• สนธิ ลั่นไม่มักใหญ่ใฝ่สูง อ้างประชาธิปไตยเต็มตัว-ย้อนเกล็ดใครคือเผด็จการตัวจริง |
โพสต์โดย กรรมกรข่าว , วันที่ 19 ก.ค. 50 เวลา 09:43:25 IP: Hide ip |
กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
ประธาน คมช.แต่งตัวใหม่ประกาศเป็นนักประชาธิปไตยเต็มร้อย ทุกฝ่ายต้องตรวจสอบว่า ใครคือเผด็จการ ใครคือผู้รักษาประชาธิปไตย ทั้งนี้เชื่อว่าตัวเขาเป็นผู้รักษาประชาธิปไตย โดยหลังจากเข้าทำการปฏิรูปการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ได้คืนอำนาจให้ฝ่ายบริหารภายในเวลา 12 วัน และไม่ได้ต้องการปฏิวัติ เพื่อมาเป็นผู้นำประเทศเสียเอง อีกทั้งยังเร่งให้การร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวเสร็จเร็วที่สุดพล.อ.สนธิ กล่าวระหว่างบรรยายพิเศษต่อกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมงานสัมมนาเรื่องการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์กับความมั่นคงของประเทศที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทคว่า คนใกล้ชิดทราบดีว่าเขาไม่ใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูงไม่ต้องการเป็นอะไร นอกจากเป็นทหาร มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน แต่เมื่อมีคนคิดนอกเหนือจากนี้ ทำให้ทหารอึดอัดจึงต้องตัดสินใจปฏิรูปการปกครอง “หลายคนอาจบอกว่า ผมเป็นนักปฏิวัติ รัฐประหาร แต่ด้วยความสัตย์จริง ผมยืนยันว่า ไม่ใช่ พล.อ.สนธิ สิ่งที่ทำไปเพื่อความสงบ ความสามัคคีและความเป็นปึกแผ่นของประเทศ ถ้าการตัดสินใจวันนั้นผิดพลาด ผมมีอยู่ 2 สถานะคือ ถูกประหารชีวิต หรือถูกจำคุกตลอดชีวิต ถามว่าใครอยากเสี่ยงกับเรื่องเหล่านี้” ประธาน คมช.กล่าว พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ความขัดแย้งทางการเมืองในขณะนี้เป็นปัจจัยสูงสุด และเป็นภาระที่รัฐบาล และ คมช.ได้ประสานการทำงานและช่วยกันแก้ปัญหาความขัดแย้ง โชคดีที่เวลานี้ข้าราชการจับมือกัน เพื่อสร้างความรักความผูกพันในชาติ หากเกิดขึ้นได้การเมืองจะนิ่งและปัญหาความขัดแย้งจะหมดไป พล.อ.สนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองไม่ถูกตัดสิทธิ์ลงเล่นการเมือง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา เนื่องจากมีความเข้าใจผิดในเรื่องผู้มีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่งเข้าใจว่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ จ.ลพบุรี แต่ปรากฏว่าชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านที่ จ.ยะลา อย่างไรก็ตามได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งแล้ว โดยยืนยันว่ากรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการลงเล่นการเมือง อย่างไรก็ตาม พล.อ.สนธิ ยังคงย้ำว่าขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ ด้านความเคลื่อนไหวจากกลุ่มต่างๆ ที่ออกมาคัดค้านร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า คณะร่าง พ.ร.บ.มั่นคงฯ มองถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมือง ทั้งนี้เมื่อผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หากพบประเด็นไหนมีปัญหาก็ตัดออกไปได้ ส่วนจะทันสภานี้หรือไม่นั้น ไม่ติดใจอะไรขึ้นอยู่กับการพิจารณา นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ สามารถใช้เป็นประโยชน์ได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีโทษเหมือนปืนที่ไม่มีเซฟ หรือดาบที่ไร้ฝัก “ผมขอเสนอให้ผู้ที่ใช้อำนาจต้นทางเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.รมน.) เพราะตามร่างกฎหมาย ผู้ปฏิบัติจะไม่ได้รับผิดทั้งทางแพ่ง อาญาและทางวินัย หากเป็นนายกฯ ซึ่งถือว่ามาจากการเลือกตั้งอย่างน้อยจะต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง” นายนิกร กล่าว นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า อยากให้รัฐบาล และ คมช.ยับยั้งร่างดังกล่าวไว้ก่อน และให้ตั้งคณะกรรมการศึกษารับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย โดยร่วมกันจัดทำแผนแม่บทด้านการรักษาความมั่นคงภายในก่อน นายสุริยะใส กล่าวว่า ขณะนี้ไทยยังไม่มีแผนแม่บทที่จัดทำร่วมกันของทุกฝ่าย มีเพียงของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เท่านั้น ทำให้ภาระของการแก้ปัญหาความมั่นคงไปตกอยู่ที่กองทัพ ทั้งที่รูปแบบปัญหาหรือภัยที่กระทบต่อความมั่นคงเกี่ยวโยงกับพลเรือน จึงควรให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับผิดชอบมากขึ้น ที่มาจาก ข่าวจาก เอมไทยดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|
แจ้งลบกระทู้นี้
อ่าน 1236 |
|
แสดงความคิดเห็น |
โดย กรรมกรข่าว
IP: Hide ip
, วันที่ 19 ก.ค. 50
เวลา 09:43:25
|