เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวไปที่วัดยางทอง หมู่ 10 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังทราบจากชาวบ้านว่ามีคนเข้าไปทำพิธีไสยศาสตร์ในวัด ทำให้ราษฎรในหมู่บ้านหวาดกลัวกันมาก เมื่อไปถึงมีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ข้างเมรุเผาศพ ชี้ให้ดูร่องรอยการทำพิธีพร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยมีรอยขุดดินเป็นหลุมห่างจากบันไดขึ้นเมรุ 2 เมตร เป็นหลุมยาว 1 เมตร กว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร มีดินร่วนกลบปากหลุมแต่ไม่หมด
เมื่อขุดดูพบภาพถ่าย 4 ใบ มีตะปูเก่าขึ้นสนิมตอกตรึงอยู่ 7 ดอก รูปถ่ายใบแรกเป็นรูปนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ใบที่ 2 เป็นรูปนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตสมาชิกวุฒิสภานครศรีธรรมราชที่เตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชในเร็วๆ นี้
ใบที่ 3 เป็นรูปนายคมกฤช บุณยเกียรติ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นพี่น้องกัน ใบที่ 4 เป็นรูปนายศุภชัย วิเชียรทอง สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เขต อ.ร่อนพิบูลย์ ข้างกันมีใบหูกวางซึ่งภาษาท้องถิ่นเรียกว่าใบโดนวางซ้อนกัน 3 ใบ ใบแรกมีหมึกสีน้ำเงินเขียนชื่อนายชินวรณ์ ใบที่ 2 เขียนชื่อนายพิชัย ใบที่ 3 เขียนชื่อนายคมกฤช ขณะเดียวกันมีเศษบาตรพระแตกวางอยู่ เขียนชื่อนายศุภชัย นอกจากนี้มีหิน กระเบื้องแตก แผ่นกระดาษเขียนตัวเลขหลายตัว ทั้งหมดมีรอยไฟไหม้ไปบางส่วน และที่บันไดทางขึ้นเมรุมีห่อข้าวสวย ปลาต้ม 7 ตัว ธูปเทียนดอกไม้ และเหรียญบาท 3 เหรียญ
พระสุรินทร์ สุตตะมโน อายุ 48 ปี พระลูกวัดซึ่งมีหน้าที่ดูแลทั่วไปเปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 2 ก.พ. เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ขณะนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ใกล้เมรุ เห็นรถปิกอัพยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้แล่นเข้ามาจอดข้างเมรุเผาศพ จากนั้นมีชายชุดขาวเดินลงมาจากรถเป็นคนแรก ต่อมาเป็นหญิงสวมเสื้อสีแดง ใส่กางเกงยีน เดินตามลงมาและเรียกชายอีกคนแต่งกายภูมิฐานให้ลงจากรถ จากนั้นมีการทำพิธีกัน ตอนแรกคิดว่านำเด็กทารกที่เสียชีวิตมาฝัง เพราะบริเวณโดยรอบเมรุถือว่าเป็นป่าช้า มีการนำกระดูกคนที่ฌาปนกิจแล้วมาฝังเสมอ ยังคิดตำหนิว่าทำไมถึงไม่บอกพระก่อน
ช่วงเช้าที่ผ่านมากลับจากบิณฑบาตเดินผ่านป่าช้ารู้สึกสังหรณ์ใจจึงเดินไปดูที่จุดนั้นพบว่ามีการทำพิธีกรรมแบบโบราณเรียกว่าพิธีสั่งตาย ของที่ใช้เหมือนกับการเอาศพมาทำพิธี ห่อข้าวที่เห็นนั้นเรียกว่า ข้าวบอก คือจะเป็นข้าวที่นำมาให้เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าช้าเป็นการบอก กล่าวขออนุญาต และมีการซื้อที่ดินให้คนตาย ส่วนแผ่นเหล็กที่เขียนชื่อคือเศษแผ่นเหล็กบาตรพระเก่าที่แตกแล้ว และมีกระเบื้องโบราณ หิน รวมทั้งใบหูกวางหรือใบโดน ทั้งหมดเขียนชื่อคนที่ถูกทำพิธีที่ต้องการให้ถึงตาย ส่วนรูปถ่ายและกระดาษที่จดเลขนั้นตอกด้วยตะปูที่หาได้จาก โลงศพหรือเตาเผาศพมาตอกตรึงไว้กับดิน
สำหรับตะปู 7 ตัว คือเลข 7 ตามจำนวนวันใน 1 สัปดาห์ เป็นความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ เป็นการกระทำของคนที่มีความรู้ทางพิธีกรรม จุดประสงค์อย่างเดียวคือเพื่อให้ผู้ที่มีชื่ออยู่ที่นำมาทำพิธีถึงแก่ความตาย และที่ตอกตะปูไว้ 7 ตัว เพื่อให้มีโอกาสตายทั้ง 7 วัน เพราะคนเรารู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตายจึงทำเช่นนี้ และเชื่อว่าจะ ต้องมีการทำพิธีเช่นนี้ในวัดต่างๆถึง 7 วัดเป็นการกระทำของพวกอวิชชา คนดีจะไม่รู้สึกอะไรและคนที่ถูกกระทำไม่ควรไปใส่ใจ ควรตั้งอยู่ในธรรมและความไม่ประมาท สิ่งที่เลวร้ายก็จะทำอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจมาบันทึกภาพตรวจที่เกิดเหตุแล้ว พระสุรินทร์กล่าว
ขณะที่ชาวบ้าน เช่น นางประคิ่น จันทร์มณี อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/1 หมู่ 10 ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา กล่าวว่า ห่อข้าวบอกเป็นการมาขอซื้อที่เพื่อให้คนตายได้อยู่ แต่พิธีสั่งตายที่ทำในป่าช้านั้นค่อนข้างน่ากลัวและไม่เคยพบเห็นมาก่อน เกรงว่าจะเป็นสิ่งไม่ดีกับหมู่บ้าน
ด้านนายพิชัย บุณยเกียรติ อดีต ส.ว.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีชื่ออยู่ในการทำพิธีกล่าวว่า แม้เรื่องนี้จะพิสูจน์ ไม่ได้ แต่คนโบราณบอกว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ตนตั้งใจจะซื้อโลงศพบริจาคและถวายสังฆทานแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับคนที่ทำและประสงค์ร้ายกับตนและพี่น้องตระกูลบุณยเกียรติ ซึ่งทำงานการเมืองเกือบทั้งครอบครัว เป็นการกระทำของคนสิ้นคิด ไม่วิตกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ห่วงชาวบ้านที่ขวัญเสีย
ส่วนนายชิณวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เป็นเรื่องไร้สาระ แต่มีความพยายามอีกหลายรูปแบบที่จะทำลายความน่าเชื่อถือ ทำลายศรัทธาของตนในฐานะที่ได้เป็น ส.ส.มีะแนนเป็นอันดับ 1 จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายพิชัย น้องชาย ได้คะแนนเลือกตั้ง สมาชิกวุฒิสภาปี 2549 มาเป็นอันดับ 1 เช่นกัน ดังนั้นเมื่อนายพิชัยตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัด นครศรีธรรมราช อาจทำให้บางคนหวั่นไหว จึงอยากให้ นักการเมืองยุคใหม่ทำแบบสร้างสรรค์ เน้นปัญญานิยม ตรงไปตรงมา แข่งกันที่นโยบาย
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นครศรีธรรมราชกล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องตรวจ สอบการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ส่วนผลเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ยอมรับได้ สำหรับที่มีคนในพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครกันหลายทีมนั้น เป็นเรื่องสมาชิกพรรคแข่งกันเองตามปกติ ชาวบ้านเข้าใจดี ใครได้เข้ามาก็ถือเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งนั้น ไม่ คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเกิดจากความขัดแย้งภายในพรรค
ข้อมูลและภาพประกอบจาก