หลังศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งบังคับถาวร มิให้จำหน่ายโปรแกรมไมโครซอฟท์ เวิร์ด ในประเทศสหรัฐอเมริกา หากไม่ยอมถอดฟังก์ชัน XML…
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆนี้ ที่ศาลแขวงประจำเมืองไทเลอร์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ผู้พิพากษาลีโอนาร์ด เดวิส ขึ้นบัลลังก์ประกาศคำตัดสินชี้ขาด ในกรณีความขัดแย้งระหว่างบริษัทไอโฟร์ไอ (i4i) บ.เทคโนโลยีระดับโลก ผู้เป็นเจ้าของสิทธิบัตรหมายเลข 5,787,449 ที่ออกโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา แห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2541 กับ บริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น โดยศาลตัดสินให้ i4i ได้รับเงินชดเชยจำนวน 290 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีคำสั่งบังคับถาวรมิให้ไมโครซอฟท์ขายผลิตภัณฑ์ Word ในสหรัฐอเมริกา หากไม่ยอมถอดฟังก์ชั่น XML ออกจากโปรแกรมดังกล่าว เนื่องจากถือเป็นการละเมิดสิทธิบัตรหมายเลข 5,787,449 ของ i4i
รายงาน ข่าวแจ้งว่า หลังการตัดสินคดี ทางไมโครซอฟท์ได้ยื่นอุทธรณ์โดยอ้างว่า ทางบริษัทไม่เพียงแต่ต้องระงับการขาย โปรแกรม Word เท่านั้น แต่ยังต้องระงับการขายซอฟท์แวร์ทั้งหมดที่ใช้ร่วมกับโปรแกรม Office จนกว่าจะสามารถออกแบบโปรแกรมใหม่ที่มีการถอดฟังก์ชั่น XML ออกไปได้ โดยการทำเช่นนั้นจะส่งผลให้ตัวแทนจำหน่าย อาทิ บริษัทค้าปลีก เบสท์ บาย (Best Buy) และผู้ผลิต OEM อย่าง เอชพี และ เดลล์ ได้รับผลกระทบอย่างหนักในด้านการขาย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในขณะเดียวกันทั้งเอชพีและเดลล์ ต่างอ้างว่า บริษัทต้องรับภาระหนักหากศาลมีคำสั่งบังคับถาวรดังกล่าว พร้อมกันนั้นได้ขอขึ้นให้การต่อศาลอุทธรณ์ โดยศาลอุทธรณ์ได้รับคำร้องดังกล่าวและกำหนดพิจารณาคดีอีกครั้งในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ที่กรุงวอชิงตันดีซี
นายลูดอน โอเวน ประธานบริษัท i4i กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่าศาลแขวงสหรัฐฯ ตัดสินคดีได้อย่างถูกต้องยุติธรรมแล้ว และมั่นใจว่า i4i จะชนะคดีในชั้นศาลอุทธรณ์ โดยคดีนี้เป็นคดีตัวอย่างสำหรับบริษัทใดก็ตาม ที่ถูกบริษัทคู่แข่งจงใจละเมิด สิทธิบัตร โดยเฉพาะจากบริษัทคู่แข่งที่ใหญ่และมีอำนาจมากกว่าอย่างไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตามถึงบริษัทไอโฟร์ไอจะไม่ได้มีเงินมากมายเหมือนไมโครซอฟท์ แต่ก็มีสิทธิได้รับความคุ้มครองภายใต้ระบบยุติธรรมของสหรัฐฯ รวมทั้งไมโครซอฟท์ไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถยึดเอาสิทธิบัตรของไอโฟร์ไอไปใช้โดยพลการ
ที่มา ไทยรัฐ