หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ ผ้าพันคอราคาถูก ราคาส่ง เชียงใหม่ ลำพูน

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
ข่าวทั่วไป
เว็บบอร์ด » ข่าวทั่วไป
รายละเอียดของห้อง : ข่าวบันเทิง ข่าวกีฬา ข่าวน่าสนใจทั่วไป
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
กษิตปากดี ด่ารัสเซีย-จีน-อินเดีย

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
กษิตปากดี ด่ารัสเซีย-จีน-อินเดีย
โพสต์โดย ตนข่าว , วันที่ 10 ก.พ. 54 เวลา 12:02:26 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

กษิตปากดี ด่ารัสเซีย-จีน-อินเดีย

จวกแหลกหนุนหลังเขมรรบ "มาร์ค"โวยใช้ปราสาทตั้งฐาน กัมพูชาซัด-ไทยยิงพระวิหาร




รถถัง - ทหาร จากกรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เคลื่อนย้ายรถถังไปประจำการที่ค่ายตชด. บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ที่ยังคุกรุ่น เมื่อวันที่ 9 ก.พ.

ตร.ขีด เส้นพันธมิตรวันนี้ต้องเปิดถนน ลั่นใช้มาตรการตามกฎหมายจัดการ ผบ.ตร.ระดม 50 กองร้อยกด ดันแทนสลายม็อบ "มาร์ค" เผยเบื้องหลังต่อสายบัน คีมูนระบุเลขาฯ ยูเอ็นเข้าใจไทย ไม่เข้ามาแทรกแซง ปล่อยไทย-เขมรเจรจากันเอง พร้อมกับเรียกร้องให้ยูเอ็นสั่งยูเนสโกชะลอเรื่องมรดกโลกไว้ก่อน ติงสถานการณ์ยังไม่เหมาะที่ยูเนสโกจะเข้ามาดูปราสาทพระวิหาร และยังไม่ถึงเวลาคุย "ฮุนเซน" ด้วยตัวเอง ได้ทีฟ้องโลกแฉเขมรใช้ตัวปราสาทเป็นที่ตั้งฐานทหารและอาวุธ ถือว่าผิดกฎระหว่างประเทศ "กษิต" ปากดีอีกซัดรัสเซีย จีน อินเดียอยู่ข้างเขมร คุยมีสหรัฐเป็นเพื่อน ขณะที่หมีขาวคบไม่ได้

"เทือก"จากเบาไปหาหนัก

เมื่อ วันที่ 9 ก.พ.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากครม.มีมติให้ประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณา จักร หมวด 2 เพื่อประกาศพื้นที่ควบคุมและตั้งพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. เป็นผอ.ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) พร้อมจัดทำแผนและข้อกำหนดต่างๆเพื่อใช้ปฏิบัติงาน ตนกำชับศอ.รส.ชี้แจงประชาชนทราบในทุกขั้นตอนปฏิบัติงาน

ผู้สื่อข่าว ถามว่ามีข่าวจะเจรจากับผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่บางส่วนเพื่อเปิดการจราจร มั่นใจว่าจะเจรจาสำเร็จหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า จะมั่นใจหรือไม่ต้องพยายามเต็มที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน โดยจะเริ่มปฏิบัติตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก เมื่อถามว่าแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระบุจะยื่นร้องต่อศาลปกครองว่ารัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงไม่ชอบด้วย กฎหมาย นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อฟ้องร้อง รัฐบาลยินดีพิสูจน์ข้อเท็จจริงที่ศาล เมื่อถามว่าจะพิจารณาถอนประกันแกนนำกลุ่มพันธมิตรที่ถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ผบ.ตร.จะพิจารณา และตนยังไม่ได้พูดคุยกับผบ.ตร. งานนี้ตำรวจทำงานเต็มที่ 100% ถ้า 50 กองร้อยไม่เพียงพอก็เอากำลังมาเพิ่ม

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าในการ ประชุมสภาเพื่อโหวตลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 วันที่ 11 ก.พ.นี้ จะไม่มีปัญหากลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสภา นายสุเทพ กล่าวว่า ผบ.ตร.ยืนยันกับรัฐบาลว่าจะดูแลทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และกระทรวงต่างๆ รวมถึงกระทรวงกลาโหม ไม่ให้ผู้ชุมนุมกลุ่มใดบุกรุกเข้าไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามการข่าวเพื่อป้องกัน และเชื่อว่ามาตรการที่ตำรวจดำเนินการจะทำให้ส.ส. และ ส.ว.เข้าไปทำหน้าที่ได้

เจอเอสเอ็มเอสด่าหยาบๆ

ต่อ ข้อถามว่ามีรายงานการข่าวลอบสังหาร นายกฯหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี คนคิดเพ้อเจ้อมีอยู่ตลอดเวลา แต่เราดูแลป้องกันอย่างรัดกุม อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ตนได้รับเอสเอ็มเอสต่อว่าจำนวนมาก แต่เปิดเผยไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่หยาบคายมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน จะแบ่งกำลังไปอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จะมีปัญหาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะพื้นที่จ.ศรีสะเกษประกาศใช้กฎอัยการศึกอยู่แล้ว จะไปทำอะไรวุ่นวายไม่ได้ เจ้าหน้าที่คงไม่ยอม และประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนก็ไม่ชอบใจเรื่องนี้อยู่แล้ว

"เรามั่น ใจในสิ่งที่รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. ชี้แจงทำให้ที่ประชุมไม่กังวลในเรื่องนี้ แต่การสู้กันบนเวที ทั้งเวทีอาเซียน สหประชาชาติ เป็นหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานไปแสดงให้ปรากฏแก่สายตาชาวโลก กรณีนี้มีตั้งแต่บันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะชี้แจงได้ว่าประเทศไทยกระทำการในฐานะป้องกันตนเองเท่านั้น ไม่ได้รุกรานอย่างที่กัมพูชากล่าวหา" นายสุเทพ กล่าว

ยูเนสโกตรวจเขาวิหารยิ่งดี

เมื่อ ถามว่าองค์การยูเนสโกจะขอไปตรวจสอบสภาพเขาพระวิหาร จะดำเนินการอย่างไรเพราะฝ่ายไทยระบุว่ากัมพูชาใช้พื้นที่ตรงนั้นเป็นฐานยิง นายสุเทพ กล่าวว่า มีรายงานอย่างนั้นจริงว่าทหารกัมพูชาเข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ปราสาทและยิง ออกมา เป็นประเด็นที่เป็นปัญหาว่าจะเอาไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกได้อย่างไร ส่วนที่ยูเนสโกจะขอขึ้นไปตรวจเป็นเรื่องที่ดี จะได้เห็นด้วยสายตาตัวเอง

เมื่อ ถามว่าสำนักข่าวต่างประเทศเข้าไปตรวจสอบความเสียหาย แต่ไม่พบความเสียหายอย่างที่กัมพูชาอ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่กล่าวหาอย่างนั้นดีกว่า แต่เมื่อมีข้อกล่าวหามาเราก็พิสูจน์ด้วยความจริง ชี้แจงด้วยข้อเท็จจริง เพราะมีหลักฐานรูปภาพชัดเจน ชาวโลกจะได้เข้าใจ กัมพูชาก็เป็นปกติ เมื่อเวลาต่อสู้ก็พยายามทำให้ได้เปรียบทั้งในเวทีโลก ข่าวสาร เขากำกับทิศทางของข่าวได้ว่าจะไปทางไหน ฝ่ายเราเป็นประเทศเสรี ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติและข้อเท็จจริง แต่เป็นเรื่องที่ดีในความหลากหลายที่จะไปยืนยันกับชาวโลกได้

เมื่อ ถามว่าการที่ยูเอ็นปัดไม่รับข้อร้องเรียนจากกัมพูชา ทางกัมพูชาจะดึงเรื่องไปถึงการประชุมมรดกโลกที่ประเทศบาห์เรน เราจะมีแนวทางป้องกันอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นหลักปกติอยู่แล้ว นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ แจ้งครม.ว่า กรณีที่มีการปะทะกันจุดใดจุดหนึ่งที่ชายแดนไม่ใช่เรื่องที่ต้องถึงสหประชา ชาติ เพราะยังมีอาเซียน ควรพูดคุยกันก่อน ซึ่งก่อนถึงขั้นนั้นประเพณีปฏิบัติระหว่างประเทศคือสองประเทศต้องพูดคุยกัน ยังอยู่ในขั้นตอนที่สองประเทศคุยกันได้ และกระทรวงการต่างประเทศได้จัดทีมเดินสายชี้แจงทุกเวที รวมทั้งมิตรประเทศที่เราคบค้าสมาคมด้วย

มาร์คยังไม่คุยฮุนเซน

เมื่อ ถามว่าทางกลาโหมอยากให้นายกฯ ทั้งสองประเทศคุยกัน นายกฯของไทยอยากพูดคุยกับนายกฯ กัมพูชาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยัง ต้องว่าตามขั้นตอนก่อน ขณะที่มีการตอบโต้ผ่านสื่อและในสายตาชาวโลก ถ้าฝ่ายเราแม้มีเจตนาดีรีบพูดคุยเขาก็จะบอกว่ายอมจำนนแล้ว ยิ่งหนักและแย่ลงไปอีก ตนพูดอย่างนี้สมเด็จฮุนเซนก็ได้ยินอยู่แล้ว ต้องรู้ว่าเราไม่มีเจตนาให้เรื่องบานปลายและต้องการแก้ปัญหาตามข้อเท็จจริง

เมื่อ ถามว่าหมายความว่าถ้าผู้นำประเทศใดเริ่มพูดคุยก่อน ประเทศนั้นยอมจำนน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ใช่ ประเทศไทยไม่เอาเปรียบอย่างนั้น แต่ต้องระวังอย่าให้เสียเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรี แม้จะไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้น แต่เวลาคนกล่าวอ้างเราต้องเสียเวลามาแก้ต่าง

ต่อ ข้อถามว่านอกจากอ.กันทรลักษ์ ฝ่ายความมั่นคงรายงานจุดอื่นที่มีความเสี่ยงหรือไม่ นาย สุเทพ กล่าวว่า ยังไม่มีจุดอื่น เราพยายามให้พื้นที่กระทบกระทั่งจำกัดจำนวนที่สุด เมื่อถามว่าที่ อ.น้ำยืน และกิ่งอ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ได้รับผลกระทบด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า ดูแลทุกแห่ง แม้ประชาชนไม่ได้อยู่ที่อ.กันทรลักษ์ แต่เมื่อข่าวสงครามใกล้เข้ามาอย่างนี้ต้องตกใจ บางแห่งอพยพออกมาเพื่อให้สบายใจจนกว่าเหตุการณ์ จะสงบ

เมื่อถาม ว่าขณะนี้สถานการณ์ยังบอกไม่ได้ว่าบริเวณชายแดนจะมีการตอบโต้กันหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า นั่นเป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งชาวบ้านยังไม่สบายใจที่จะกลับในช่วงนี้ เพราะเหตุการณ์ยังใหม่อยู่และที่มาคงไม่ใช่เพราะมีของแจก เขาเดือดร้อนและน่าเห็นใจกันจริง เมื่อถามว่า ทำไมคนมามากผิดปกติ นาย สุเทพ กล่าวว่า ประชาชนที่นั่นเยอะ

ประวิตรนำบิ๊กทหารลงพื้นที่

ที่ กองการบิน ขส.ทบ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ.ทบ. พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เดินทางไปฟังบรรยายสรุปและติดตามสถานการณ์ชาย แดนไทย-กัมพูชา ที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์ จากนั้นไปรดน้ำศพส.อ.ธนากร พูลเพิ่ม ที่เสียชีวิต และเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกัมพูชา ที่จ.อุบลราชธานี ก่อนร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.อ.วุธชรินทร์ ชาติคำดี หัวหน้าชุดกองร้อยทหารราบที่ 1623

พ.อ.หญิงศิริจันร์ งาทอง รองโฆษกทบ. เปิดเผยว่า กองทัพบกปูนบำเหน็จพิเศษ 9 ขั้นแก่ ส.อ.ธนากร พูลเพิ่ม รองผบ.ชุดปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 2306 กรมทหารพรานที่ 23 ซึ่งเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จากสิบเอก เป็นพันตรี

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นประธานร่วมพิธีรดน้ำศพพ.ต.ธนากร ที่วัดโนนไหล่ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทบ.จัดการศพให้อย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลสิทธิด้านกำลังพล มอบเงินช่วยเหลือตามสิทธิทางราชการ

"กษิต"ฟุ้งสัมพันธ์ไทย-เพื่อนบ้าน

ที่ รัฐสภา นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวในการสัมมนาของกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เรื่อง "ประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เหตุการณ์ปกติ" ตอนหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบด้วยลาว เวียดนาม และมาเลเซีย ถือว่ามีเสถียรภาพอย่างยิ่ง อยู่ในระดับเอ แต่สำหรับกัมพูชา เรามีปัญหาความสัมพันธ์กับกัมพูชา เพราะเขาเอาเรื่องประวัติศาสตร์มาเร้าอารมณ์ สอนให้คนกัมพูชารู้สึกว่า 600-700 ปีที่ผ่านมาเราทุบศีรษะเขาตลอด ไล่ตั้งแต่สมเด็จนโรดมสีหนุ ที่ต้องการเสถียรภาพ จึงเร้าอารมณ์นำเรื่องปราสาทพระวิหารขึ้นศาลโลก เอาไทยไปเป็นกระสอบทราย ถือเป็นบทเรียนของเรา แต่ปัญหาไม่จบสิ้นเมื่อศาลโลกพูดถึงเรื่องตัวปราสาท แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องดินแดน ทำให้กัมพูชาใช้ไทยเป็นเครื่องมือภายในของกัมพูชา

จุดไฟอีกด่ารัสเซีย-อินเดีย-จีน

นา ยกษิต กล่าวว่า จนมาถึงสมเด็จฮุนเซน เป็นนายกฯกัมพูชาในปัจจุบัน แนวทางการทูตของกัมพูชาต่อเราก็เป็นการทูตแบบจุดประสงค์เดียว คือต้องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และต้องการพื้นที่โดยรอบ 4.6 ตร.ก.ม. ดังนั้น วิธีที่ทำให้ได้ดังใจมากที่สุดคือเปิดแนวรบให้รุนแรงสาหัส อย่างวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่เขาทำสำเร็จ อาจมีประเทศอื่นสนับ สนุน เช่น รัสเซีย อินเดีย จีน แล้วจึงฟ้องสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วันที่ 14 ก.พ.นี้ ตนจะไปชี้แจงต่อคณะมนตรีความมั่นคงถึงกรอบดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีนายฮอร์ นัมฮง รมว.ต่างประเทศของกัมพูชา และมีรมต.ต่างประเทศของอินโดนีเซียในฐานะประธานอาเซียนไปร่วมชี้แจงด้วย ทั้งนี้ ตนได้คุยกับนายฮอร์ นัมฮง แบบเปิดอกว่าจะรักษาอาเซียนและความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ หรือสู้รบฟาดฟันตลอดแนวชายแดนก็ได้ แต่ที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอย่ามาต่อกรกับไทย เพราะหากยังเกเร มีแต่เจ็บลูกเดียว ยืนยันว่าลาวและเวียดนามไม่มีทางฮั้วกับกัมพูชาเพื่อสู้กับไทยแน่นอน เพราะทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีในทุกเรื่องกับไทย

"เราพร้อม ชี้แจงทุกเวทีไม่ว่าเจนีวา นิวยอร์ก หรือกรอบอาเซียน อย่าลืมว่าเรายังมีสหรัฐอเม ริกาเป็นพันธมิตร แม้เขาจะแสดงให้เห็นภาพว่าเป็นผู้ถูกกระทำ ขอความเห็นอกเห็นใจว่าเขาผ่านการสู้รบมาตลอดเพื่อให้ได้สิทธิเสรีภาพ แต่ความเห็นใจเหล่านี้ไม่อนุญาตให้สมเด็จฮุนเซน เป็นเด็กเกเรกับประเทศไทย ต้องชี้แจงว่าตอนนี้มีเด็กเกเรตอแยอยู่ข้างบ้าน แต่เราเป็นผู้ใหญ่ที่มีมิตรกับชาวกัมพูชาที่ยากจนทุกคน ทางรถไฟจากสระแก้วไปพนมเปญ ก็ยังจะดำเนินการต่อ จะทำให้ได้ประโยชน์ร่วมกันมาก และความจริง ใจอีกอย่างคือคนกัมพูชาเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า การประชุมเจซีบีปลายเดือนนี้ยังมีอยู่ เราต้องชี้แจงกับสหประชาชาติว่าเราพร้อมให้เงิน ให้ความหวังดี แม้จะมีเด็กเกเรอยู่ข้างบ้าน ต่อไปกัมพูชาต้องคุยกับรัฐบาลพลเรือน ไม่ใช่ใช้แนวทางเดิมที่ไปคุยกับผู้นำทางทหารแล้วหวังว่ากลาโหมจะมาบีบนายก ษิต นายพลทหารก็บอกว่ารู้จักสนิทสนม ก็ที่รู้จักก็เพราะประโยชน์ของท่านเอง ไม่ใช่ประโยชน์ของประเทศชาติ แต่เขาไม่รู้แล้วว่าตอนนี้กระทรวงกลาโหมกับต่างประเทศมีความเข้าใจซึ่งกัน และกัน" นายกษิตกล่าว

ถูกยิง -ทหาร กัมพูชาถ่ายภาพความเสียหายของปราสาทพระวิหาร โดยอ้างว่าถูกทหารไทยยิงถล่ม ขณะเดียวกันฝ่ายไทยก็อ้างว่ากัมพูชาจงใจใช้ปราสาทพระวิหารเป็นฐานที่มั่นสู้ กับไทย



จากนั้นนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา สอบถามนายกษิตว่า ได้พิจารณาถึงความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจอื่นๆ หรือไม่ นายกษิต กล่าวว่า กำลังให้ตรวจสอบข้อมูลอยู่ว่าอาวุธทางทหารของกัมพูชา โดยเฉพาะเครื่องยิงจรวดบี 51 ที่ทราบว่ากัมพูชาได้จากสหรัฐ จีน และบัลแกเรียนั้นได้มาอย่างไร

เชิดชูอเมริกาด่าหมีขาว

นา ยกษิต กล่าวว่า สำหรับรัสเซียเป็นประเทศที่เล่นการทูตกับไทยเพื่อหวังค้าอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ จึงไม่พอใจ ทั้งที่รัสเซียได้เงินจากการค้าน้ำมันจำนวนมาก กลับจ่ายค่าข้าวเราเป็นอาวุธ แสดงให้เห็นว่ารัสเซียมีนโยบายทางการทูตที่เห็นแก่ตัว ส่วนเรื่องวิกเตอร์ บูท จะเกี่ยว ข้องหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่ขอให้คิดง่ายๆ ว่าหากส่งตัวให้รัสเซีย เราจะต้องเจอแรงกดดันจากสหรัฐทุกเวที ขณะที่รัสเซียไม่เคยให้ความช่วยเหลือเรา

นายกษิต กล่าวอีกว่า ตนเพิ่งทราบว่ากระ ทรวงการต่างประเทศต้องจ่ายเงินให้นักวิชาการ 2 กลุ่ม เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาทเพื่อศึกษาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหาร ยอมรับว่าในกระทรวงการต่างประเทศยังมีอะไรที่เป็นแดนสนธยาอยู่ มีข้าราชการ นักการเมืองหลายคนเดินสายไปพบผู้ใหญ่เพื่อกดดันตน และไม่คิดว่าจะอยู่ได้นานถึง 2 ปี การที่ตนเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เกิดผลกระทบกับคนในกระทรวงเยอะ ทั้งที่ตนไม่คิดจะมา อยู่บนเวทีพันธมิตรก็สนุกสนานดีอยู่แล้ว

ตร.ออกระเบียบคุมม็อบ

ที่ รัฐสภา คณะกรรมการร่วมเพื่อการเสริมสร้างความร่วมมือที่ดีระหว่างประชาชน กัมพูชา-ไทย นำโดยมหาเถระ ยัวส ฮุท เขมมะจาโร นายโสทา โรส กรรมการฝ่ายกัมพูชา และนาง ชลิดา ทาเจริญศักดิ์ กรรมการฝ่ายไทย พร้อมชาวบ้านจากหมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะ เกษ เข้ายื่นหนังสือกับนายต่อพงษ์ ไชยสาส์น ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้ไทย-กัมพูชายุติความขัดแย้ง และการประทะกันบริเวณแนวชายแดน พร้อมให้ใช้หลักธรรมตามพุทธศาสนา แก้ไขปัญหาความ ขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ

ที่สำนักงานตำรวจแห่ง ชาติ(ตร.) พล.ต.ต. ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกตร. แถลงความคืบหน้าหลังประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ในพื้นที่ 7 เขตของกทม.ว่า วันนี้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.รส. จะเป็นประธานประชุม เพื่อออกข้อกำหนดในพื้นที่ตามพ.ร.บ. ความมั่นคง โดยรายละเอียดจะระบุว่าพื้นที่ใดห้ามบุคคล ผู้ชุมนุม หรือรถยนต์เข้าหรือบุกรุกเข้าไป ซึ่งข้อกำหนดในส่วนนี้คาดว่าจะประกาศออกมาบังคับใช้ได้ภายในวันนี้

ขอคืนพื้นที่บางส่วนทันที

พล.ต.ต. ประวุฒิ กล่าวอีกว่า รายละเอียดการเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกนอกพื้นที่นั้น เบื้องต้นจะใช้การเจรจา โดยพล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. และพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 จะเริ่มขอคืนพื้นที่บางส่วนวันนี้ ซึ่งต้องรอฟังผลเจรจาอีกครั้ง แต่ถ้าการเจรจาไม่เป็นผลก็ต้องประกาศพื้นที่ที่เห็นสมควรว่าจะเปิดพื้นที่ ได้ เพราะตอนนี้ผู้ชุมนุมมีจำนวนน้อย แต่ใช้พื้นที่ชุมนุมมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องการพื้นที่บางส่วนที่ผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อเปิดการ จราจร ถ้าเจรจาเป็นผลและผู้ชุมนุมยอมเปิดพื้นที่ให้ มาตรการประกาศข้อกำหนดพื้นที่ห้ามชุมนุมในส่วนที่ผู้ชุมนุมยอมเปิดพื้นที่ ให้ ก็คงไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องสลายการชุมนุม ตำรวจมีเป้าหมายและต้องการให้เกิดความสงบ แต่วิธีดำเนินการเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และการตกลงร่วมกันระหว่าง เจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ชุมนุม

ม็อบน้อยไม่ต้องใช้วิธีสลาย

ผู้ สื่อข่าวถามว่าจะเจรจาให้ยกเลิกการชุมนุมเลยหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า อยากให้ผลการเจรจาเป็นเช่นนั้น เมื่อถามว่าหากผู้ชุมนุมไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.ความมั่นคง จะใช้กำลังผลักดันให้ออกนอกพื้นที่หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นใช้กำลังผลักดัน แต่จะใช้วิธีที่นุ่มนวลที่สุด จะคำนึงว่าต้องให้การจราจรเคลื่อนตัวได้อีกครั้ง

เมื่อถามว่าเหตุใด จึงไม่ใช้วิธีปฏิบัติเหมือนการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พล.ต.ต. ประวุฒิ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่สำคัญการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรมีจำนวนผู้ชุมนุมไม่ มาก สถานการณ์จึงไม่น่าจะเป็นแบบกลุ่มคนเสื้อแดง

เมื่อถามว่าวันที่ 10 ก.พ.นี้ แกนนำกลุ่มพันธมิตรจะไปร้องศาลปกครอง เพื่อให้มีคำสั่งระงับการประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง พล.ต.ต. ประวุฒิ กล่าวว่า ต้องดูว่าผู้ชุมนุมใช้เหตุผลอะไรยื่นคำร้องต่อศาล เพราะตามที่เสนอเพื่อขอให้ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ถือว่ามีเหตุผลและมีความจำเป็นตามเงื่อนของกฎหมาย

มั่นใจใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน

เมื่อ ถามว่าจะให้เวลาผู้ชุมนุมเท่าไร ในการให้เคลื่อนย้ายนอกจากพื้นที่รอบทำเนียบ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า คงน่าจะอยู่ใน 15 วัน ที่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งเชื่อว่าช่วงนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้น และอาจใช้เวลาน้อยกว่า 15 วันก็เป็นได้

เมื่อถามว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่บังคับใช้กฎ หมายอย่างจริงจัง พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ชุมนุมถือว่ายังชุมนุมโดยสงบ และตอนนี้ก็ยังไม่มีเงื่อนไขที่จะสร้างความรุนแรง จึงต้องใช้การเจรจาก่อน แต่ถ้าการเจรจาภายใน 1-2 วันไม่เป็นผล จะบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น

ห้ามเข้าถนนรอบทำเนียบ-สภา

ต่อ มาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.รส. เป็นประ ธานประชุมเตรียมออกประกาศข้อกำหนดควบคุมพื้นที่ตามพ.ร.บ.ความมั่นคง นานประมาณ 3 ช.ม. จากนั้น พล.ต.ต.ประวุฒิ โฆษกตร. ในฐานะโฆษกศอ.รส. แถลงว่า ที่ประชุมพูดคุยถึงเรื่องขอบเขตการออกประกาศข้อกำหนดควบคุมพื้นที่ตามพ.ร.บ. ความมั่นคง ฝ่ายกฎหมายของศอ.รส.กำลังร่างข้อกำหนดและพิจารณาว่า จะควบคุมและห้ามบุคคลเข้าพื้นที่หรือถนนเส้นใดบ้าง ตอนนี้พิจารณาไปกว่าร้อยละ 90 แล้ว เบื้องต้นน่าจะควบคุมและห้ามไม่ให้บุคคลเข้าไปบริเวณถนนรอบทำเนียบรัฐบาล และรัฐสภา อย่างไรก็ตาม เช้าวันที่ 10 ก.พ. จะออกข้อ กำหนดมาบังคับใช้กับผู้ชุมนุมได้

พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนการเจรจากับผู้ชุมนุม ได้มอบหมายบช.น.เจรจาทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ว่ากลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติและกลุ่มพันธมิตร ซึ่งผลเจรจาเบื้องต้น กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติรับข้อเสนอและขอนำไปหารือก่อน เชื่อว่าน่าจะเปิดเส้นทางบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐจนถึงแยกสวน มิสกวัน อย่างที่เคยเปิดเส้นทางก่อนหน้านี้ แต่ต้องรอผลหารืออีกครั้ง ส่วนการเจรจากับกลุ่มพันธมิตร เบื้องต้นได้รับการปฏิเสธและไม่ยินยอมคืนพื้นที่ อ้างว่าต้องสงวนพื้นที่ไว้ใช้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ต้องออกประกาศข้อกำหนดที่มีสภาพบังคับตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 24 ของพ.ร.บ.ความมั่นคง มีโทษ จำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่คงเจรจาควบคู่ไปด้วย

ใช้ 50 กองร้อยกดดันแทนสลาย

พล.ต.ต. ประวุฒิ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมเด็ดขาด แต่จะใช้กำลังเข้าไปกดดันแทน เพื่อ ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งและลดการเผชิญหน้า ซึ่งทุกขั้นตอนจะแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมและสื่อทราบ เพื่อเป็นสักขีพยาน โดยการปฏิบัติการครั้งนี้จะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ 50 กองร้อย รวมทั้งจะสนธิกำลังกับทหารร่วมปฏิบัติงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.ต้องดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ประกาศชุมนุมหน้าศาลอาญาในวัน ที่ 13 ก.พ.ด้วยหรือไม่ พล.ต.ต. ประวุฒิ กล่าวว่า ศอ.รศ.ดูแลการชุมนุมของทุกกลุ่ม ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกลุ่มใด เพื่อให้การ ชุมนุมเกิดความเรียบร้อยใน 7 เขตที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ส่วนการเคลื่อนการชุมนุมจากศาลอาญามายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หาก ไม่ปิดการจราจร ไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเกินไป เจ้าหน้าที่คงผ่อนผันได้ตามสิทธิของรัฐธรรมนูญ

ปจ.ซ้อมวิ่งพธม.แตกฮือ

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประกาศพ.ร.บ. ความมั่นคงมีผลบังคับใช้วันแรก บรรยากาศภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นไปอย่างคึกคัก มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังตำรวจทั้งภูธรและนครบาล เป็นระยะ และเตรียมพร้อมปฏิบัติการ ซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ และประจำจุดต่างๆ ทั้งบริเวณประตูทางเข้าออก และพื้นที่โดยรอบนอกจากนี้กทม.ยังนำรถดับเพลิงมาเตรียมพร้อม เช่นกัน

เวลา 16.00 น. พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง ผบก.อคฝ. เรียกแถวนำกำลังตำรวจปราบจลาจล 4 กองร้อย รวมพลและวิ่งฝึกซ้อมข้างเวทีกลุ่มพันธมิตร เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ และตลอดแนวถนนลูกหลวง สร้างความแตกตื่นให้กับผู้ชุมนุม และวิ่งกรูมาสังเกตการณ์ พร้อมจับกลุ่มวิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่อาจเตรียมสลายการชุมนุม จนผู้ปราศรัยบนเวทีต้องประกาศว่าเจ้าหน้าที่มาออกกำลังกายเท่านั้น และขอให้อยู่ในความสงบ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ

"มาร์ค"เปิดใจคุยเลขาฯยูเอ็น

ขณะ ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภาถึงผลการคุยโทรศัพท์กับนายบัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เมื่อค่ำวันที่ 8 ก.พ. ว่า ยูเอ็นห่วงใยสถานการณ์ และขอให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ตนยืนยันว่าประ เทศไทยไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรงหรือรุกรานใคร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อละเมิดอธิปไตยและใช้อาวุธยิงเข้ามา เราจำเป็นต้องปกป้องด้วยการตอบโต้เหมาะสมแก่เหตุ โดยตอบโต้ไปยังเป้าหมายที่มาของการใช้อาวุธ เป็นเป้าหมายทางทหาร และได้เรียนเลขาฯ ยูเอ็นทราบว่า ขณะนี้เรามีพลเรือนกว่าหมื่นคนที่ต้องอพยพจากบริเวณดังกล่าว และมีความเสียหายด้วย

นายกฯ กล่าวอีกว่า นายบันคีมูนสอบถามว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นต่อตัวปราสาทพระวิหารหรือไม่ ตนบอกไปว่าพร้อมส่งภาพถ่ายต่างๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ปราสาทพระวิหารในเรื่องการทหาร ไม่ว่าการมีอาวุธหรือใช้กำลังจากที่นั่น ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ที่จะให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ทางวัฒนธรรม เป็นมรดกโลก และตนบอกเลขาฯ ยูเอ็นด้วยว่า ความตึงเครียดจะเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ตราบเท่าที่ยังมีแรงกดดันจากปัญหาการขึ้นทะเบียนมรดกโลกของกัมพูชา เพราะกัมพูชารู้สึกกดดันว่าต้องมาจัดการพื้นที่ตรงนี้ ขณะที่ฝ่ายไทยถือว่าเป็นของไทย ย่อมจะเกิดปัญหา ซึ่งเลขาฯ ยูเอ็น รับจะติดตามเรื่องนี้กับยูเนสโก

นายกฯ กล่าวว่า รมว.ต่างประเทศอินโด นีเซีย ในฐานะประธานอาเซียนได้มาพบทั้งสองฝ่ายแล้ว และสนับสนุนให้เจรจาในกลไกของทวิภาคี ตนแจ้งว่ารมว.ต่างประเทศของไทยและกัมพูชามีนัดหมายประชุมกัน ฉะนั้นหนทางแก้ปัญหาโดยการเจรจาทวิภาคีอย่างที่ยูเอ็นต้อง การยังเป็นหนทางเปิดกว้าง ไม่ได้ปิดกั้น ซึ่งเลขาฯ ยูเอ็น บอกว่า ถ้ามีอะไรที่ยูเอ็นจะช่วยคลี่คลายได้ให้แจ้งไป คิดว่าเลขาฯ ยูเอ็นคงเข้าใจ และติดต่อไปทางสมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชาเหมือนกัน

ผู้สื่อข่าวถาม ว่าในสายตานานาชาติ การปะทะที่เกิดขึ้นยังเป็นเรื่องของ 2 ประเทศใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ใช่ เพราะต่างฝ่ายต่างอ้างว่าปกป้อง ขณะนี้สถานการณ์หยุดลงระดับหนึ่ง แต่เขาคงติดตามและประมวลข้อมูลต่างๆ ส่วนการอพยพคนกลับนั้น ในที่ประชุมสมช.อยากให้เกิดความมั่นใจ หากกลับไปแล้วมีเหตุอีกคงไม่ดี ฉะนั้นจะเร่งทำให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว ขณะนี้เป็นการพูดคุย และต้องนำมาสู่แนวปฏิบัติในพื้นที่จริง

(บน)ต้านพธม. - ชาว บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ ชูป้ายหน้าศูนย์อพยพชั่วคราว ต่อต้านกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เตรียมเข้ามาในพื้นที่เพื่อแจกสิ่งของช่วยเหลือ โดยเชื่อว่าสาเหตุการสู้รบเกิดจากการ ยั่วยุของพันธมิตรฯ



(ล่าง)ต้านสงคราม - กลุ่ม สองขาเพื่อประชาธิปไตยรณรงค์เรียกร้องสันติภาพ เสนอให้แก้ปัญหาไทย-กัมพูชาแบบปัญญาชน ที่ลานสวนสันติภาพ ก่อนปั่นไปรณรงค์ต่อที่อนุสาวรีย์ชัยฯและชิดลม เมื่อวันที่ 9 ก.พ.



ส่ง"กษิต"แจงยูเอ็นเอสซี

เมื่อ ถามว่าเหตุใดยังมีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) เพื่อพิจารณากรณีไทย-กัมพูชา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้ง 2 ฝ่ายทำหนังสือถึงยูเอ็นเอสซี คาดว่าคงสอบถามข้อมูลจากทั้ง 2 ฝ่าย นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ พร้อมชี้แจง เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการประชุมจะไม่ถูกแทรกแซงจากยูเอ็น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงสิ่งที่มีการยืนยันขณะนี้เรื่องกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ และกรณีอาเซียนที่เข้ามา สนับสนุน คิดว่ายูเอ็นคงสนับสนุนให้ดำเนินการกันเองมากกว่า เมื่อถามว่ากัมพูชายังไม่พร้อมแก้ปัญหาแบบทวิภาคี แต่เรียกร้องให้ยูเอ็นเข้ามา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าอาเซียนได้แสดงท่าทีชัดเจนในการแก้ไขปัญหา คิดว่าตรงนี้มีน้ำหนัก

ติงยูเนสโกมาดูปราสาท

ต่อ ข้อถามว่ายูเนสโกจะส่งตัวแทนเข้ามาดูพื้นที่ปราสาทพระวิหารวันที่ 14 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "คงไม่เหมาะ เพราะเราได้แจ้งไปอย่างชัดเจนว่าความตึงเครียดที่เกิดจะยิ่งเพิ่มพูนขึ้น ตรงนี้คือปัญหาที่เราพยายามสื่อสารกับเขามาตลอด ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้คุยและทำความเข้าใจกับเขาแล้ว"

เมื่อถามว่าท่าทีของยูเนสโกยัง ไม่เข้าใจสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายบัน คี มูน บอกจะคุยกับยูเนสโก เพราะสิ่งที่เราพูดเป็นสิ่งที่พิสูจน์โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และตนย้ำว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เพิ่งพูด แต่ตนเคยคุยกับเลขาฯ ยูเอ็น เมื่อปลายปี 2553 ว่าเรื่องมรดกโลกเป็นปัญหามากในการเพิ่มความตึงเครียดในพื้นที่ ฉะนั้นยูเนสโกควรทบทวนท่าทีเรื่องนี้ ซึ่งตนย้ำอีกเลขาฯ ยูเอ็น บอกว่าจะไปคุยกับยูเนสโก

ควรชะลอเรื่องมรดกโลกไว้ก่อน

เมื่อ ถามว่าทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องมรดกโลกคืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้คิดว่ายูเนสโกควรหยุดเรื่องการกดดันในการกำหนดตารางเวลาว่ากัมพูชาจะ ต้องมีแผนบริหารจัดการพื้นที่ ขณะที่พื้นที่ยังมีปัญหากันอยู่ ควรรอกระบวนการขอการจัดทำหลักเขตต่างๆ ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยก่อนค่อยดำเนินการ เมื่อถามว่าควรชะลอและทบทวนการขึ้นปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ชั้นนี้คิดว่าควรรอให้การทำงานตามกลไกของการจัดทำหลักเขตแดนชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วจะมีคำตอบในตัวของมันเองว่าควรเดินต่ออย่างไร ดังนั้น จึงควรชะลอแผนบริหารรอบพื้นที่ เพื่อลดแรงกดดันทั้งหมด แรงกดดันต่อกัมพูชาที่รู้สึกว่าต้องมาทำอะไรก็ตามในพื้นที่นี้ และแรงกดดันต่อไทยซึ่งยืนยันว่าคนอื่นจะเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่นี้ไม่ได้

เมื่อถามว่าท่าทีของยูเนสโกควรเกิดก่อนประชุมเดือนมิ.ย. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถูกต้องซึ่งนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเดินทางไปช่วงนี้เพื่ออธิบาย เมื่อถามว่าหากยูเนสโกไม่ฟังแล้วยังส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ ตนคิดว่าเขาต้องฟัง ถ้าเกิดเข้ามาแล้วยิ่งก่อให้เกิดความวุ่นวาย ไม่เป็นผลดีกับใคร

ยังไม่ถึงเวลาคุย"ฮุนเซน"

เมื่อ ถามว่าถึงเวลาที่นายกฯ จะคุยกับสมเด็จฮุนเซน หรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประสานงานฝ่ายต่างๆ ยังทำงานกันอยู่ เขาจะบอกได้ว่าการพูดคุยควรเป็นระดับไหนเมื่อไร ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างดูความเคลื่อนไหวอีกฝ่ายหนึ่ง หากเหตุการณ์คงไว้ไม่ให้เกิดปัญหาอีกระยะหนึ่ง มันจะง่ายขึ้น เมื่อถามว่าคิดว่าสามารถประคับประคองไม่ให้สถานการณ์เกิดขึ้นอีกได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราทำอย่างเต็มที่ แต่ต้องปกป้องตัวเองอย่างเต็มที่เช่นกัน

เมื่อถามว่ามีการอภิปรายใน สภาว่านายกฯ อีโก้สูงจึงไม่ยอมคุยกับสมเด็จฮุนเซน นาย อภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เขาก็พูดมีสิทธิวิจารณ์ เดี๋ยวจะชี้แจงให้หมด เมื่อถามว่าเมื่อถึงเวลานายกฯพร้อมพูดคุยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีปัญหา

ส.ส.ยื่นญัตติด่วนถาม"มาร์ค"

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนฯ พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนฯ ทำหน้าที่ประธานประชุม หลังพิจารณาร่างพ.ร.บ. เสร็จสิ้น ได้พิจารณาญัตติด่วนที่นายธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณาแก้ปัญหาผลกระทบจากการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ นายกฯ แจ้งว่า หากเป็นการดูแลผลกระทบก็ไม่เป็นไร พร้อมชี้แจง แต่หากเกี่ยวข้องความสัมพันธ์และความมั่นคง ขอประชุมลับ

ขณะ ที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย สนับสนุนการเสนอญัตติโดยระบุว่าจะอภิปรายเชิงสร้างสรรค์ หากเกี่ยวกับความมั่นคงและความสัมพันธ์ นายกฯ ขอประชุมลับได้

จาก นั้นนายธเนศ ผู้เสนอญัตติ อภิปรายว่า ขอบคุณนายกฯ ที่มานั่งฟัง แต่น่าตำหนิรมว. ต่างประเทศที่ไม่มาฟัง ซึ่งปัญหาเกิดหลังจากรัฐบาลบริหารประเทศผิดพลาด นายกฯ ตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศ สร้างความตึงเครียดทำให้สมเด็จฮุนเซน แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชา จนเกิดปัญหาต่อเนื่องมาถึงการปักธงขึ้นป้ายเป็นพื้นที่ของกัมพูชา มีการตอบโต้ยั่วยุทางสื่อกันไปมา ปล่อยให้มีการชุมนุมถ่ายทอดสดด่ากัมพูชา เอาปัญหาในประเทศไปสู่นอกประเทศและหลังเกิดเหตุยิงปะทะ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหลายจุด ถือเป็นครั้งแรกมีคนไทยอพยพ ขอให้นายกฯ เร่งเจรจากับผู้นำกัมพูชาโดยด่วนให้ได้ข้อยุติ แม้จะหยุดยิงก็ไม่ได้ถอนกำลัง กลับเสริมกำลังอย่างต่อเนื่อง พร้อมเรียกร้องรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาการเมืองภายในประเทศให้เด็ดขาด

"เหลิม"ชำแหละ 4 สาเหตุ

จาก นั้นส.ส.ศรีสะเกษ จากพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย รวมทั้งนายสาธิต เทพวงศ์ศิริรัตน์ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อแผ่นดิน อภิปรายระบุสาเหตุเกิดจากรัฐบาลตั้งนายกษิต เป็นรมว.ต่างประเทศ และเรียกร้องรัฐบาลอย่าเล่นการเมือง แต่ควรเจรจาโดยเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง และขอให้คนที่ยุแหย่ให้เกิดสงครามหยุดทำอย่างนั้น เพราะประชาชนชายแดนได้รับผลกระทบ

ร.ต.อ.เฉลิมอภิปรายว่า นายกฯ สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ก็เป็นคนจุดกระแสคลั่งชาติ เพราะพูดว่าเขตแดนต้องยึดสันปันน้ำ ทำให้คนเข้าใจว่าต้องทวงคืนเขาพระวิหารหรือไม่ ปัญหาไทย-กัมพูชาเกิดจาก 4 สาเหตุ เริ่มจาก 1.การไปต่อว่านายกฯกัมพูชา ตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา ซึ่งเป็นเรื่องกัมพูชาที่ไทยไม่ควรยุ่ง 2.นายกษิตเป็นตัวปัญหา หากยังเป็นรมว.ต่างประเทศ ไม่มีทางสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาไปสู่จุดที่ดีขึ้น 3.กรณีวัดแก้วสิกขาคีรีศวร เมื่อปี 2541 ฝ่ายทหารขอให้ประท้วง แต่รัฐบาลไทยขณะนั้นคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ประท้วง พอปี 2543 เอ็มโอยูเกิดขึ้นจึงมีปัญหา ประท้วงไม่ได้แล้ว 4.กรณี 7 คนไทยโดนจับ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ไทยเตือนแล้วว่าอย่าเข้าไป 1 ในนั้นมีส.ส.ประชาธิปัตย์ด้วย แถมบอกว่าเรื่องนี้นายกฯ รู้คนเดียว แล้วฝ่ายกัมพูชาจะคิดอย่างไร นี่คือความผิดพลาดที่รัฐบาลนี้ก่อ

"จุด แตกหักที่สุดของไทย-กัมพูชาคือตอนที่กัมพูชาตั้งพ.ต.ท.ทักษิณเป็นที่ปรึกษา รัฐบาลนี้ต่อว่า และดำเนินมาตรการการทูตค่อนข้างแรงทั้งการเรียกทูตกลับ การทบทวนพันธกรณี ทบทวนความร่วมมือและความช่วยเหลือที่ทำกับกัมพูชา นี่คือที่มาของความกินแหนงแคลงใจ" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวและว่า รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการเจรจาเท่าฝ่ายทหาร และยังใช้นายกษิต เป็นคนเจรจา อย่างไรก็ตามกรณีนี้จะไม่ยุติ ถ้านายกฯ ไม่ลงมือลงไปจัดการเอง ขอฝากนายกฯ ให้กองทัพดำเนินการ แต่นายกฯ ต้องกักตัวนาย กษิตห้ามบินไปกัมพูชาและงดให้สัมภาษณ์

จวกนายกฯไม่เคยไปดูชาวบ้าน

นาย จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ที่ผ่านมาเกิดเหตุปะทะถึง 4 ครั้ง ประชาชนตามแนวชายแดนเดือดร้อนมาก แต่นายกฯ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูที่เกิดเหตุแม้แต่ครั้งเดียว แสดงให้เห็นถึงภาวะการเป็นผู้นำ ทั้งนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจในปี 2553 ตนได้ยกกรณีกองกำลังสุรนารีทำหนังสือแจ้งกระทรวงการต่างประเทศให้ประท้วง ฝ่ายกัมพูชาที่กำลังตัดถนนถึง 9 ครั้ง แต่กระทรวงการต่างประเทศเก็บเงียบ ถ้าวันนั้นนายกษิตไม่ปล่อยปละละเลย ไม่ปะเหลาะฮุน เซน เพราะกลัวจะไม่มาร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ปัญหาคงไม่เกิด

นาย จตุพร กล่าวว่า หากกรณีดังกล่าวไปถึงศาลโลก สิ่งที่ตนสงสัยไม่ใช่ว่าใครยิงใครก่อน แต่ใครต้องการจุดชนวนสงคราม วันนั้นใครสั่งรถแมคโครไปบริเวณดังกล่าว จนท้ายที่สุดเกิดปัญหาขึ้น วันนี้คนที่กล่าวหาว่าคนอื่นขายชาติทำไมขายชาติเสียเอง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ร่วมกันยึดทำเนียบ ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และวันนี้เกิดปัญหาไทย-กัมพูชา จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราต้องไม่ให้สงครามบริเวณแนวชายแดนขยายตัว ซึ่งคำว่าสิ้นชาติที่เคยเกิดขึ้นที่เวียดนามใต้อาจเกิดขึ้นในไทยได้

หนุนส่ง"ปู่ชัย"เป็นทูตพูดเขมร

นาย สรวงศ์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พรรคประชาราช อภิปรายว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น อยากฝากรัฐบาลให้ใช้คนให้ถูก เมื่อเกิดปัญหานายกฯ ควรลดทิฐิ และน่าจะแก้ปัญหาด้วยตัวเอง หรือให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนฯ ไปก็ได้เพราะพูดภาษาเขมรได้ นายชัย ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม บอกว่าถึงเวลาแล้วจะไปเอง

วันเดียวกัน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุถึงกรณีการเดินทางไปให้ข้อมูลกับยูเอ็นเอสซี ของนายกษิต ภิรมย์ วันที่ 14 ก.พ.นี้ ว่า ไปเพื่อตอกย้ำจุดยืนของฝ่ายไทยและหาทางออกให้กับความขัดแย้ง สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทางการไทยมีหนังสือถึงยูเอ็นเอสซีไปแล้ว 2 ฉบับ ทั้งนี้ทางการไทยเคยทำหนังสือชี้แจงมาแล้วหลายครั้ง นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะกันในปี 2551 ทางการไทยประสานยูเอ็นเอสซีหลังจากการหารือนอกรอบกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเห็นพ้องกันต่อการใช้เวทีดังกล่าว โดยยูเอ็นเอสซีจะนำข้อมูลไปประมวลเพื่อสรุปอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับใน การประชุมจะประกอบด้วย ประธานยูเอ็นเอสซี ประธานอาเซียน รมว.ต่างประเทศของไทยและกัมพูชา ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศในการให้ข้อมูล

เขมรโต้ใช้ปราสาทตั้งฐาน

ทาง ด้านอินเตอร์ ซิตี้ เพรสส์ องค์กรสื่อที่ไม่แสวงหาผลกำไรในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่ายูเอ็นเอสซี มีมติเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่าจะจัดประชุมว่าด้วยการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างกัมพูชา-ไทย วันที่ 14 ก.พ. นี้ โดยเชิญอินโดนีเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เข้าร่วมประชุมด้วย นายมาร์ตีย์ นาตาเลกาวา รมว.ต่างประเทศอินโดนีเซีย จะเป็นผู้แทนของอินโดนีเซีย การประชุมดังกล่าวตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของฮุนเซน นายกฯกัมพูชาที่ขอให้ยูเอ็น เข้าแทรกแซงข้อพิพาท ขณะที่นายกฯของไทยยืนยันว่าความขัดแย้งควรแก้ไขบนพื้นฐานของทวิภาคี

ด้าน นายบัน คีมูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า ตนหารือกับนายกฯของทั้งสองประเทศแล้ว และเสนอว่ายูเอ็นยินดีช่วยเหลือด้านการเปิดเจรจาเพื่อให้เกิดข้อตกลงหยุดยิง บริเวณรอบเขาพระวิหาร

วันเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ตอบโต้พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบกไทย ที่ระบุว่าทหารกัมพูชาใช้ปราสาทพระวิหารเป็นฐานทหาร พร้อมอาวุธหนักยิงใส่ทหารไทยในพื้นที่ชายแดนไทย โดยย้ำว่าไม่เคยมีทหารบนปราสาทพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตลอดมา มีเพียงตำรวจหน่วยเล็กๆเท่านั้นพร้อมอาวุธเบาเพื่อรักษาความปลอดภัยปราสาท พระวิหาร ดังนั้นข้อกล่าวหาของไทยตามข้างต้นจึงเป็นเพียงข้ออ้างของไทยเพื่อใช้โจมตี ปราสาทพระวิหาร

ขณะที่รัฐบาลกัมพูชาระบุว่า ปราสาทพระวิหารได้รับความเสียหายบางส่วนจนพังลงมา เพราะถูกกองทัพไทยระดมยิงปืนใหญ่ระหว่าง การสู้รบกับกัมพูชาบริเวณพื้นที่พิพาทในวันที่ 3 ของการปะทะ แต่ไม่ได้ระบุว่าเกิดความเสียหายกับปราสาทมากน้อยแค่ไหน

ทบ.แจงเสริมรถถังแค่ซ้อม

เมื่อ เวลา 07.00 น. กองทัพเคลื่อนย้ายรถถัง รุ่น เอ็มซี 48 เอ 5 จากพล.ม.2 รอ. สนามเป้า กทม. และม.พัน 5 รอ. จ.สระบุรี จำนวน 30 คันมาบริเวณอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยชี้แจงว่า เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อฝึกภาคสนามตามปกติประจำทุกปี

นาย ภูมิวดี มีสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พช.) จ.ยโสธร พร้อมคณะเดินทางไปเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวพลทหารสงกรานต์ ทองชมพู ที่ถูกทหารกัมพูชาจับตัวไปแล้วปล่อยกลับมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ. พร้อมมอบเงินสงเคราะห์เบื้องต้น 2,000 บาท ให้กับนายคอลเกต นางวิไล ทองชมพู พ่อแม่พลทหารสงกรานต์ ที่บ้านป่าชาด หมู่ที่ 9 ต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร นางวิไลกล่าวว่า คืนนี้จะเชิญคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านมาทำพานใบตองกล้วยไว้สำหรับทำพิธีบายศรี สู่ขวัญลูกชาย และจัดงานทำบุญเลี้ยงพระเณรเพื่อเสริมสิริมงคลให้คนในครอบครัวได้อยู่เย็น เป็นสุข เตรียมหัวหมู ไก่ต้ม อาหารคาวหวานเพื่อนำไปเลี้ยงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านป่าชาดให้ความเคารพ นับถือที่บริเวณเจ้าปู่ดอนปู่ตาท้ายหมู่บ้าน

ต้านพธม.มากันทรลักษ์

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังกลุ่มพันธมิตรประกาศจะเดินทางมาแจกจ่ายข้าวของเครื่องใช้แก่ชาวบ้าน ที่อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่ากลุ่มชาวบ้านกว่าร้อยคน นำโดยนายวิสิทธิ ดวงแก้ว อายุ 41 ปี เดินขบวนชูป้ายผ้าเขียนข้อความต่อต้านกลุ่มพันธมิตร ไม่ต้องการให้เข้ามาในพื้นที่เพราะเกรงจะเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้นมา ชาวบ้านอยากอยู่อย่างสงบเหมือนเมื่อก่อน กลุ่มพันธมิตรอย่ามาทำให้คนในพื้นที่เดือดร้อน

เมื่อเวลา 11.00 น.ที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลเบญจลักษ์ อ.เบญจลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ดร.ปัญญา แก้วกียูร ที่ปรึกษาสพฐ. เป็นประธานเปิดศูนย์การจัดการเรียนรู้แก่นักเรียนที่รับผลกระทบจากการต่อสู้ ตามตามแนวชายแดนไทย?กัมพูชา ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีนักเรียนที่ติดตามผู้ปกครองมาทั้งสิ้น 15 โรงเรียน จำนวน 122 คน

ทยอยจากศูนย์อพยพกลับบ้าน

ส่วนที่ศูนย์อพยพ ชั่วคราวโรงเรียนน้ำขุ่นวิทยา อ.น้ำขุ่น จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านที่อพยพหนีภัยการสู้รบจเริ่มทยอยกลับภูมิลำเนา จำนวนผู้อพยพจากเดิมมากกว่า 5,000 คนลดลงเรื่อยๆคงเหลืออยู่ประมาณ 500 คน โดยชาวบ้านที่ยังเหลืออยู่เป็นชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดปะทะระหว่างทหาร ไทย-กัมพูชามากที่สุด จึงยังกลัวไม่ปลอดภัย ยังคงพักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพต่อไป

สังฆราชประทานจีวร-หมากพลู

วัน เดียวกันพระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เปิดเผยว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงห่วงใยพระภิกษุและประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยในอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงโปรดให้พระเทพสารเวที ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้แทนพระองค์ ประทานผ้าไตรจีวร แก่พระสงฆ์ที่พำนักในพื้นที่ ซึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อน พร้อมประทานหมาก พลู แก่ผู้สูงอายุ ในศูนย์อพยพ

บิ๊กกองทัพร่วมงานศพทหารกล้า

เมื่อเวลา 12.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.มหาดไทย พล.อ.กิตติพงษ์ เกษ โกวิท ปลัดกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสธ. ทบ. เดินทางไปร่วมเคารพศพ ส.อ.ธนากร เพิ่มพูน ทหารกล้าที่เสียชีวิตจากการปะทะกับทหารเขมร ที่วัดโนนไหล่ ต.เสียว อ.เบญจลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมดเข้าวางพวงหรีดหน้าหีบศพคลุมด้วยธงไตรรงค์ ก่อนพล.อ.ประวิตรจะจุดธูปเทียนเคารพศพ วางพวงมาลัยที่ขันรดน้ำศพ และนำนายทหารกว่าร้อยนายรดน้ำศพ

จากนั้นมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ส.อ. ธนากร พร้อมชื่นชมในความกล้าหาญ และกล่าวยกย่องเป็นทหารกล้า ยอมสละชีพเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ โดยเฉพาะส.อ.อดิศักดิ์ พูนเพิ่ม น้องชาย ส.อ.ธนากร ปัจจุบันเป็นทหารปืนใหญ่ลพบุรี ถูกส่งไปช่วยราชการหน่วยฉก.จ.นรา ธิวาส จะดำเนินการส่งตัวกลับมาค่ายสรรพประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อดูแลนายบัวลา และนางสมัย พูนเพิ่ม บิดามารดา และครอบครัว

นาย บัวลา อายุ 54 ปี บิดากล่าวทั้งน้ำตาว่า "ประมาณ 10 โมงเช้าวันเกิดเหตุ เขาโทรศัพท์มาพูดคุยบอกว่าอยากให้น้องชายมาอยู่กับพ่อแม่ บอกว่าเขายังไม่สามารถกลับบ้านได้ แต่ไม่ต้องห่วงจะส่งเงินมาให้ เขาพูดไปหัวเราะไป ก็แปลกใจว่าทำไมต้องหัวเราะ เพราะปกติเป็นคนที่จริงจังมากๆ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้พูดคุยกัน"

สลดเมียตั้งท้อง 2 เดือน

ด้าน นางธันยาภัทร์ ชนินทร์วลัย อายุ 31 ปี ภรรยาส.อ.ธนากร กล่าวทั้งน้ำตาเช่นกันว่า เฝ้าดูอาการสามีกระทั่งสิ้นลมหายใจเวลา 13.10 น. เมื่อวานนี้ ก่อนหน้านี้เคยฝันว่าสามีอยู่แนวหน้า ในฝันเห็นรองเท้าสวยมาก เมื่อเข้าไปหยิบ รองเท้ากลับลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า จึงเข้าใจว่าจะได้เลื่อนยศ เพราะในเดือนต.ค.นี้ สามีเตรียมสอบเลื่อนยศเป็นจ่า แต่ยังไม่ทันสอบก็เสียชีวิตก่อน เสียใจที่บ้านที่สร้างร่วมกันมาใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพิ่งเสร็จสามีก็มาด่วนจากไปโดยที่ไม่เคยได้เข้ามาอยู่เลย

"ตอนนี้ ท้องได้ประมาณ 2 เดือน ไม่มีงานทำประจำ ผบ.ทบ. รับปากว่าจะหาทางช่วยเหลือ อยากบอกกับสามีว่ารู้ว่าพ่อเหนื่อยมากแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อทำ แม่จะสานต่อเอง ส่วนพ่อแม่จะดูแลเหมือนเดิม ขอให้พ่อหลับให้สบาย ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น" นางธันยาภัทร์ กล่าว

ผู้แทนพระองค์มอบถุงยังชีพ

เมื่อ เวลา 10.30 น. นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย ผู้แทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เดินทางมามอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 100 ครัวเรือน ที่โรงเรียนสิริขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะ เกษ จากนั้นไปมอบต่อที่ศูนย์วัดป่าเบญรักษ์ อ.เบญจลักษณ์ จำนวน 300 ครัวเรือน

"จำลอง"จะพาม็อบไปลานพระรูป

ส่วน การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าผู้ชุมนุมบางตา พิธีกรบนเวทีกำชับผู้ชุมนุมเตรียมความพร้อม หากมีการสลาย หลังรัฐบาลประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง

เวลา 10.00 น. ที่ด้านหน้ากระทรวงศึกษาฯ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร พร้อมด้วย นายประพันธ์ คูณมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตร ร่วมกันแถลงข่าว พล.ต. จำลอง กล่าวว่า วันที่ 11 ก.พ. เวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรจะเคลื่อนไปยังลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อถวายบังคมสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อรำลึกถึงพระคุณท่าน ยืนยันว่าเมื่อถวายกราบบังคมเสร็จแล้ว จะไม่ไปไหนต่อ หรือแม้แต่บริเวณรัฐสภา ที่จะลงมติแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่ต้องกลัว จะไม่บุกไปที่รัฐสภาแน่นอน นอกจากนี้ในวันเดียวกันจะจัดคาราวานไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือด ร้อนที่ชายแดนไทยกัมพูชา และนำอาหารไปมอบให้ทหาร

เมินพ.ร.บ.-ไม่เปิดถนน

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เราจะชุมนุมจนกว่านายกฯ จะออกมาทำหน้าที่ตามข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ ที่ผ่านมาให้โอกาสนายกฯ มานาน แม้จะประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง หรือจะใช้กฎหมายใด ก็จะชุมนุมต่อเช่นเดิมไม่ออกไปไหน ถ้าจะคิดมาสลาย หรือมาจับก็เชิญ เชิญมาสลายได้ทุกนาที ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาเจรจากับเราว่าขอให้เปิดพื้นที่จราจรได้หรือไม่ ยืนยันไปว่าไม่ได้ เพราะเราออกมาทำหน้าที่ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียดินแดน ถ้าจะทำให้ผู้สัญจรไปมา ทำให้รถติดเสียเวลาไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะดีกว่าเสียดินแดน และการชุมนุมนี้จะแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้จะเหมือนกับการเสียดินแดนให้กับประเทศกัมพูชา

ส่วนที่เต็นท์ เครือข่ายกลุ่ม คนไทยหัวใจรักชาติ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำ แถลงว่า กรณีรัฐบาลประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง ภายใน อาทิตย์นี้เราจะฟ้องศาลปกครอง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่ง เพราะถือว่าชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ ส่วนการเคลื่อนไหววันที่ 11 ก.พ. เครือข่ายจะเคลื่อนไปไหนหรือไม่นั้น จะประเมินและประกาศความชัดเจนอีกทีในวันที่ 11 ก.พ. เวลา 09.00 น. ว่าจะเคลื่อนไปที่ไหนหรือไม่ ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือนายวีระ และนางราตรี เราขอปฏิเสธการดำเนินการผ่านศาลประเทศกัมพูชา โดยต่อไปจะเดินหน้า อาศัยกลไกระหว่างประเทศ ก้าวแรกจะยื่นเรื่องต่อข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชา ชาติ เพื่อให้บุคคลทั้ง 2 ได้รับอิสรภาพ

ยึกยักไม่ร้องศาลปกครอง

ขณะ ที่การชุมนุมช่วงค่ำ มีผู้ชุมนุมมาฟังการปราศรัยประมาณ 1,000 คน ส่วนที่ด้านหน้ากระทรวงศึกษาฯ พล.ต.จำลอง นายปานเทพ และนายประพันธ์ ร่วมกันแถลงอีกครั้ง นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องประกาศขอพื้นที่คืนของรัฐบาล ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากรัฐบาล ถ้ารัฐบาลจะขอพื้นที่คืน ควรทำหนังสือมาอย่างเป็นทางการ เพื่อจะได้รู้ว่าใครเป็นผู้สั่งการหรือรับผิดชอบ เช่น นายกฯ หรือ ผบ.ตร. และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบทางกฎหมาย ส่วนการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง กรณีประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง เดิมจะยื่นฟ้องวันที่ 10 ก.พ. แต่จากการลงมติของคณะกรรมการรวมพลังปกป้องแผ่นดิน เห็นว่าจะยังไม่ยื่นร้องศาลปกครอง ต้องรอความชัดเจนจากเนื้อหาในพ.ร.บ.ว่ามีมาตรการไหนกระทบต่อผู้ชุมนุมบ้าง หากพบจึงฟ้องร้องศาลปกครองทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ยังไม่ยื่นฟ้อง เนื่องจากขั้นตอนการประกาศถูกต้องตามกฎหมายใช่หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ยืนยันว่าขั้นตอนการออกไม่ถูกต้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหาย และรัฐบาลยังไม่มีมาตรการอะไรออกมา หากรัฐบาลประกาศใช้แล้วมีผู้เสียหาย เราสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้

ด้านนายประพันธ์ กล่าวว่า เชื่อว่าตำรวจไม่กล้าสลายพวกเรา ตนพูดคุยกับตำรวจไม่สลายแน่เพราะเข็ดจากครั้งก่อน จากกรณีถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

ตร.ขีดเส้นต้องเปิดถนน

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกันพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. 1 เข้าเจรจากับแกนนำพันธมิตรเพื่อแจ้งให้ทราบว่า จำเป็นต้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเปิดถนนบางส่วน เพื่อให้ประชาชนใช้เป็นเส้นทางสัญจรตามปกติ เพราะตั้งแต่มีการชุมนุมได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน และนักเรียนที่ใช้เส้นทางอย่างมาก โดยจะให้เวลาแกนนำพูดคุยตกลงกันก่อน แล้วจะมารับฟังผลในวันที่ 10 ก.พ. หากยังไม่ยอมเปิดเส้นทางเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย

 

ที่มา ข่าวสด

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 1857

แสดงความคิดเห็น โดย ตนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 10 ก.พ. 54 เวลา 12:02:26
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี