กระทั่งทำให้  ว่าที่ ร.ต.วัชรัตน์ บุญฤทธิ์ ปลัดอำเภอจะนะ หรือที่ชาวบ้านมักคุ้นกันในนาม “ปลัดเอ” ต้องพลีชีพสังเวยน้ำท่วม หลังนำกำลัง อส. 2 นาย และชาวบ้านอีกคนลงเรือไฟเบอร์ออกให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่บ้านเกาะท่า หมู่ 12 ต.นาหว้า ท่ามกลางกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก

 ย่ำค่ำของวันที่ 1 พฤศจิกายน ระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นที่บ้านเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ แต่ด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ผนวกกับท้องฟ้าที่มืดมิด มีสายฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปฏิบัติภารกิจบนผืนน้ำสีขุ่นเข้มเป็นไปด้วยความยากลำบาก

 กระทั่งเมื่อเรือล่องมาถึงคลองบ่อเล กระแสน้ำซัดเรือของคณะปลัดเอ จนไปปะทะกับขอบสะพานทางรถไฟ ส่งผลให้เรือล่ม เป็นเหตุให้ปลัดอำเภอคนนี้ จมหายไปกับกระแสน้ำนับแต่นาทีนั้น

 วันที่ 4 พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ก็พบร่างอันไร้วิญญาณของปลัดหนุ่มวัย 33 ปี ติดอยู่กับกอไม้ ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร ก่อนที่จะช่วยกันนำขึ้นสู่ฝั่ง พร้อมกับคลุมธงชาติท่ามกลางเสียงร่ำไห้ของชาวบ้าน กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของข้าราชการหนุ่ม ผู้อุทิศชีวิตช่วยประชาชนจนตัวตาย

 บรรจง ช่วยชู นายอำเภอจะนะ ในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของว่าที่ ร.ต.วัชรัตน์ ระบุว่า “ปลัดเอ” เป็นชาวสุราษฎร์ธานี นับเป็นคนหนุ่มไฟแรง มีความมุ่งมั่น และตั้งใจดีในการทำงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขของประชาชน แม้จะมาทำหน้าที่ในอำเภอแห่งนี้ไม่นาน ก็สามารถขึ้นแท่นไปนั่งในดวงใจของชาวจะนะได้อย่างไม่ยาก ด้วยเพราะการมีเอกลักษณ์เป็นคนขยันทำงานและเข้าถึงมวลชนเป็นอย่างดีนั่นเอง

 เช่นเดียวกับ นิธิ สมประสงค์ ปลัดอำเภอนาทวี จ.สงขลา เพื่อนสนิทร่วมรุ่นที่เข้าบรรจุเป็นราชการพร้อมกัน เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ทันทีที่ทราบข่าวการหายตัวไปขณะออกช่วยชาวบ้านจนเสียชีวิตของเพื่อนรักร่วมรุ่น ทำเอารู้สึกช็อกมาก
เพื่อนสนิทเล่าว่า ช่วงก่อนฝนตกหนักยังหารือกันเกี่ยวกับแนวทางป้องกันและบรรเทาภัยจากภาวะน้ำท่วม มาทราบข่าวการเสียชีวิตของเพื่อนรักระหว่างปฏิบัติหน้าที่แทบไม่อยากเชื่อ จนถึงนาทีนี้ยังรับไม่ได้กับการจากไปของข้าราชการหนุ่มผู้มุ่งมั่นช่วยเหลือประชาชน...กระทั่งนาทีสุดท้ายของชีวิต

“เราบรรจุเป็นข้าราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอพร้อมกันในวันที่ 18 พฤษภาคม 2552 ผมบรรจุที่ อ.นาทวี ส่วนปลัดเอบรรจุที่ อ.จะนะ เป็นแห่งแรก ทำให้เรามักมีโอกาสได้เจอและไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ เพราะนาทวีกับจะนะมีพื้นที่ติดต่อกัน ปลัดเอเป็นคนมีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ที่สำคัญเป็นคนพูดจริง พูดตรง จนเป็นที่รักของบรรดาเพื่อนๆ” ปลัดนิธิ กล่าว

ปลัดอำเภอนาทวี กล่าวต่อว่า เพื่อนรักผู้จากไปมักเกริ่นอยู่เสมอว่า ในฐานะคนรุ่นใหม่จะน้อมนำเอาพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาช่วยพัฒนาบ้านเมือง โดยเฉพาะ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ จะนะ นาทวี เทพา และสะบ้าย้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ตั้งแต่ปี 2547

นิชธิมา โกยวาณิชย์ หรือ “ตาล” อายุ 25 ปี หญิงอันเป็นที่รักของปลัดเอ ซึ่งมีแผนจะร่วมทางชีวิตด้วยกันโดยจะเข้าพิธีวิวาห์ในปี 2554 กล่าวทั้งน้ำตาว่า มีแผนจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน โดยตกลงกันว่าทันทีที่แฟนหนุ่มได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นหลักแหล่งประมาณปีกว่า ที่สำคัญปลัดเอพูดเสมอว่าชอบที่จะทำงานที่ อ.จะนะแห่งนี้ และจะตั้งใจทำงานเพื่อสะสมประสบการณ์บนเส้นทางราชการให้ดีที่สุด เพราะสภาพทางกายภาพของพื้นที่นี้มีความหลากหลายทั้งศาสนาและวัฒนธรรม จึงเป็นสนามบ่มเพาะความรู้ความสามารถได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เขาตั้งใจจะสร้างสุขให้แก่คนจะนะ และเอาความรู้ที่ได้จากการทำงานเป็นบรรทัดฐานให้แก่ชีวิต เนื่องจากเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังจากที่ต้องสูญเสียพ่อและต้องคอยดูแลแม่ด้วยตัวคนเดียวมานานหลายปี

 “พี่เอเป็นคนนิสัยดีมาก รักครอบครัว ซื่อสัตย์และอัธยาศัยดี ที่สำคัญเป็นคนตั้งใจทำงาน ก่อนหน้านี้ได้ขอไปบรรจุราชการในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่เนื่องจากแม่เป็นห่วงความปลอดภัยเลยขอร้องให้บรรจุที่ อ.จะนะ จะได้หมดห่วงได้ระดับหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องสูญเสียเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ” น้องตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอื้น
 แฟนสาวปลัดเอ บอกว่า ทันทีที่สอบผ่านและได้รับการบรรจุเป็นปลัดอำเภอเขาก็บอกแม่ และตนเองทันที แต่ก็ไม่วายที่ขอทำตามอุดมการณ์คือขอย้ายลงในพื้นที่สีแดงที่มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุร้ายรายวัน เพราะเขาต้องการดูแลสารทุกข์สุกดิบ ตลอดจนความปลอดภัยของชาวบ้าน ซึ่งตลอดเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ของเขา ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าสามารถเอาชนะใจมวลชนได้สำเร็จตามที่ตั้งเป้าเอาไว้

 “ตลอด 3 วันในการตามหาตัวพี่เอ ชาวบ้านเป็นร้อยต่างแยกย้ายก็ออกค้นหา แม้กระทั่งวันที่พบร่างอันไร้วิญญาณ ชาวบ้านมืดฟ้ามัวดินต่างกรูกันลงไปในน้ำเพื่ออุ้มร่างของปลัดเอขึ้นมาสู่ฝั่ง แค่นี้คงเพียงพอที่จะบอกได้ว่าวันนี้เขาได้กลายเป็นฮีโร่ของคนจะนะสำเร็จแล้ว” นิชธิมา กล่าว พร้อมยกมือปาดน้ำตาที่นองแก้ม

สุพิชฌาย์ รัตนะ

ข่าวจาก คมชัดลึก