ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
(นี่คือข้อเท็จจริง ที่ประชาชนมาร้องเรียนต่อผมและได้ให้สัมภาษณ์ที่ชลบุรีครับผม) รถตรวจการณ์บริษัทรับเหมาชื่อดังประเทศไทยแกล้งชาวบ้านตัดหน้าเบียดเสียหลัก 6 ชีวิตหวิดดับ ร้องสื่อมวลชนอยากให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้อย่างชัดเจนว่าแกล้งรถชาวบ้าน แต่ตำรวจไม่สนใจ
ภาพวงจรปิดช่วงเวลา 14.50 น.วันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา น.ส.สุมนา อุดมมั่นถาวร อายุ 45 ปี ผู้จัดการแผนกจัดซื้อจัดหาแห่งหนึ่ง พร้อมด้วยเพื่อนๆ รวมทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วยชาย 1 คน หญิง 4 คน และเด็กหญิง 1 คน ได้ขับรถเก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 4 กจ 5258 กรุงเทพฯ กลับจากเดินทางไปไหว้พระและแวะเที่ยวตามถนนที่วิ่งผ่าน ก่อนเกิดเหตุได้วิ่งมาตามถนนสาย 304 อำเภอวังน้ำเขียว - อำเภอนาดี ช่วงโรงเรียนร่มเกล้า เลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลานมาประมาณ 2 กิโลเมตร มุ่งหน้า อำเภอกบินทร์บุรี ขณะนั้นได้มีรถกระโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 1 ฒพ 8894 กรุงเทพฯ โดยติดสติ๊กเกอร์ที่กระบะท้ายว่า "รถตรวจการณ์" และที่กระจกหลังว่า "Road Safety Audit" ความหมายคือรถตรวจความปลอดภัยทางถนน ปรากฏว่าได้ขับมาด้วยความเร็วสูงแซงซ้ายขึ้นมาและปาดหน้า หลังจากนั้นไม่ยอมให้แซง พอวิ่งมาได้สักระยะหนึ่งรถเก๋งพยายามที่จะแซงขวา ปรากฏว่ารถกระบะตรวจการณ์ไม่ยอมให้แซง ประกอบกับเป็นช่วงโค้ง รถเก๋งจึงได้หักหลบเพราะเกรงว่าจะเกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้นและเสียหลักพุ่งลงไปข้างทางทำให้รถพลิกคว่ำเป็นเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คน และสาหัส 1 คนได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง และยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชลบุรี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 59 น.ส.สุมนาจึงได้ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนอยากให้ตำรวจทำงานตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งกล่าวว่า วันที่เกิดเหตุแค้นใจมาก เนื่องจากรถคันดังกล่าวติด "Road Safety Audit" ความหมายคือรถตรวจความปลอดภัยทางถนน แต่ทำไมขับรถไม่ระมัดระวังความปลอดภัย ที่สำคัญยังขับรถกวนโทสะอีกด้วย ช่วงที่จะออกจากอุทยานแห่งชาติทับลานก็ไม่ได้ขับรถไปปาดหน้าใครก็ขับมาด้วยดี แต่พอรถกระบะขับแซงหน้าก็ไม่ยอมให้แซง จนกระทั่งเกิดอุุบัติเหตุ หลังจากนั้นตำรวจก็มารวดเร็วทันใจ แต่กลับแจ้งว่ารถยางแตกตกลงไปข้างทาง แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่เป็นเพราะรถกระบะขับขวางทางไม่ยอมให้แซง จึงต้องหักหลบทำให้เสียหลักตกถนน
"พอดีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ตัวการที่ทำให้รถตกถนนในครั้งนี้คือ ชายตัวอ้วน และตัวผอม กำลังถ่ายภาพอยู่และเป็นคนของบริษัทรับเหมารายใหญ่ของประเทศไทยจึงได้เดินไปต่อว่าติดรถเซฟตี้แต่เกือบทำให้ 6 ชีวิตตายหมดแล้ว ทำให้คนที่ไปต่อว่าตอบกลับมาว่าเห็นกล้องวงจรปิดแล้วก็จะรู้ หลังจากนั้นได้นำรถกระบะไปจอดที่โรงพัก เหมือนกับจะไปแจ้งความว่าเราขับรถไปชน แต่ความจริงอยู่ในคลิปกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในรถหมดแล้ว" น.ส.สุมนากล่าวพร้อมทั้งเสริมอีกว่า วันที่ไปแจ้งความอยากให้ตำรวจนำคนขับรถกระบะไปตรวจปัสสาวะ แต่อ้างว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจจะเป็นคนตัดสินใจ ทั้งที่ฝ่ายเราพร้อมจะให้ตรวจสอบ นอกจากนี้ฝ่ายรถกระบะยังเอาคนแก่ๆ อ้างว่าเป็นคนขับรถมาแสดงตัว อายุ 59 ปี ทั้งที่ไม่น่าเป็นจะเป็นไปได้เพราะขับรถเหมือนวัยรุ่น ที่สำคัญหลังเกิดเหตุไม่มีตำรวจไปสอบสวนที่โรงพยาบาล เมื่อกลับมาที่โรงพักพบตำรวจอยู่เพียงคนเดียวที่ทำบันทึกประจำวัน ทั้งโรงพักไม่มีตำรวจไม่รู้ว่าเป็นวันอาทิตย์หรือเปล่าตำรวจจึงไม่ทำงานกัน จึงอยากจะขอร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวให้ตำรวจออกมารับผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นด้วยและให้ความเป็นธรรมกับพวกตนด้วย'
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|