ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
17.45 น. วันที่ 7 ต.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล สนธิกำลังตำรวจ เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 131/524 ชั้น 14 อาคารดี เบ็ล อเวนิว1 คอนโดมิเนียม พระราม 9 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. ภายหลังได้รับการประสานข้อมูลจากรัฐบาลประเทศเกาหลีใต้ ผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีผู้ต้องหามีหมายจับตำรวจสากล ชาวเกาหลีใต้ในคดีเป็นแอดมินเว็บเผยแพร่และครอบครองสื่อลามกเด็กเพื่อการค้า โดยสามารถจับกุมตัว นายคอง ฮุน ยัง ( Mr.Kyounghun Yang ) อายุ 37 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ชื่อ http://892bam.comแอดมินเพจ ที่เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร โดยมีสมาชิกเข้าชมกว่า 100 ล้านคน พร้อมตรวจยึดของกลางคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก 2 เครื่อง ฮาร์ทดิส ซึ่งมีภาพ คลิปลามกอนาจาร จำนวน 1 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มธนาคารประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเครื่องรับรหัสโอทีพี จำนวน 2 บัญชี โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสดสกุลเงินบาทไทยจำนวน 1,300,000 บาท เงินสดสกุลวอนเกาหลี 4 ล้านวอน รถยนต์ 1 คัน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้รับการประสานจากตำรวจสากล ว่ามีผู้ต้องหาคดีนำเข้า ส่งออก เผยแพร่ สู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะลามกและสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการค้า ของประเทศเกาหลีใต้ หลบหนีมาซ่อนตัวในไทย จึงทำการสืบสวน จนทราบว่านายคอง ฮุน ยัง พักอยู่ที่คอนโดดังกล่าว และจากการตรวจสอบข้อมูลในโน๊ตบุ๊คและฮาร์ทดิส พบภาพถ่ายและภาพสื่อลามกอนาจารจำนวนมากคลิปวิดีโอบางส่วนเป็นคลิปที่นายคอง ฮุน ยัง แอบถ่ายด้วยตนเองทั้งนี้ยอมรับว่าตนเองเป็นแอดมิน เวปไซด์892bamซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์ เป็นsexdosiทำหน้าที่อัพโหลดข้อมูลสื่อลามกอนาจารให้สมาชิกรับชม ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 3 หมื่นคน มีรายได้จากการที่สมาชิกคลิ๊กดูสื่อลามกอนาจารที่อยู่ในเวปไซด์ประมาณปีละ 3-6 ล้านบาท โดยจ่ายค่าเช่าเดือนละ 36,000 บาท เช่ามาแล้วประมาณ 5 เดือน และจากการตรวจสอบยังพบว่านายคอง ฮุน ยัง มีประวัติเคยเดินทางเข้ามายังประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 รวมทั้งสิ้น 45 ครั้ง ซึ่งนายคอง ฮุน ยัง ได้ถูกเพิกถอนการอนุญาติให้อยู่ในราชอาณาจักรแล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคม ก่อนจะมาติดตามจับกุมได้ในวันนี้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปควบคุมที่ห้องกักกันผู้ต้องหาที่ สถานที่ควบคุมสตม. ทุ่งสองห้อง ส่วนของกลางจะนำส่งตรวจพิสูจน์ว่ามีการกระทำผิดในประเทศไทยหรือไม่ หากพบว่ามีการเผยแพร่สื่อลามกกับเด็กต่ำกว่า 15 ปีก็เข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ หากไม่พบว่ามีการกระทำผิดในไทยก็จะพลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป
หลังจากนี้ 1 เดือน บุคคลที่โอเวอร์สเตย์ จะทำการกวาดล้างทั้งหมดโดยการนำข้อมูลจาก สตม. มาทำการตรวจสอบใหม่ทั้งหมด และจะสแกนทุกพื้นที่ ก่อนจะผลักดันเนรเทศออกนอกประเทศต่อไป ซึ่งบุคคลเหล่านี้ยังไม่ได้มีเพียงรายนี้รายเดียวเท่านั้น ในส่วนการอยู่ต่อได้กำชับไปยังทุกด่านตรวจว่าจะต้องเข้มงวดมากขึ้น ส่วนในการตรวจค้นคอนโดเพื่อตรวจสอบต่างชาติต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจเอกสารแล้วถูกต้อง อีกส่วนเป็นผู้ที่ไม่มีเอกสาร เบื้องต้นจะทำการตรวจและจับกุมซึ่งหน้า และเมื่อวานนี้มีการเพิกถอนการอยู่อาศัยบุคคลต่างด้าวไป 37 ราย คือผู้ที่ไม่อยู่ตามที่พักอาศัยจริง อยู่แล้วติดต่อไม่ได้ หลังจากนี้จะต้องตามตัวทั้ง 37 รายมาดำเนินคดีก่อนผลักดันออกนอกประเทศ ต่อไป
ข้อมูลข่าว:
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|