ผมใช้ถนนวิภาวดี (ทางคู่ขนาน) ฝั่งขาเข้าจากแยกหลักสี่เข้าเกษตร เช้าวันใดที่รถติดยาวจากสะพานกลับรถหน้าปั๊มปิโตรนาสจนถึงสโมสรตำรวจ แสดงว่า
มีตำรวจจราจรยืนห้ามรถอยู่ที่ตีนสะพานกลับรถ โดยปล่อยให้รถบนสะพานที่มี 2 ช่องทางวิ่งไป แต่รถทางคู่ขนานมี 3 ช่องทางถูกห้าม ทั้งๆ ที่ข้างหน้าทางเชื่อมนี้มีช่องทางได้ 4 เลน 3 เลนไม่ได้ไป 2 เลนได้ปล่อย ปล่อยข้างหน้าว่างๆ ไว้
ช่วงเช้าๆ เร่งด่วน การห้ามรถ 3-4 นาที ก็ทำให้รถติดสะสมยาวเป็นกิโล ถ้าวันใดไม่มีตำรวจมาห้ามรถ รถก็จะระบายไปเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่า ตำรวจคิดอย่างไร ห้าม 3 เลน ระบาย 2 เลน ผมอึดอัด หงุดหงิดมาก ที่เห็นข้างหน้าว่าง แต่ไม่ปล่อยระบายรถ รถที่ลงจากสะพานกลับรถ ใช่ว่าทุกคันจะวิ่งเข้าทางคู่ขนานทั้ง 2 เลนของสะพาน แต่มีมากที่จะวิ่งออกขวาเข้าทางหลัก จึงทำให้ข้างหน้าว่างเปล่ามาก เมื่อตำรวจปล่อยรถทางคู่ขนาน 3 เลน ท่านก็ไม่ได้กันรถบนสะพาน ปล่อยให้ไปแย่งกันเอาซ้าย ความชุลมุนเกิดอีก รถทางคู่ขนาน 3 เลนก็ต้องชะลอตัวติดยาว
อีกประการหนึ่งถนนวิภาวดีช่วงนี้ในเวลาสายถึงบ่ายเย็น จะมีรถจักรยานยนต์วิ่งย้อนศร เพื่อหลบเข้าซอยต่างๆ แทนการอ้อมไกล อันตรายมากครับ
วิสุทธิ์
ตอบ
พ.ต.ท.ชินกร ใจกล้า สว.จร.สน.วิภาวดี ชี้แจงว่า สาเหตุชั่วโมงเร่งด่วน ตำรวจห้ามรถทางคู่ขนาน 3 เลน แล้วปล่อยให้ขึ้นสะพานกลับรถ(ยาคลู) ไป 2 เลนเนื่องจากรถขาเข้าจากวิภาวดีรังสิตที่เลี้ยวซ้ายไปรัชวิภาแยกรัชโยธิน ติดต่อเนื่องมาจนถึงทางลงสะพานกลับรถ จากสาเหตุการเร่งระบายรถจากทางคู่ขนาน จำเป็นต้องเร่งระบายรถ ถ้าระบายรถลงสะพานไม่ได้ จะทำให้การจราจรขาออกมีปัญหา ติดพันไปถึงลาดพร้าว ยาวไปถึงวัดสเมียนนารี
ตำรวจจำเป็นต้องกัก และตัดสลับกัน โดยดูจากปริมาณรถและท้ายแถว เพื่อผ่อนคลายรถในถนนวิภาวดีขาออก
ส่วนการจัดการรถที่ชอบย้อนศรเข้าซอยนั้น ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ จะฉวยโอกาสฝ่าฝืนตอนตำรวจไม่อยู่ เนื่องจากต้องกลับรถไกลที่ตึกโตชิบาและขึ้นสะพานยูเทิร์นอีกครั้งหนึ่ง ตำรวจจับกุมอย่างต่อเนื่องมาตลอด เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
ลุงแจ่ม
ข้อมูลจาก
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม