แม่ทัพภาคที่ 1 เผย พบซากเฮลิคอปเตอร์พระยาเสือ ที่ตกในจังหวัดเพชรบุรีแล้ว ล่าสุดพบศพผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 นาย สั่งเร่งลำเลียงศพกลับวันนี้ คาดเครื่องชนกับภูเขาก่อนลงจอด หลังเผชิญกับลมพายุและฝนที่ตกอย่างหนัก ยันไม่มีรายงานการปะทะกับชนกลุ่มน้อยก่อนเฮลิคอปเตอร์ตก...

เมื่อวัน ที่ 17 ก.ค. พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวถึงการติดตามหาเฮลิคอปเตอร์ ของ ฉก.ทัพพระยาเสือ กรมทหารราบที่ 19 ที่ประสบอุบัติเหตุชนเขาตก และหายไปในป่าบริเวณต้นน้ำเพชร บนเทือกเขาตะนาวศรี เขตรอยต่อระหว่าง จ.เพชรบุรี และ จ.ราชบุรี ขณะเดินทางเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่เดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจจับกุมผู้บุกรุกและลักลอบทำลาย ทรัพยากรธรรมชาติ ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ล่าสุด พบซากเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว และพบผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 นายแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าศพใครเป็นใคร คงต้องนำศพกลับไปพิสูจน์อีกครั้ง โดยการลำเลียงศพออกจากบริเวณดังกล่าวนั้น ดำเนินการได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ป่าเขา ซึ่งเบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามลำเลียงศพทั้งหมด ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ออกมาจากพื้นที่ป่่าโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป ส่วนสาเหตุการตกของเฮลิคอปเตอร์ลำนี้ คาดว่าน่าจะชนกับเขาขณะลงจอด เนื่องจากต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวนและลมพายุ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้เจ้าหน้าที่จะรีบเข้าไปสำรวจ เพื่อเร่งหาสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากอะไร

 

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่่าวว่า มีเสียงปืนดังขึ้นในภาคพื้นดินก่อนเฮลิคอปเตอร์ตก แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ แต่ได้รับรายงานว่า ก่อนเฮลิคอปเตอร์จะตก ได้ยินเสียงเครื่องปะทะกับภูเขา และน่าจะมาจากสภาพอากาศที่เลวร้าย มากกว่าเกิดการปะทะกับกองกำลังของชนกลุ่มน้อย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าบริเวณดังกล่าว ทางไทยไม่เคยมีเหตุปะทะกับทหารพม่าหรือชนกลุ่มน้อย แต่อาจจะมีการจับกุมชนกลุ่มน้อยที่ลักลอบเข้าประเทศไทยบ้าง

เมื่อ ถามว่า สาเหตุที่เฮลิคอปเตอร์ตก น่าจะมาจากสภาพเครื่องยนต์ที่เก่าหรือไม่  พล.ท.อุดมเดช กล่าวว่า จากการตรวจสอบ พบว่าเครื่องยนต์ของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ได้มีการเปลี่ยนมาแล้วครั้งหนึ่ง และได้ปฏิบัติบำรุงตามกฎระเบียบอยู่ตอดเวลา ซึ่งที่ผ่านมาก็สามารถใช้ปฏิบัติงานได้ดี โดยไม่มีปัญหาอะไร

 

รายชื่อทหารผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 นาย ได้แก่ 1. พ.ต.กิติภูมิ เอกพันธ์ นายทหารฝ่ายแผนยุทธการหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ กองกำลังค่ายสุรสีห์ พล.ร.อ.9 2. พ.ต.เกียรติศักดิ์ จีนเอี่ยม นักบินที่ 1 3. ร.ท.ปรัชญา นวลศรี นักบินที่ 2 4. จ.ส.อ.รังสรรค์ ชลสายบัว ช่างเครื่องที่ 1 และ 5. จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงษ์นุ่มกูล ช่างเครื่องที่ 2

ขณะ เดียวกัน เมื่อเวลา 08.30 น. วันเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ AS-350 B2 หมายเลข ทส.1114 จากสำนักการบินกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งหน้าไปยังเขาพะเนินทุ่ง พิกัดที่ NQ-397177 เพื่อส่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไปโรยตัวลงเดินเท้าเป็นชุดแรก เข้าไปเคลียร์พื้นที่ทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ยังติดอยู่ภายในป่าทันทีที่ฟ้าเปิด พร้อมกันนี้ยังได้เตรียมนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 นาย ออกจากจุดเกิดเหตุไปพักรอการตรวจพิสูจน์ที่หน่วยพิทักษ์ป่า กจ.19 เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งมีพื้นที่ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ใกล้ที่สุด หากจากจุดเกิดเหตุราว 15 กม.

 

 

ขณะที่ นายสุริยนต์ โพธิบัณฑิต ผช.หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ภารกิจที่จะเข้าไปค้นหาร่างผู้สูญหายที่บ้านห้วยแม่เหล็ก ต้นน้ำเพชรบุรี พิกัดที่ NQ-254127 ห่างจากหน่วย กจ.19 (เขาพะเนินทุ่ง) ประมาณ 15 กม. ขณะนี้สภาพอากาศยังไม่เอื้ออำนวย ทางชุดช่วยเหลือที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าชุดลาดตระเวน ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จำนวน 30 นาย เตรียมพร้อมปฏิบัติการเดินเท้าเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ โดยจะประสานกับกำลังทหารจาก ฉก.ทัพพระยาเสือ ที่เตรียมพร้อมอยู่ที่จุดบ้านกร่างอีก 30 นาย เพื่อร่วมเข้าไปพิสูจน์ทราบ ทั้งนี้ ได้มีการปรับแผนที่จะใช้เฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลำเลียงกำลังไปส่งในจุดที่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุดในระยะทางประมาณ 4 กม. จากนั้นจะใช้การเดินเท้า โดยแบ่งกำลังส่วนหนึ่งสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว เพื่อเตรียมพร้อมในการขนส่งลำเลียง

 

 

นอก จากนี้มีรายงานข่าว ล่าสุดว่าชุดลาดตะเวนที่ 5 ที่ปฏิบัติการอยู่ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุที่สนามเฮลิคอปเตอร์ ช่องทางต้นน้ำเพชรบุรี ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 300 เมตร ซึ่งมีกำลัง 7 นาย ประกอบด้วยทหารจาก ฉก.ทัพพระยาเสือ 2 นาย จาก ร้อย คร.กกล.สุรสีห์ 3 นาย และร้อย ตชด.144 อีก 2 นาย ได้แบ่งกำลัง 3 นาย เฝ้าสนามจอดเฮลิคอปเตอร์ ส่วนอีก 4 นาย เข้าไปเฝ้าที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตก และได้มีการรายงานประสานงานกับศูนย์อำนวยการร่วมทราบ แต่ปรากฏว่า เริ่มเกิดปัญหาเนื่องจากแบตเตอร์รี่วิทยุสื่อสารของชุดลาดตระเวนที่ 5 เหลือน้อยมาก และอาจจะขาดการติดต่อ จึงทำให้ศูนย์อำนวยการร่วมเร่งภารกิจในการส่งกำลังลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน

http://www.thairath.co.th/content/region/186984