เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังร่วมหารือกับตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศุลกากร ว่ากระทรวงพาณิชย์ที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องการค้าจะร่วมมือกับหน่วยงานดังกล่าวทำโมบายยูนิต หรือออกไปตั้งโต๊ะให้บริการตรวจสอบธนบัตรปลอมในตลาดสดและย่านการค้าต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องธนบัตรปลอมให้แก่ ประชาชน เริ่มนำร่องที่ตลาดนัดจตุจักรในวันที่ 27 ธ.ค.เป็นวันแรก จากนั้นจะขยายไปต่างจังหวัดทั่วประเทศ โดยสั่งให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจออกให้บริการตรวจสอบธนบัตรปลอมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
ที่ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ สายวันเดียวกัน นายพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานปฏิบัติการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานปล่อยคาราวาน “โครงการคาราวานมั่นใจกับกรุงไทย ใช้ธนบัตรจริง” เพื่อสร้างการรับรู้และให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าและประชาชน โดยธนาคารจัดรถโมบาย 10 คัน พร้อมพนักงาน 200 คน ออกให้บริการตรวจสอบและแนะนำการดูธนบัตรกับลูกค้าและประชาชน แจกแผ่นพับ และคู่มือวิธีสังเกตธนบัตรปลอมให้กับประชาชน
นายพงศธรกล่าวว่า ยอมรับว่าเดือน พ.ย.-ธ.ค.พบธนบัตรปลอมฉบับละ 1,000 บาท เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ฉบับ จากต้นปีถึง ต.ค.ที่เฉลี่ยอยู่ไม่ถึง 100 ฉบับต่อเดือน ขณะที่ธนาคารมียอดธนบัตรหมุนเวียนต่อเดือนอยู่กว่า 100 ล้านฉบับต่อเดือน และธนบัตรปลอมที่พบส่วนใหญ่จะพบในแถบตะเข็บชายแดน อย่างไรก็ตามธนาคารใช้เครื่องคัดแยกธนบัตรดีธนบัตรเสีย และตรวจจับธนบัตรปลอมก่อนส่งสาขาและบรรจุในเครื่องเอทีเอ็ม รวมทั้งติดตามประเภทธนบัตรปลอมและนำมาทดลองกับเครื่องคัดแยกธนบัตรอย่างสม่ำเสมอ ผลการทดสอบพบว่าธนบัตรปลอมไม่สามารถเข้าสู่ระบบของธนาคารได้ จึงมั่นใจว่าธนบัตรที่เข้าสู่ระบบเป็นธนบัตรจริงทุกฉบับ
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ในระบบของธนาคารออมสินยืนยันว่าไม่มีธนบัตรปลอมปะปนอยู่ เพราะที่ผ่านมาธนาคารได้ตรวจสอบและมีระบบป้องกันเป็นอย่างดี อีกทั้งสั่งให้พนักงานของธนาคารตรวจตราอย่างเข้มงวดและให้คำแนะนำกับประชาชน ทั้งนี้บริเวณตะเข็บชายแดน เช่น แม่สาย เชียงใหม่ และเชียงราย ไม่พบธนบัตรปลอมผ่านเข้ามาในระบบของธนาคาร อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าปฏิเสธที่จะรับธนบัตรใบละ 1,000 บาท และ 500 บาท ทางธนาคารก็พร้อมที่จะเพิ่มธนบัตรใบละ 100 บาท เข้าสู่ระบบธนาคารและตู้เอทีเอ็ม
ขณะที่หลายจังหวัดตื่นตัวออกบริการตรวจธนบัตรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายรณรงค์ เส็งเอี่ยม คลังจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และพนักงานธนาคารต่างๆนำอุปกรณ์ตรวจธนบัตรปลอมรังสีเหนือม่วง (แสงแบล็กไลต์) ให้บริการประชาชนบริเวณถนนคนเดินและหน้าตลาดสด เขตเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน โดยมีชาวบ้านนำธนบัตรชนิด 100 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท มาตรวจสอบกันมาก นอกจากนี้บรรดานักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสลมหนาวต่างนำแบงก์มาเข้าเครื่องตรวจเพื่อความแน่ใจ ทั้งนี้ นายรณรงค์กล่าวว่า ในฤดูกาลท่องเที่ยวทุกปีมักมีแบงก์ปลอมมาใช้ในกลุ่มผู้ประกอบการและร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก ยิ่งช่วงนี้มีข่าวระบาดมาก จึงต้องเพิ่มความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป
ที่ จ.แพร่ นายสานิต เขมวัฒนา นายอำเภอสูงเม่น ร่วมกับ พ.ต.อ.ธนยินทร์ เทพรักษา ผกก. สภ.สูงเม่น นำเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำประชาชนเกี่ยวกับข้อสังเกตในการตรวจสอบแบงก์ปลอมบริเวณวัดศรีดอก ต.หัวฝาย อ.สูงเม่น โดย พ.ต.อ.ธนยินทร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจรับแจ้งว่ามีธนบัตรปลอมใบละ 1000 บาท ระบาดเข้ามาในพื้นที่ จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบที่มาที่ไป หากประชาชนสงสัยขอให้แจ้งตำรวจได้ เพื่อจะได้สืบหาต้นตอของแบงก์ปลอม
ส่วนที่ จ.ปทุมธานี นายประภัสร์ หนุนภักดี ผอ.ฝ่ายปฏิบัติการผลิตภัณฑ์และบริการ บมจ.กรุงไทย และนายสุพจน์ คงมา ผจก.ธนาคารกรุงไทย สาขาพิทักษ์สันติ (ตลาดปทุมธานี) จ.ปทุมธานี นำรถโมบายและเครื่องตรวจสอบธนบัตรไปบริการที่ข้างธนาคาร โดยนายสุพจน์กล่าวว่าสาขาธนาคารกรุงไทยแห่งนี้ มีลูกค้าใช้บริการมาก ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้า เมื่อมีข่าวแบงก์ปลอมทำให้เกิดความวิตกว่าจะได้รับแบงก์ปลอม จึงนำเครื่องตรวจธนบัตรมาตั้งไว้ด้านข้างธนาคารไว้คอยตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ
สายวันเดียวกัน พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ สว.สส. สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เดินทางไปที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาตลาดท่าม้า ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง หลังมีลูกค้านำธนบัตรปลอมฉบับละ 1000 บาท มาซื้อของ โดย น.ส.จิราพร วัฒนา อายุ 27 ปี พนักงานระบุว่า ช่วงตีห้าที่ผ่านมามีลูกค้าเป็นชายอายุราว 25 ปี ลักษณะอ้วน แต่งตัวดี นำธนบัตรฉบับดังกล่าวมาซื้อสินค้า พนักงานไม่ได้เฉลียวใจและตรวจสอบไม่ละเอียด มาทราบอีกทีว่าเป็นแบงก์ปลอม หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจนำกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ เพื่อหาตัวลูกค้าคนดังกล่าวมาสอบสวนต่อไป
ที่ บช.ภ.3 อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อเวลา 11.00น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ร่วมกันแถลงจับกุมแก๊งปลอมธนบัตรรายใหญ่รวมผู้ต้องหา 3 คน คือนายวิทยา หรือเจ๋ง บัวรอด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 260 หมู่ 2 ต.หนองม่วง อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี นายสนอง หรือไมค์ เงินจันทร์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/1 หมู่ 4 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก และนายดำรงชัย หรือเด มะยมหิน อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/4 หมู่ 16 ต.พรานกระต่าย อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พร้อมของกลางธนบัตรปลอมใบละ 1000 บาท 46 ฉบับ และอุปกรณ์ผลิตธนบัตรปลอมจำนวน 17 รายการ เช่น แท่นพิมพ์ กระดาษชนิดมันที่ใช้พิมพ์ธนบัตรปลอม 800 แผ่น เป็นต้น
พล.ต.ท.กฤษฎา กล่าวว่า การจับกุมแก๊งปลอมแปลงธนบัตรในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเครือข่ายใหญ่และสามารถปลอมแปลงธนบัตรได้เหมือนของจริง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากตำรวจ สภ.โนนสูง จ.นครราชสีมา จับกุมผู้ต้องหา 3 คน ก่อนหน้านี้คือนายธงชัย ประเสริฐ นายสมบัติ บุญจรัญ และนายสัญชิต เทศนา ที่บริเวณแยกตลาดแค ต.ตลาดแค อ.โนนสูง ก่อนขยายผลจับกุมเครือข่ายซึ่งเป็นโรงงานผลิตธนบัตรปลอมได้ทั้งหมดที่โรงพิมพ์เอ็มบางกอก เลขที่ 4032/2 ถนนจตุรทิศ เขตดินแดง กทม. พร้อมยึดอุปกรณ์ที่ใช้ในขบวนการผลิตแบงก์ปลอมจำนวนมาก
ด้านนายดำรงชัย หัวหน้าแก๊งพิมพ์ธนบัตรปลอม รับสารภาพว่า เคยมีอาชีพเป็นช่างแยกสี โรงพิมพ์แห่งหนึ่ง ก่อนออกมาร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมรับจ้างนายทุนคนหนึ่ง ในกรุงเทพฯ ลักลอบปลอมแปลงธนบัตรรัฐบาลไทยมากว่า 4 เดือนแล้ว โดยอาศัยโรงพิมพ์เอ็มบางกอก ซึ่งมีนายสนอง ผู้ต้องหาอีกคนเป็นเจ้าของเป็นแหล่งผลิต โดยทำเฉพาะธนบัตรใบละ 1000 บาท ตามใบสั่งของลูกค้า จำหน่ายใบละ 200 บาท ที่ผ่านมามีการพิมพ์ส่งลูกค้าไปแล้วกว่า 10,000 ฉบับ แต่ละใบจะเหมือนของจริงถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น. กล่าวถึงธนบัตรปลอมที่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้ และมีการจับกุมแหล่งผลิตใน กทม.ว่า ด้านการข่าวทราบว่าในพื้นที่กรุงเทพฯมีการลักลอบผลิต แต่เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เบื้องต้นทราบเพียงว่าอยู่ในพื้นที่ บก.น.1 และ บก.น.2 และหากประชาชนทราบ หรือรู้เบาะแสแหล่งผลิตธนบัตรปลอมสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 191
ส่วนกรณีตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก จับกุมนาย บังลัง กมลพิราม และ น.ส.นา (นามสมมติ) อายุ 17 สองสามีภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส นำธนบัตรปลอมใบละ 1000 บาท จำนวน 43 ฉบับ ไปฝากธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยห้างเทสโก้โลตัส อ.แม่สอด ปะปนกับธนบัตรของจริง รวม 400,000 บาทนั้น ล่าสุดนายบังลังยังคงยืนกรานปฏิเสธอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นธนบัตรปลอม หลังสอบปากคำพนักงานสอบสวนคุมตัวไปยื่นฝากขังต่อศาลจังหวัดแม่สอดแล้ว พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จ ขณะที่ น.ส.นา ซึ่งยังเป็นเยาวชน ญาติยื่นประกันตัวไปแล้ว
ด้าน ร.ต.ท.ปรัชญ์ เพชรพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี น.ส.ราตรี หมั่นมา อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่แขวงการทางกระบี่ กดเงินจากตู้เอทีเอ็มธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ที่สาขาย่อยห้างเทสโก้โลตัส สาขากระบี่ ตู้ละ 600 บาท และพบธนบัตรปลอมใบละ 500 บาท 1 ใบ สภาพเก่าและมีเทปใสปิดรอยขาดว่า คดียังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร หลังจากธนาคารทั้ง 2 แห่ง ยังไม่พร้อมให้ทดลองใส่ ธนบัตรใบดังกล่าวในตู้เอทีเอ็ม โดยทางธนาคารไทยพาณิชย์แจ้งว่า ให้ตำรวจทำหนังสือไปยังผู้จัดการธนาคารเพื่อส่งต่อไปยังสำนักงานใหญ่ ส่วนธนาคารกรุงไทยก็ต้องรอเจ้าหน้าที่จากศูนย์ที่ จ.สุราษฎร์ธานี มาตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนของ น.ส.ราตรีได้สอบปากคำเสร็จแล้วยังคงยืนยันในความบริสุทธิ์ว่ากดจากตู้เอทีเอ็มจริง ไม่ได้สร้างข่าวใดๆ
ขอขอบคุณข่าวจาก
|