ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การเครือข่ายเยาวชนในโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ(แพธ) จัดกิจกรรม "วาเลนไทน์วัย X ต้อง Sex Education" ตามโครงการก้าวย่างอย่างตั้งใจ โดยนพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จาการคาดการณ์ว่าในปี 2551 จะมีผู้ป่วยเอดส์รายใหม่ ประมาณ 14,000 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่นคือมีอายุน้อยกว่า 30 ปี และมักติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นสถิติที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก โดยที่ผ่านมา กองทุนโลกได้สนับสนุนงบประมาณให้กับกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในการรณรงค์ป้องกันโรคเอดส์มาตลอด ซึ่งปีที่แล้วได้ผลักดันให้กลุ่มวันรุ่นที่มีพฤติกรรมเสี่ยงใช้ถุงยางอนามัย ในโครงการ "ยืดอกพกถุง" ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะนอกจากจะป้องกันการติดเชื้อเอดส์แล้วยังช่วยป้องกันปัญหาอื่นๆ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร

            นาย วันเฉลิม สัตยศักดิ์สิทธิ์ ตัวแทนเครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ประเทศไทย(Youth Net) กล่าวว่า เครือข่ายเยาวชนฯ ร่วมกับสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา องค์กรแพธ ร่วมสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชน จำนวน 2,000 คน อายุ 15-22 ปี ใน 11 จังหวัด เรื่อง "ทัศนคติและความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนเกี่ยวกับการเรียบรู้เรื่องเพศศึกษา การใช้ถุงยางอนามัย และการโฆษณาถุงยางอนามัย" 

          โดยผลสำรวจพบว่า วัยรุ่นร้อยละ 72 เห็นด้วยให้มีการเรียนเพศศึกษาอย่างเป็นระบบในสถานศึกษา และร้อยละ 76.5 ให้บรรจุวิชาเพศศึกษาในหลักสูตรของโรงเรียน โดยร้อยละ 56 ต้องการใช้สื่อการเรียนการสอนที่ชัดเจน เช่น อุปกรณ์อวัยวะเทียมเพื่อสาธิตการสวมถุงยางอนามัย หรือภาพของการมีเพศสัมพันธ์ และร้อยละ 27.3 ต้องการให้ครูสอนเรื่องเพศศึกษาให้เข้าใจมากกว่านี้ และร้อยละ 20.5 เห็นว่าเยาวชนควรมีส่วนร่วมในการป้องกันเอดส์และมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย

             นายวันเฉลิมกล่าวอีกว่า ด้านทัศนคติต่อถุงยางอนามัย พบว่า เยาวชนร้อยละ 64.5 เห็นด้วยให้สาธิตการใช้ถุงยางในห้องเรียน และร้อยละ 65.6 อยากให้นักเรียนสามารถรับถุงยางได้ภายในโรงเรียน ที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 54.8 ไม่เห็นด้วยกับความคิดว่าผู้หญิงไม่ควรพกถุงยาง และร้อยละ 50.5 เห็นว่าการใช้ถุงยางไม่ใช่เป็นการแสดงความไม่ไว้วางใจของคู่นอน และร้อยละ 18.6 ต้องการให้เปิดโอกาสให้วัยรุ่นที่ตั้งครรภ์กลับมาเรียนได้อีก

           "เยาวชน ร้อยละ 67.2 เห็นว่าการตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์เป็นสิทธิส่วนบุคคล และร้อยละ 48.8 รับได้ที่จะมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงาน ในจำนวนนี้กว่าร้อยละ 60 ไม่รังเกียจที่จะคบเพื่อนที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว และพบว่าเยาวชนเกือบครึ่งไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวหาว่า การมีเพศสัมพันธ์แบบเปลี่ยนคู่นอนในหมู่วัยรุ่นเป็นเรื่องปกติ ขณะที่ร้อยละ 70.5 เห็นว่า เกย์ กระเทย ทอมและดี้ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม" ตัวแทนเยาวชนกล่าว

ข้อมูลจาก

ภาพประกอบจาก http://www.poktoong.com/