจคลาดเคลื่อนเช่นเดียวกัน
“อนุพงษ์” ปัดข่าวพบ “ทักษิณ”
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.กล่าวปฏิเสธถึงกระแสข่าวการนัดพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรีว่า ไม่มีกำหนดการและไม่มีความคิดที่จะหารืออะไรทั้งสิ้น เมื่อถามว่าจะมีการนัดหารือกับเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10 หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า ไม่มี เมื่อถามถึงข่าวปืนซุ่มยิงระยะไกลของกองทัพบกหายไป 3 กระบอก พล.อ.อนุพงษ์ตอบว่า ไม่มีปืนหาย และไม่จำเป็นต้องมาตรวจสอบ เมื่อถามย้ำว่าเป็นการปล่อยข่าวเพื่อสร้างกระแสหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
“เฉลิม” ชี้ไม่มีความแตกแยก
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่ลงรอยในพรรคพลังประชาชนว่า ไม่มี เป็นข่าวที่สื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์กันไปเองเท่านั้น เมื่อถามว่า มีปัญหาความแตกแยกของประชาชน 2 กลุ่มหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า จะมีได้อย่างไรเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคนไทย สัญชาติไทย มีสิทธิ์กลับมาอยู่ในประเทศไทย ส่วนคนที่ออกมาคัดค้าน เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตยที่มีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่การที่ประชาชนไว้วางใจพรรคพลังประชาชนขนาดนี้ คนที่ออกมาคัดค้านดูเอาไว้บ้าง คือ มีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ก็ต้องย้อนมองดูตัวเองด้วย
เชื่อ “ทักษิณ” วางมือทางการเมือง
เมื่อถามว่า เชื่อหรือไม่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่าจะวางมือทางการเมืองทุกอย่าง ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ต้องเชื่อท่าน ไม่เชื่อได้อย่างไร ตนยังกังวลด้วยซ้ำว่าท่านจะเหนื่อยเพราะพวกทีมเศรษฐกิจจะไปหาท่านเพื่อถามหา ความรู้เรื่องเศรษฐกิจ เมื่อถามว่า หากเป็นเช่นนี้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี จะลำบากใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไม่มี ไม่ลำบากใจ เพราะนายสมัครเองก็บอกแล้วว่าทำงานเป็นทีม บางอย่างอาจจะมีความเชี่ยวชาญ บางอย่างอาจจะไม่มี ก็ต้องให้ผู้ที่เชี่ยวชาญมาดูแล หากทุกอย่างทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า การกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาแทรกแซงรัฐบาลจนทำให้กลายเป็น 1 ประเทศ 2 นายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไม่เกี่ยว สื่อวิเคราะห์วิจารณ์ไปเอง วันนี้นายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะแทรกแซงก็ไม่จำเป็นต้องกลับมาประเทศไทย อยู่ต่างประเทศทำได้ ถ้าต้องการจะทำ
ยันไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีการตั้งนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ เป็นคณะทำงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีความเหมาะสมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า นายนพดล เป็นคนเก่าคนแก่ ที่คนส่วนใหญ่เป็นห่วงก็คือการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่อย่างกระทรวงมหาดไทย ก็ทำอะไรไม่ได้ ตำรวจ อัยการก็ไม่ได้อยู่กับมหาดไทย ยิ่งกระทรวงการต่างประเทศยิ่งออกทะเลไปเลย เข้าไปยุ่งไม่ได้ ดังนั้น ไม่น่ามีปัญหาอะไร พ.ต.ท.ทักษิณเองก็กลับมาสู้คดีตามกระบวนการแล้ว ไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรและไม่จำเป็นต้องแทรกแซง เพราะเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีความผิด อย่างเรื่องที่ดินรัชดาฯ ก็ต้องถามว่า ใครเป็นคนขาย หน่วยงานของรัฐหรือไม่ ถ้าผิดแล้วจะขายได้ อย่างไร สัญญาก็ต้องเป็นโมฆะไปแล้ว แต่เรื่องนี้พูด มากไม่ได้ เดี๋ยวละเมิดอำนาจศาล
“ประสงค์” อัด “ทักษิณ” สร้างภาพ
ที่รัฐสภา น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) กล่าวถึงการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ถ้าทำตัวเรียบร้อยแบบคนธรรมดา คนก็ไม่หมั่นไส้ แต่การก้มลงกราบแผ่นดินแบบนี้ใครดูก็หัวเราะ เพราะถ้าอยากจะกราบจริงๆ ต้องทำตั้งแต่เท้าแตะพื้น ไม่ใช่รอจนพบกล้องหรือประชาชนแล้วจึงทำ เป็นการใช้การตลาดเหมือนเล่นละครเรื่อง “น้ำตาหยดปฐพี” ที่ไม่รู้ว่าจะออกช่องไหน ส่วนการประกาศวางมือทางการเมืองโดยนิตินัยก็ทำไม่ได้อยู่แล้ว และโดยพฤตินัยต้องระวังอาจเข้าข่ายขัดคำวินิจฉัยของตุลาการรัฐธรรมนูญได้ ตั้งแต่ไปอยู่ที่ฮ่องกง อังกฤษมีคนไปพบมากมาย เขาอาจไม่รู้ว่ามีการแอบถ่ายภาพอัดเสียงเอาไว้หมดแล้ว ส่วนผู้ที่มีตำแหน่งในรัฐบาลขอให้คำนึงถึงความเหมาะสม เพราะคนที่ท่านไปรับเป็นจำเลยที่หนีหมายจับ จะทำอะไรก็อย่าฮึกเหิมเพราะจะทำให้ความรู้สึกของคนร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะการอาละวาดโยกย้ายข้าราชการในช่วงนี้ น่าสงสัยว่า ทำเพื่อกรุยทางให้ใครมาสั่งการอะไรได้ง่ายขึ้นหรือไม่
จวกรัฐเชลียร์สร้างความแตกแยก
น.ต.ประสงค์กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ เป็นการโยกย้ายเพื่อข่มขวัญข้าราชการคนอื่นให้เกรงกลัวไม่ให้ทำหน้าที่ ขนาดรัฐบาลปฏิวัติยังไม่ทำถึงขนาดนี้ ดังนั้น ขอให้ข้าราชการที่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ทำงานต่อไป อย่าหวั่นไหว หากใครถูกละเมิดหรือแทรกแซงขอให้มาบอกจะช่วยเต็มที่ บ้านเมืองต่อจากนี้ไปจะไม่สงบ ซึ่งคนที่ทำให้ไม่สงบคือพวกรัฐบาลที่กำลังสร้างความแตกแยกให้บ้านเมือง ด้วยการจัดตั้งมวลชนไปรับ พ.ต.ท. ทักษิณ สร้างความรู้สึกให้คนเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ส่วนคนที่ปาดน้ำตาก็อย่ามาสร้างความแตกแยก ตอนนี้ไม่ได้มีตำแหน่ง อย่าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ อย่าสร้างความไม่สบาย ใจให้คนที่มีตำแหน่ง จนกลายเป็นอยู่ในสภาพต่างคนต่างเป็นใหญ่ ทำให้บริหารแผ่นดินไม่ได้เพราะมัวแต่ ทะเลาะกัน เมื่อเป็นจำเลยก็ควรอยู่อย่างสงบเสงี่ยม อย่าหาข้ออ้างเพื่อยืดเวลา
ลีเดียน้ำตาคลอเห็นพ่อกราบแผ่นดิน
ทางด้าน ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้องสาวค่ายอาร์เอส ได้กล่าวถึงการเดินทางกลับเมืองไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่พ่อกลับมาถึงเมืองไทย ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่ได้คุยกันก่อนที่พ่อจะบินกลับมา ได้เห็นในทีวีตอนที่พ่อก้มลงกราบแผ่นดิน เดียน้ำตาคลอ รู้สึกดี เพราะพ่อได้กลับมาบ้านมาอยู่กับครอบครัวสักที หลังจากที่จากบ้านไปตั้งนานมาก เดียรู้ว่าพ่อคิดถึงบ้านขนาดไหน เพราะเดียเองเคยไปอยู่ด้วย เดียรู้หมดว่าสถานะครอบครัวของพ่อเป็นยังไง วินาทีที่เค้ากลับมาอยู่ด้วยกันมันเป็นสิ่งที่ดีมาก เดียได้คุยกับพี่อุ๊งอิ๊ง เค้าก็แฮปปี้ ช่วงที่พ่อไม่อยู่ เดียก็ให้กำลังใจเค้าว่าเดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว พี่อุ๊งอิ๊งนี่ลูกรักของพ่อเลย เพราะหน้าเหมือนกันมาก เห็นเค้าร้องไห้ตอนพ่อลงจากเครื่องมา เห็นพี่เอม พี่อุ๊งอิ๊ง ร้องไห้ ตอนนี้จะได้อยู่กันครบหน้าที่เมืองไทยเสียที
รอพ่อคิวว่างจะไปพบทันที
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไปหาพ่อทักษิณเมื่อไหร่ ลีเดีย ตอบว่า ต้องรอพ่อโทร.มาก่อน เดียกลัวว่าถ้าเราโทร.ไปแล้วพ่อกำลังยุ่งอยู่กับหลายๆเรื่อง ต้องไปเคลียร์หลายเรื่อง รอพ่อว่างดีกว่า แต่คงต้องไปแน่นอน คุณพ่อเคยถามเรื่องความรักของลีเดียกับแมททิว ดีน บ้างไหม สาวลีเดีย ตอบว่า ก็มีบ้างที่คุยกันตามประสาผู้ใหญ่ถาม พ่อเค้าจะถามเรื่องอัลบั้ม เรื่องเรียน ถามตลอด เรียนเป็นยังไง พ่อเป็นห่วงว่าช่วงนี้งานเยอะกลัวการเรียนจะเสีย
ยัน คตส.ทำหน้าที่จนหมดวาระ
ด้านนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเพื่อต่อสู้คดีว่า คงไม่มีผลอะไรกับ คตส.เพราะต้องทำงานตามกรอบของกฎหมายต่อไป ไม่มีปัญหา ถูกก็ว่าไปตามถูกผิดก็ว่าไปตามผิด และไม่รู้สึกกังวลเรื่องการถูกแทรกแซงเพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครแทรกแซงการทำงานของ คตส.ได้ ส่วนคดี ความต่างๆ ก็ต้องพยายามทำให้แล้วเสร็จทุกคดี ภายในกรอบอายุงานที่ คตส.จะหมดวาระภายในเดือน มิ.ย.นี้
เข้าใจ “ทักษิณ” ก้มกราบคิดถึงแผ่นดิน
นายนาม ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก้มลงกราบพื้นดินภายหลังเดินทางกลับประเทศไทยว่า เป็นเรื่องธรรมดาของคนไทยทุกคน เมื่อจากบ้านจากเมืองไปนานก็ต้องคิดถึงประเทศเป็นธรรมดา แม้แต่ตนหากจากไปนานๆก็คิดถึง “การไปอยู่ต่างประเทศ ไปอยู่แค่ 2-3 วันก็คงจะสนุก แต่หากนานกว่านั้นก็จะคิดถึงเมืองไทยเหมือนกันอย่างเช่นนายสุเทพ วงศ์กำแหง นักร้องชื่อดังที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในจีนแดงมานานและคงมีความคิดถึงเมืองไทย จึงมีการแต่งเพลง ทรุดกายลงจูบดิน ออกมา” นายนามกล่าว
ที่มา ไทยรัฐ
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1299 |
|
| แสดงความคิดเห็น |
โดย ตนข่าว เชียงใหม่
IP: Hide ip
, วันที่ 01 มี.ค. 51
เวลา 10:19:59
|
