ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
จากกรณีที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย นำโดยนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพฯ และสมาชิกจำนวน 25 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการย้ายสายการบินไทยจากท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 29 มีนาคม นั้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (10 มีนาคม) กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้เปิดเวทีด้านหน้าอาคาร 9 สำนักงานใหญ่บริษัทการบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต นำโดย นางแจ่มศรี กล่าวโจมตีการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารการบินไทย เกี่ยวกับการย้ายการบินไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ โดยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวและเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มสายการบินเอกชน โดยเฉพาะสายการบินไทยแอร์เอเชียที่ต้องการกลับมาทำการบิน และมีการนำบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่พนักงานการบินไทยมาร่วมฟังด้วยประมาณ 100 คน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ได้เปิดเวทีกล่าวโจมตีการปฏิบัติงานของฝ่ายบริหารและคัดค้านการย้ายไปสนามบินสุวรรณภูมิอยู่นั้น กลุ่มสหภาพแรงงานการบินไทยอีกกลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มของนายสมศักดิ์ ศรีนวล อดีตประธานสหภาพการบินไทย ประมาณ 200 คน ที่รวมตัวกันอยู่บนถนนอีกฝั่งหนึ่งไม่ไกลกันนัก ได้ตะโกนขับไล่กลุ่มนางแจ่มศรีให้ออกไป และชูป้าย "แจ่มศรี Get Out" ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มหันมาเปิดศึกด่าทอกันเอง ก่อนที่กลุ่มของนายสมศักดิ์จะสลายการชุมนุมไป
โดย นางแจ่มศรี ได้เปิดเผยว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีระงับการย้ายการบินไทยไปสุวรรณภูมิ ขณะที่ดอนเมืองยังเปิดให้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) เท่ากับเป็นการตัดสิทธิสายการบินแห่งชาติในการแข่งขัน ขัดต่อนโยบายการแข่งขันเสรี ตอนที่การบินไทยย้ายกลับมาที่สนามบินดอนเมือง จนถึงขณะนี้สุวรรณภูมิก็ยังไม่เรียบร้อย แล้วจะย้ายกลับไปทำไมให้เกิดปัญหาอีก และที่ดอนเมืองขณะนี้ก็มี 2 สายการบินให้บริการอยู่ ซึ่งการบินไทยต้องอยู่ที่ดอนเมืองด้วย และที่ฝ่ายบริหารออกมาบอกว่าการย้ายกลับไปสุวรรณภูมิจะเป็นการลดต้นทุน ไม่รู้ว่าเป็นการลดต้นทุนตรงไหน
"สาเหตุที่สหภาพฯ คัดค้านเพราะคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทการบินไทยในระยะยาว แม้ว่าฝ่ายบริหารจะชี้แจงว่า การย้ายจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ปีละ 600 ล้านบาท แต่ในทางตรงข้ามฝ่ายบริหารกลับไม่พูดถึงรายได้ ที่สนามบินดอนเมือง โดยขอให้ฝ่ายบริหารชี้แจงรายละเอียด ที่มาของตัวเลขค่าใช้จ่ายก่อนที่จะตัดสินใจย้าย หากการย้ายเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมืองประหยัดค่าใช้จ่ายจริง ทำไมฝ่ายบริหารจึงปล่อยให้บริษัทดำเนินการที่สนามบิน ดอนเมืองเกือบ 2 ปี เท่ากับว่าสูญเงินไปแล้วกว่า 1,200 ล้านบาทโดยที่ไม่มีรายได้ ส่วนกรณีที่มีตัวแทนสมาชิกสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และกรณีที่มีกลุ่มสหภาพฯ บางส่วนต้องการขับไล่ตนเอง เป็นวิธีการของฝ่ายบริหารที่ใช้คนการบินไทยออกมาแสดงความขัดแย้ง เพื่อที่จะย้ายดอนเมืองได้สำเร็จ" นางแจ่มศรี กล่าว
ทางด้านนายภาคภูมิ พันธุ์รัตน์ แกนนำกลุ่มขับไล่นางแจ่มศรี กล่าวว่า ที่ขับไล่นางแจ่มศรีเพราะสมาชิกบางส่วนไม่พอใจการทำงานของนางแจ่มศรี โดยเฉพาะกรณีการจัดประชุมวิสามัญครั้งนี้ ที่ไม่ยอมขอมติที่ประชุมก่อนจะออกมาชุมนุมคัดค้านการย้ายจากสนามบินดอนเมือง เท่ากับว่าเป็นการหลอกลวงสมาชิกให้เข้าร่วมชุมนุมคัดค้าน ทั้งที่ยังไม่มีการหารือในรายละเอียดกันก่อน นอกจากนั้นนางแจ่มศรียังนำบุคคลจากภายนอกเข้าร่วมชุมนุม จนเกิดความวุ่นวายทั้งที่เป็นปัญหาภายในของการบินไทย ซึ่งกลุ่มจะดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบกับนางแจ่มศรีต่อไป
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันที่ 11 มีนาคมนี้ จะมีการหารือเรื่องการคัดค้านการย้ายการบินในประเทศของการบินไทย จากสนามบินดอนเมืองไปสนามบินสุวรรณภูมิ โดยจะให้กระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม เสนอข้อมูลเข้ามาควรทำอย่างไร แล้วดูว่าที่การบินไทยเสนอมาว่าเป็นการลดต้นทุนนั้นตัวเลขแท้จริงเป็นอย่างไร มีวิธีการอื่นหรือไม่ รวมถึงฟังเสียงผู้ใช้บริการ พนักงานว่าผลกระทบเป็นอย่างไร ต้องการให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นอาจจะลุกลามบานปลาย
ทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุดหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมนำเสนอข้อเรียกร้องจากฝ่ายบริหารการบินไทย เพื่อให้ย้ายเที่ยวบินในประเทศของการบินที่ให้บริการที่ดอนเมืองทั้งหมดกลับมาที่สุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมนี้ ซึ่งหลังจากนี้จะไม่มีเที่ยวบินภายในประเทศของการบินไทยให้บริการที่ดอนเมืองอีกต่อไป
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า การกำหนดการย้ายเที่ยวบินในประเทศกลับจากดอนเมืองนั้นเป็นไปตามผลประชุมเชิงปฏิบัติการของทุกฝ่ายที่มีมาก่อนหน้านี้ โดยมีผู้ประกอบการสายการบิน ผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และการบินไทยเข้าร่วม ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าหากจะทำให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบิน มีผู้โดยสารใช้บริการเต็มศักยภาพปีละ 100 ล้านคน ก็ต้องมีการใช้งานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างจริงจัง มีการเพิ่มผู้โดยสารที่ใช้บริการ
ส่วนข้อเสนอขอย้ายเที่ยวบินกลับสุวรรณภูมิก็มาจากข้อมูลของฝ่ายบริหารเอง หากมีการใช้ 2 สนามบินการบินไทยจะมีต้นทุนสูงขึ้น 640 ล้านบาท ไม่รวมต้นทุนอื่นๆ เช่น ค่าน้ำมัน และการใช้บุคลากรที่ไม่คุ้มค่า ขณะที่แต่ละเดือนมีรายได้จากค่าโดยสารจากเครื่องบินที่บินขึ้นลงที่ดอนเมือง เดือนละ 50 ล้านบาท หรือปีละ 600 ล้าบาท เห็นได้ชัดว่า หากยังให้บริการ 2 ที่ ก็ทำให้การบินไทยมีปัญหาขาดทุน
อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคม กล่าวด้วยว่า ในเมื่อผู้ประกอบการสายการบินและการบินไทยได้เสนอเรื่องมาเช่นนี้ หากกระทรวงคมนาคมไม่อนุมัติให้ย้ายเที่ยวบินกลับมาก็เท่ากับฝ่ายการเมืองไปแทรกแซงการบริหารของการบินไทย ส่วนประเด็นว่า สุวรรณภูมิจะพร้อมรองรับการเพิ่มเที่ยวบินอีกหรือไม่นั้น ผู้บริหารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ทอท.ยืนยันว่าพร้อมสามารถรองรับได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|