กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
นับเป็นเวลา 15 ปี...ที่ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ได้ลงวาดลวดลายโชว์ลีลาลูกหนังให้แฟนบอลชาวไทยชื่นชมกัน แต่มาวันนี้
“ยอดดาวยิง” จอมตีลังกา
ได้ประกาศยุติการลงเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการแล้ว
ด้วยเหตุผลที่ว่า มันถึงเวลาที่จะต้องรู้จักพอ เพื่อหันหน้าไปรับบทบาทใหม่
นั่นก็คือ การเป็นหัวหน้าครอบครัวอย่างเต็มตัว
และดำเนินธุรกิจตามที่วาดฝันไว้...วันนี้จึงขอพาผู้อ่านไปพูดคุยแบบเปิดใจกับ
“อดีตกัปตันทีมชาติไทย” ที่ถึงวันต้อง “แขวน สตั๊ด” อย่างจริงจังเสียที
- รู้สึกอย่างไรบ้าง หลังจากที่ต้องได้เลิกเล่นให้กับทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ
“จริง ๆ แล้ว ผมยังรู้สึกใจหายอยู่เลยครับ
เพราะผมอยู่กับทีมชาติไทยมานานถึง 15 ปี เหมือนกับว่าฟุต
บอลและการเล่นให้กับทีมชาติ เป็นเสมือนครอบครัวผมไปแล้ว
แต่อีกใจก็ดีใจที่ตอนเช้าจะได้มีโอกาสไปส่งลูกสาวไปโรงเรียน
ไม่เช่นนั้นตอนเช้าผมก็ต้องไปซ้อม-ตอนเย็นก็ซ้อม
จะเจอครอบครัวอีกทีก็ตอนค่ำ แม้ผมจะรู้สึกว่าชีวิตมันขาดหายไป
แต่ผมก็ต้องใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ผมฝันถึงให้ดีที่สุด
และเรื่องฟุตอบอลผมคงไม่ทิ้ง คงจะพยายามช่วยปั้นเยาวชนรุ่นต่อ ๆ ไป
- ฟุตบอลได้ให้อะไรกับ “ซิโก้” บ้าง
“ฟุตบอลได้ให้ผมเกือบหมดทุกอย่าง ให้เกียรติยศ, ชื่อเสียง, เงินทอง
ทำให้คนทั่วประเทศรู้จัก เวลาไปไหนมาไหนก็ได้รับการยอมรับ
หรืออำนวยความสะดวกให้ ถ้าหากผมไม่ได้เล่นฟุตบอลและไม่ได้ติดทีมชาติ
คงไม่มีใครรู้จักผม”
- นัดแรกที่ได้ลงเล่นในนามทีมชาติ
“การลงเล่นนัดแรกในนามทีมชาติของผม คือการติดทีมเยาวชนอายุ 16 ปี
ไปเล่นรายการชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ที่ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งผมรู้สึกภูมิใจมาก เพราะการเป็นเด็กต่างจังหวัดจากขอน แก่น
แล้วได้ใส่เสื้อที่มีธงไตรรงค์ติดอยู่บนหน้าอก มันทำให้ผมดีใจสุดสุด
เนื่องจากคิดว่านี่คงเป็นหนเดียวที่มีโอกาสได้ติดทีมชาติ”
- นัดที่ประทับใจที่สุดในชีวิต
“ผมค่อนข้างจะประทับใจทุกนัด
มันเป็นความภูมิใจของผมที่ได้ลงเล่นฟุตบอลให้กับทีมชาติ จริง ๆ
แล้วผมไม่ค่อยมีเรื่องที่เศร้าใจมากกับเกมฟุตบอล
เพราะส่วนใหญ่จะคว้าแชมป์ได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็น กีฬาซีเกมส์ หรือไทเกอร์คัพ
แต่ถ้าหากเป็นฟุตบอลโลกและฟุตบอลเอเชี่ยนคัพ
คงต้องยอมรับว่าฝีเท้าของทีมไทย ชั้นยังสู้ทีมเด่น ๆ ของเอเชียไม่ได้
อย่างไรก็ตามการลงเล่นให้กับสโมสร ผมก็มีความรู้สึกที่ดี เพราะสามารถพา
ฮอง อันห์ ยาลาย คว้าแชมป์ลีกของเวียดนามได้ แต่ถ้าหากให้ผมเลือกจริง ๆ
คงเป็นนัดที่ทีมไทยเฉือนเอาชนะพม่า 4-3 ในกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 17
ที่ประเทศสิงคโปร์ ปี 2536 เพราะผมถูกเปลี่ยนตัวลงไปและสามารถทำประตูชัยได้
- แล้วประตูที่ยิงให้กับทีมชาติและกลายเป็นนัดแห่งความทรงจำล่ะ
“ก็คงเป็นนัดที่ผมโหม่งพังประตูชัยเฉือนเอาชนะพม่า ในกีฬาซี เกมส์
ครั้งที่ 17 นี่แหละ
เพราะลูกนี้มันทำให้ผมแจ้งเกิดดังทั่วประเทศเพียงแค่ข้ามคืน
จากชีวิตที่เรียบง่าย กลับกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง
มันเหมือนสวรรค์มาโปรดชีวิตของผมจริง ๆ
และเมื่อนึกถึงการเล่นให้กับทีมชาติครั้งใด ผมมักจะคิดถึงประตูนี้ทุกครั้ง”
- นัดที่เสียดายหรือเสียใจมากที่สุด
“ผมเสียดายตอนไปแข่งขันฟุตบอลเยาวชนอายุ 19 ปี ชิงแชมป์เอเชีย
ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2537 มากที่สุด
เพราะตอนนั้นทีมไทยผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ และหากเข้าไปถึงรอบชิงได้
จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังของไทย
ด้วยการได้ไปเล่นในฟุตบอลเยาวชนโลกเป็นครั้งแรก
แต่ผมเกิดได้รับบาดเจ็บในจังหวะขึ้นโหม่งกับกองหลังซีเรีย
จนได้รับบาดเจ็บและต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลัง
ซึ่งจุดนี้ทำให้ทีมไทยพ่ายซีเรีย 0-1
หากผมยังเล่นอยู่คงทำให้เกมไม่เป็นรอง ผมจึงเสียดายมาก
เพราะใกล้ที่จะได้ไปฟุตบอลโลกแล้ว แม้จะเป็นระดับเยาวชนก็ตาม”
- อยากเห็นวงการฟุตบอลของไทยเป็นอย่างไรในอนาคต
“ผมอยากเห็นเมืองไทยมีฟุตบอลลีกอาชีพจริง ๆ เสียที ให้เหมือนเพื่อนบ้าน
อย่าง สิงคโปร์, เวียดนาม, อินโดนีเซีย
เพราะจะว่าไปแล้วฝีเท้าของผู้เล่นเหล่านี้
ยังมาตรฐานต่ำกว่านักเตะไทยเสียอีก แต่กลับมีลีกอาชีพที่แข็งแกร่ง
มีการให้ค่าจ้างนักเตะที่สูง ผมอยากให้เมืองไทยเป็นแบบนี้
มีการให้ค่าจ้างนักเตะ 4-5 หมื่น จนไปถึงระดับ 1 แสน หรือ 2 แสนบาท
ตรงนี้จะทำให้ผู้เล่นทุ่มเทหันมาเอาดีทางฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว
ไม่ใช่เล่นให้สโมสรครึ่ง อีกครึ่งต้องไปเรียนหนังสือ
- จากนี้ไปชีวิตของ “ซิโก้” จะทำอะไร
“ผมเล่นฟุตบอลด้วยความมุมานะ จนประสบความสำเร็จ ผมไม่ใช่นักเตะพรสวรรค์
แต่ผมเป็นนักเตะประเภทพรแสวง ดังนั้นผมจะนำความมุมานะและความขยันอดทน
ซึ่งเป็นบทเรียนที่ดี นำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจด้วย และผมจะสนับสนุนเด็ก ๆ
ให้ได้เล่นฟุตบอลอย่างถูกต้อง
ส่วนตัวผมเองอาจจะหันไปรับหน้าที่ในการเป็นโค้ชต่อไป”
- สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงแฟนบอลที่เชียร์ “ซิโก้” มาตลอด 15 ปี
“ผมอยากขอบคุณแฟน ๆ ที่เชื่อมั่นในตัวผม
ผมลงเล่นฟุตบอลให้กับประเทศชาติด้วยหัวใจที่เต็มร้อย และเพื่อแฟนบอล
เหล่านี้ แม้ในช่วงหลัง ๆ จะมีแฟนบอลกลุ่มน้อยออกมาตำหนิฟอร์มการเล่นของผม
แต่ผมก็รับฟัง ไม่ได้คิดโกรธเคืองอะไร
มาถึงตอนนี้เป็นการประกาศอำลาทีมชาติของผมอย่างเป็นทางการ ผมอยากจะบอกว่า
ผมไม่เคยเสียใจในการลงเล่นให้กับทีมชาติ เนื่องจากเวลา 15 ปีที่ผ่านมา
ผมได้สร้างความสุขให้กับแฟนบอลเป็นจำนวนมาก”
นี่แหละครับ..คือคำพูดจากใจของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
ดาวยิงทีมชาติไทยในวันอำลาสนาม จะนิ่งเฉยหรือหันมาชื่นชมนักเตะแบบนี้..แฟน
บอลก็ลองคิดดูละกัน..ครับ.
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|