หน้าแรก | ลงโฆษณาฟรี l หางาน l คอมพิวเตอร์ l เว็บบอร์ด | ตลาดออนไลน์ | อัตราค่าลงโฆษณา
www.cmprice.com เว็บไซต์ของฅนเชียงใหม่ เครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!

หน้าแรก » เว็บบอร์ด
รวมกระทู้ทั้งหมด
เว็บบอร์ด » รวมกระทู้ทั้งหมด
กระทู้ที่ตอบกลับล่าสุด | สร้างกระทู้ใหม่ | ดูกระทู้ทั้งหมด | ค้นหากระทู้ :
“อนุทิน” แจง 2เดือนหลังปลดล็อค ผู้ป่วยลด กัญชาเพื่อสุขภาพได้ผล พร้อมเข้าเฟสสองพืชเศรษฐกิจ หลายชาติจ่อเดินตามไทย

แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV
“อนุทิน” แจง 2เดือนหลังปลดล็อค ผู้ป่วยลด กัญชาเพื่อสุขภาพได้ผล พร้อมเข้าเฟสสองพืชเศรษฐกิจ หลายชาติจ่อเดินตามไทย
โพสต์โดย คนข่าว , วันที่ 17 ส.ค. 65 เวลา 11:58:48 IP: Hide ip    


กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ
จาก cmprice.com
VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน


 

© เนื้อหาข่าว/กระทู้

 

17 สิงหาคม 2565 เวลา 9.40 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในพิธีเปิดงาน “Meet the Press: กัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และเศรษฐกิจ” จัดโดยกรมประชาสัมพันธ์ ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพ ว่า

ขณะนี้เป็นเวลาสองเดือนกับอีกหนึ่งสัปดาห์หลังการปลดล็อคกัญชา ตนสามารถมารายงานสื่อให้ได้ทราบถึง “ความคืบหน้า” ในเฟสแรก คือการใช้กัญชาทางการแพทย์สร้างสุขภาพ และเฟสที่สอง คือการส่งเสริมพืชกัญชงกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจ รวมถึงประโยชน์ที่จะเกิดในอนาคต พร้อมเผย รัฐมนตรีมาเลเซียเตรียมเดินทางมาไทยเพื่อศึกษาดูงานกัญชา เตรียมดำเนินนโยบายกัญชาทางการแพทย์ หลังจากหลายประเทศได้เดินหน้าไปแล้ว ล่าสุดเยอรมันเตรียมออกกฎหมายกัญชาเสรี หวังสร้างเศรษฐกิจ กำจัดตลาดมืด 

โดยนายอนุทินยืนยันว่า “นโยบายกัญชาเสรีเพื่อสุขภาพและการแพทย์” ของกระทรวงสาธารณสุขนั้น จนถึงตอนนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบ ต่อสังคม อย่างที่หลายฝ่ายกังวลกัน ตรงกันข้าม ภายหลังการปลดล็อคซึ่งมีผลเมื่อ 9 มิถุนายน ปีนี้นั้น รายงานข้อมูลจากกรมการแพทย์ มีตัวเลขชี้ว่า  จำนวน “ผู้ป่วยที่มีภาวะพิษเฉียบพลัน จากการใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา” มีแนวโน้มลดลง 

จากการบันทึก ณ ห้องฉุกเฉินระหว่าง วันที่ 6 มิถุนายน -16 สิงหาคม 2565 สะสมรวมทั้งประเทศมี 60 คน และมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ สาเหตุเพราะประชาชนมีความรู้ความเข้าใจการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขเรามีการตั้ง คณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เขามีการรณรงค์ปูพรม“ประชาสัมพันธ์การใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างถูกต้อง” ไปทั่วประเทศ 

นายอนุทินกล่าวว่า ยิ่งไปกว่านั้น หลังการปลดล็อค มีการเปิดใช้แอพลิเคชั่น “ปลูกกัญ” ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเหมาะสม โดยมีประชาชนเข้าไปใช้งานเกือบ “45 ล้านครั้ง” ภายในระยะเวลาสองเดือน และนับถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีผู้ลงทะเบียนกว่าหนึ่งล้านคน โดยเป็นการออกใบรับจดแจ้งกัญชาเป็นส่วนใหญ่ “เก้าแสนกว่าใบ” และมีการออกใบรับจดแจ้งกัญชงจำนวนกว่าสามหมื่นใบ 

นั่นหมายความว่า มีประชาชนจำนวนมหาศาลครับ ที่เข้าถึงข้อมูล “การใช้กัญชาอย่างถูกวิธี” ซึ่งอาจเป็นคำอธิบายว่าทำไม จำนวนคนที่ต้องเข้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลเพราะการใช้กัญชา จึงลดต่ำลงเรื่อยๆ 

นายอนุทินให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตามสถิติที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนการปลดล็อค ตั้งแต่ที่ยังอยู่ในบัญชียาเสพติด สิ่งที่ทำร้ายสุขภาพคนไทยไม่ใช่กัญชา แต่เป็นยาบ้า โดยในปีที่แล้ว ผู้ป่วยที่ต้องบำบัดรักษายาเสพติดจากยาบ้ามีถึง79.2% ในขณะที่ผู้เสพกัญชาจนต้องบำบัดมี 4.21% และยังจะลดลงได้เรื่อยๆ เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง 

“ความกลัวหรือวิตกกังวลในบางระดับนั้น ไม่ได้สมเหตุสมผล และบ่อยครั้งก็เกิดจากการปั่นกระแสกันด้วยความตั้งใจบ้าง ไม่ตั้งใจบ้าง ด้วยเป้าหมายต่างๆนานา” นายอนุทินกล่าว 

อย่างไรก็ดี นายอนุทินย้ำว่า หากเป็นการกระทำที่ผิดและอาจเป็นโทษก็มีกฎหมายดูแล กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข 4 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมการใช้กัญชาในหลายรูปแบบ ได้แก่ 

•ห้ามสูบกัญชาในที่สาธารณะ 

•ห้ามจำหน่ายกัญชาซึ่งเป็นพืชสมุนไพรควบคุม ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร 

•ห้ามใช้ช่อดอกปรุงอาหาร  

•ร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ใส่กัญชา ต้องติดป้ายแสดงสัญลักษณ์ และ ให้ข้อมูลแก่ผู้บริโภค 

หากฝ่าฝืน มีโทษทั้งจำและปรับตามกฎหมายครับ ขณะที่ร่าง พรบ.กัญชากัญชง ก็กำลังจะผ่านสภา

นายอนุทินกล่าวเสริมว่า ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข “ผมใช้เวลา 2 ปี ผลักดันให้โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข มากกว่า 200 แห่ง มี “คลินิกกัญชาทางการแพทย์” ​  เพื่อให้ประชาชนได้รับยากัญชาที่มีคุณภาพ และปลอดภัย ทั้งจากแพทย์แผนปัจจุบัน และ แพทย์แผนไทย”   

โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศผลการศึกษาวิจัย ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ไว้ 6 ข้อได้แก่ 

1.ลดภาวะคลื่นไส้อาเจียนจากเคมีบำบัด  

2.รักษาโรคลมชักที่รักษายากในเด็ก และโรคลมชักที่ดื้อต่อยารักษา 

3.ลดภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยโรคปลอกประสาทแข็ง 

4. ลดภาวะปวดประสาทส่วนกลาง  

5.ลดภาวะเบื่ออาหารในผู้ป่วยเอดส์ ที่มีน้ำหนักตัวน้อย  

6. เพิ่มคุณภาพชีวิต ในผู้ป่วยที่ได้รับการดูแล แบบประคับประคอง  

ซึ่งนโยบายกัญชาทางการแพทย์ที่เกิดขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการรักษาตัวของประชาชน และลดการนำเข้ายาเคมีจากต่างประเทศได้  

ขณะนี้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร มีแผนการวิจัยยากัญชาเพื่อมาทดแทนยานอนหลับ ปัจจุบันคนไทยประสบปัญหานอนไม่หลับ ถึง 19 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของประชากรไทย หากพัฒนาสำเร็จ จะลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศ และเพิ่มโอกาสส่งออก เพราะปัญหานอนไม่หลับเป็นปัญหาสุขภาพของคนทั่วโลก และตลาดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเรื่องการนอนหลับ มีมูลค่าสูงถึง 2.4 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นโอกาสทางธุรกิจของกัญชาทางการแพทย์​ ของประเทศไทย 

โดยก่อนหน้านี้ นายอนุทินได้ชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่า สัปดาห์หน้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาเลเซีย ซึ่งได้ประกาศนโยบายที่จะใช้กัญชาทางการแพทย์ในมาเลเซีย  จะมาเข้าพบและขอดูงานกัญชาทางการแพทย์ของประเทศไทย  โดยมีความคิดจะใช้เป็นต้นแบบการพัฒนากัญชาทางการแพทย์ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่ารัฐบาลไทยเดินมาถูกทางแล้ว    

เมื่อมองกัญชาในฐานะพืชเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีอนาคต และมีความต้องการมากทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลก นายอนุทินกล่าว พร้อมให้ข้อมูลว่า อธิการบดีและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้ข้อมูลว่าได้มีการประเมินมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมกัญชา 

โดยจากการประมาณการณ์พื้นที่เพาะปลูกกัญชง-กัญชา ล่าสุด ณ เดือนเมษายน 2565 ประเทศไทย มีพื้นที่เพาะปลูกกว่า 7,500 ไร่ มีมูลค่าตลาดของอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ รวมกว่า 28,000 ล้านบาท 

ซึ่งผลิตภัณฑ์ต้นน้ำ ก็คือ ส่วนต่างๆของต้นกัญชา ผลิตภัณฑ์กลางน้ำจะมีสารสกัด น้ำมันกัญชงกัญชา และเส้นใยกัญชง ส่วนผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ ก็ได้แก่ ยารักษาโรค อาหารเสริม อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ 

โดยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในช่วง 3 ปีข้างหน้า จะโตได้ 10-15% มีมูลค่าสูงถึง 42,800 ล้าน  โดยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ จะเติบโตเร็วกว่าปัจจุบัน 

นอกจากนี้ มีรายงานว่าทางนายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมกัญชงไทย (Thai Industrial Hemp Trade Association: TIHTA) ก็เคยให้ข้อมูลไว้ว่า นโยบายกัญชาเสรีฯนี้ จะช่วยเปิดทางให้กัญชา และกัญชงของไทยสามารถออกไปช่วงชิงส่วนแบ่งในตลาดโลก ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.039 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือราว3.53 ล้านล้านบาท) ในปี 2567 ตามรายงาน The Global Cannabis Report ของ Prohibition Partners ซึ่งเป็นองค์กร ที่ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมกัญชา อย่างถูกกฎหมาย ทั่วโลก 

ขณะเดียวกัน ตลาดกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง คือประมาณ 26% ต่อปี มีมูลค่าประมาณ 2,700 ล้านบาท และคาดว่าจะโตได้ถึง 40,000 ล้านบาท ภายในปี 2570

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขย้ำว่า ตลาดโลกสำหรับผลิตภัณฑ์กัญชาจะมีแต่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีลด เพราะมีประเทศจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆกำลังทยอยปลดล็อคกัญชาเช่นเดียวกับไทย 

โดยล่าสุดคือเยอรมัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการเพื่อออกกฎหมายกัญชาเสรีตามที่รัฐบาลผสมได้ประกาศเป็นนโยบายไว้ แต่ของเยอรมันจะให้ใช้เพื่อนันทนาการด้วย เพราะถือว่าทุกวันนี้ประชาชนก็ใช้กันอยู่แล้ว การนำขึ้นมาให้เป็นสิ่งถูกกฎหมายจะทำให้ควบคุมคุณภาพได้ ประชาชนปลอดภัยขึ้น และตัดทางทำมาหากินของพวกตลาดมืดด้วย 

ซึ่งจากการที่ตลาดโลกเปิดมากขึ้น นัยยะสำหรับประเทศไทย ก็คือคนไทยจะมีตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์กัญชาขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น และมีการคาดการณ์ว่าเมื่อเยอรมันปลดล็อคแล้ว ประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรปก็จะทยอยดำเนินรอยตามหลังจากบางประเทศอย่างลักเซมเบิร์กได้บุกเบิกไปก่อนแล้ว ในขณะที่เดนมาร์คก็มีนโยบายกัญชาทางการแพทย์ครบวงจร     

ก่อนหน้านี้แคนาดา ซึ่งเป็นต้นแบบประเทศกัญชาเสรีที่ประกาศให้กัญชาถูกกฏหมายเมื่อสี่ปีก่อน ได้สร้างตลาดมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านยูโรต่อปีให้ประเทศมาแล้ว “ใครมาก่อนได้ก่อนนะครับ ใครกล้าตัดสินใจ ใครลงทุนก่อน ก็จะได้ตลาดไปก่อน” นายอนุทินย้ำถึงความสำคัญของพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ 

ในช่วงท้ายของพิธีเปิดงาน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันสร้างเสริมความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนด้วย

ที่มา: เพจอนุทิน ชาญวีรกูล

 


Copy Link : ท่านสามารถ copy ลิงค์ของข่าวนี้เพื่อเผยแพร่ต่อได้
แชร์หน้านี้ ไปยัง facebook ตอบกลับกระทู้นี้ VV กดถูกใจกระทู้นี้ VV


ลิงก์ผู้สนับสนุน

ลิงก์ผู้สนับสนุน

 

 

 

 

 



แจ้งลบกระทู้นี้

อ่าน 160

แสดงความคิดเห็น โดย คนข่าว IP: Hide ip , วันที่ 17 ส.ค. 65 เวลา 11:58:48
 

 

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 

 
กรุณาอ่าน
ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บบอร์ดไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถ ระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใด ที่ขัดต่อกฎหมายและ ศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ 08-0500-1180 เพื่อให้ผู้ควบคุม ระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป
 
 
 


ปิดโฆษณานี้X

ผ้าพันคอราคาถูก

ปิดโฆษณานี้X

จำหน่าย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าฝ้ายทอมือ ราคาส่ง ราคาถูก เริ่มต้นที่ 25 บาท/ผืน ผลิตจากผ้าฝ้ายแท้ 100%โซ่สเตอร์และวงล้ออลูมิเนียม ดี.ไอ.ดี ถูกผลิตขึ้นโดยเทคโนโลยีของประเทศญึ่ปุ่น และส่งไปยังผู้ประกอบการรถมอเตอร์ไซค์ทั่วโลกเครื่องฟอกอากาศ pm2.5 Oxygen สุดคุ้ม ราคาถูก 1,490 ลำพูน-เชียงใหม่ ส่งฟรี!
www.cmprice.com เว็บไซต์ที่คนเข้าชมมากที่สุดในเชียงใหม่ !!! เห็นชัด เห็นบ่อย ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพียง 1500 บาทต่อเดือน
สนใจลงโฆษณาตรงนี้ ติดต่อ 080-500-1180

 


หน้าแรก l หางานเชียงใหม่ | ตลาดออนไลน์ | เว็บบอร์ด | อัตราค่าลงโฆษณา | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี | ติดต่อเรา


เพื่อนบ้านเราทั้งหมด วิธีแลก Link

© cmprice.com since 14 Jan 2005
E-mail: info@cmprice.com
FaceBook : facebook.com/cmprice.fc
TEL. 08-0500-1180
Line id: cmprice









www.cmprice.com ที่นี่มีสิ่งดีๆ รอคุณอยู่
ผู้สนับสนุน แบบพิเศษ

บ้านหนองช้างคืน | เครื่องฟอกอากาศ เชียงใหม่-ลำพูน | ผ้าพันคอราคาถูก | ของชำร่วย | ลงโฆษณาฟรี ประกาศฟรี