นพ ดล ปัทมะ รายงาน แม้ว ทราบเรื่องช่วยแม่บินพบวิศวกรไทยวันนี้แล้ว คุย สนิทรัฐมนตรีเขมร ประสานให้ช่วยดูแลเต็มที่ ขณะที่ กต. เตรียมยื่นหลักฐาน ศิวรักษ์ ป่วยเป็นโรคหอบหืด จากกรรมพันธุ์ุ ให้ศาลกัมพูชา พิจารณาประกันตัว 4 ธ.ค. นี้ ...
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ ไทยรัฐออนไลน์ โดย เปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์ แจ้งให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับทราบถึงการที่ตนเอง ได้ประสานไปยัง รัฐมนตรีระดับสูงคนหนึ่งในรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งมีความสนิทชิดเชื้อกับตนเอง ในฐานะที่เคยทำงานร่วมกัน เพื่อให้ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ นางสิมารักษ์ ณ นครพนม เดินทางไปเยี่ยม นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ในวันนี้ แล้ว ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้บอกเพียงว่า เหมาะสมแล้ว เพราะอย่างไรเป็นคนไทยเหมือนกัน ก็ควรที่จะช่วยเหลือกันไว้
ทั้ง นี้ ตนเองขอยืนยันอีกครั้งว่า การให้การช่วยเหลือ นางสิมารักษ์ ในครั้งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อหวังแย่งซีนรัฐบาล ในการให้ความช่วยเหลือ นายศิวรักษ์ แต่เป็นเพราะตนเองหวังที่จะให้ความช่วยเหลือ นางสิมารักษ์ด้วยความจริงใจ เพราะเข้าใจหัวอกของคนที่เป็นแม่ เป็นอย่างดีว่าจะรู้สึกห่วงความปลอดภัยของลูกมากเพียงใด เพราะตนเองก็สูญเสียแม่ไป ตั้งแต่ อายุ 11 ปี นอกจากนี้ นางสิมารักษ์ ก็เป็นผู้ที่โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือกับตนเอง ไม่ใช่ตนเองโทรศัพท์ไปนางสิมารักษ์ อีกด้วย ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้น ตนเองไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นทางพรรคเพื่อไทย คงมีการให้ความช่วยเหลือไปอยู่บ้าง
ส่วน การเดินทางไปยุโรป ของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ตนเองคงบอกได้เพียงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับเชิญจากผู้นำประเทศหนึ่งในยุโรป ให้เดินทางไปพบ เพื่อดูลู่ทางในการลงทุนรวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจเมื่อใด ก็คงจะมีการนำมาเปิดเผยให้ได้รับทราบผ่านทวิตเตอร์ต่อไป ส่วนเหตุที่ยังไม่อาจเปิดเผยรายละเอียดในการเดินทางได้นั้น เป็นเพราะเกรงว่าหาก นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทราบเรื่องก็อาจจะไปปั่นป่วนการพบปะดังกล่าว หรือไม่แน่ก็อาจจะนำเครื่องบินเอฟ 16 ไปคอยก่อกวน พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นได้
ด้านนางสิมารักษ์ ณ นครพนม และ นายพงษ์สุรีย์ ชุติพงษ์ มารดาและน้องชาย นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ ซึ่งจะออกเดินทาง ไปประเทศกัมพูชา เพื่อเยี่ยมนายศิวรักษ์ ในเวลา 07.40 น. วันนี้ ( 2 ธ.ค. 2552 ) ยืนยัน ไม่ได้ ถูกกระทรวงการต่างประเทศ ยึดพาสปอร์ต หรือ พยายามขัดขวางไม่ให้เดินทางไปประเทศกัมพูชา ด้วยวิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดทั้งสิ้น เพราะพาสปอร์ต ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศเดินเรื่อง ทำให้ตั้งแต่เดินทางไปครั้งแรก นั้น ตนเองได้รับมอบคืนจาก เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่เดินทางกลับจากไปเยี่ยม นายศิวรักษ์ คราวก่อน แล้ว โดยการเดินทางไปกัมพูชา ครั้งนี้ ขอยืนยันว่าเป็นการเดินทางไปเป็นการส่วนตัว และไม่ใช่เพราะกระทรวงการต่างประเทศ ทำงานล่าช้า ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นั้น ตนเองไม่ทราบเพราะ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บอกเพียงว่า ได้จัดการทุกอย่างเอาไว้พร้อมทุกอย่างแล้ว เท่านั้น
ส่วนความคืบ หน้าในการยื่นเรื่องของประกันตัว นายศิวรักษ์ นั้น ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งมาว่า ได้เตรียมหลักทรัพย์ 50,000 - 200,000 บาท เอาไว้สำหรับการยื่นขอประกันนายศิวรักษ์ พร้อมหมดแล้ว
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มั่นใจ การออกมาแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดของ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ของกัมพูชาที่มีต่อรัฐบาลไทย ครั้งล่าสุด ซึ่งได้มีการพูดโจมตีนายกรัฐมนตรี และ นายกษิต ภิรมย์ อย่างรุนแรงนั้น ไม่น่าจะมีผลใด ๆ ต่อการพิจารณาคดีของนายศิวรักษ์ หรือ จะมีผลอะไร ต่อการยื่นคำร้องขอประกันตัวนายศิวรักษ์ ที่ล่าสุด ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้เตรียมที่จะยื่นเอกสารเพิ่มเติม ในเรื่องที่นายศิวรักษ์ มีปัญหาเรื่องสุขภาพ จากการที่ป่วยเป็นโรคหอบหืด ซึ่งมีเอกสารหลักฐานระบุชัดเจนว่า การที่ป่วยเป็นโรคนี้เกิดจากกรรมพันธุ์ในครอบครัว ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิต ไปให้ศาลกัมพูชาได้พิจารณา ในเวลา 14.00 น. วันศุกร์ที่ 4 ธ.ค.2552 นี้ ซึ่งตนเองเชื่อมั่นว่าน่าจะมีเหตุผลหนักแน่นเพียงพอที่จะทำให้นายศิวรักษ์ ได้ประกันตัว ส่วนในการเปิดพิจารณาคดีของนายศิวรักษ์ นัดแรกในวันที่ 8 ธ.ค. นั้น ล่าสุดทราบว่าด้วยเหตุที่คดีดังกล่าวไม่ได้มีพยานหลักฐานเพิ่มเติม จึงอาจจะทำให้ศาลมีคำพิพากษาตัดสิน ได้ในวันดังกล่าวเลย
ที่มา ไทยรัฐ