วันที่ 14 มกราคม 2564 เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เห็นชอบกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นให้ก่อกบฎ จากกรณีที่ผู้สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อขัดขวางการรับรองผลการเลือกตั้งให้นายโจ ไบเดน เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 232 ต่อ 197 เสียง โดยในจำนวนผู้เห็นชอบ มีคะแนนจากสมาชิกสภาพรรครีพับลิกัน พรรคเดียวกับประธานาธิบดีทรัมป์รวมอยู่ด้วย 10 เสียง

นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนลงนามกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ว่า นี่เป็นกระบวนการของสภาเพื่อยืนยันว่า ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายแม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมย้ำว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีพฤติกรรมที่ชัดเจนว่าเป็นอันตรายต่อประเทศ

การยื่นถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งที่ 2 ในวาระการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกยื่นถอดถอนถึง 2 ครั้ง

สำหรับขั้นตอนนับจากนี้ กระบวนการถอดถอนจะถูกส่งไปยังวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งในครั้งนี้มีสัญญาณว่า สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนจะเห็นชอบการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย แต่ขั้นตอนการถอดถอนในวุฒิสภาน่าจะเริ่มขึ้นหลังจากที่นายโจ ไบเดน รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ไปแล้ว ซึ่งหากวุฒิสภาเห็นชอบถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะลงมติเพิ่มเติมเพื่อตัดสิทธิ์ประธานาธิบดีทรัมป์ในการลงสมัครเป็นประธานาธิบดีในปี 2567 ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์มีแผนจะทวงเก้าอี้ผู้นำสหรัฐฯ คืน

ขณะที่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์หลังสภาผู้แทนราษฎรลงมติถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเรียกร้องให้วุฒิสภาทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ทั้งในแง่การจัดการกับภาวะโรคระบาด การเยียวยาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นภารกิจเร่งด่วน รวมไปถึงภาระหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ

ส่วนความเคลื่อนไหวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุด ได้แถลงการณ์เผยแพร่ผ่านวีดีโอระบุว่า ผู้ประท้วงที่บุกรุกอาคารรัฐสภาและใช้ความรุนแรงไม่ถือเป็นผู้สนับสนุนเขาอย่างแท้จริง แต่ไม่ได้ระบุถึงกระบวนการถอดถอนครั้งที่ 2 ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้