กด like เพื่อติดตามข่าวสารดีๆ จาก cmprice.com VVVVVV
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
© เนื้อหาข่าว/กระทู้
กรณีบริษัทไทยศิลป์อาคเนย์ อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว 38 ถนนกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ทำกิจการตัดเย็บเสื้อผ้าชุดกีฬาส่งออกให้กับแบรนด์ดังๆ หลายยี่ห้อ อาทิ ไนกี้ และอาดิดาส ประกาศปิดกิจการเอาดื้อๆ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา อ้างว่าประสบภาวะขาดทุนจากพิษเงินบาทแข็งค่าและลูกค้าระงับออเดอร์โดยไม่แจ้งล่วงหน้าให้ พนักงานทราบ ทำให้พนักงานกว่า 5,000 คน ออกมารวมตัวปิดถนนกิ่งแก้ว-ลาดกระบัง ชุมนุมประท้วง ต่อมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเจรจารับปากจะหาออเดอร์และแหล่งเงินกู้เพื่อช่วยฟื้นฟูกิจการ ทำให้ผู้ประกอบการยอมเปิดโรงงานรับคนงานเข้าทำงานอีกครั้ง ล่าสุดผู้ประกอบการประกาศสั่งปิดโรงงานอีกครั้ง โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่องไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนมาดำเนินกิจการต่อไปได้ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่โรงงานบริษัท ไทยศิลป์อิมพอร์ต เอ็กซ์พอร์ต จำกัด นายพิพรรษ กุลโอภาส เจ้าของโรงงานบริษัทไทยศิลป์ฯ พร้อมนายศักดิ์ดา เทพเจริญนิรันดร์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ได้เรียกพนักงานทั้งหมด 4,000 คน ในจำนวนนี้มีพนักงานโรงงานไทยศิลป์ฯ สาขาสำโรง และสาขาบางปลารวมอยู่ด้วย ไปรวมตัวกันที่โรงอาหารด้านหลังโรงงาน โดยนายพิพรรษกล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแจ้งให้พนักงานทราบว่าที่ผ่านมาโรงงานประสบปัญหาขาดทุน ไม่มีแหล่งเงินกู้ จึงขอประกาศปิดโรงงานตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยจะจ่ายเงินที่ทำงานมาแล้ว 19 วันให้ 50 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้างผ่านทางไทยธนาคารในวันจันทร์ที่ 23 ก.ค.นี้ เนื่องจากไม่มีเงิน ส่วนเงินชดเชยจะจ่ายให้ภายหลัง โดยจะนำเครื่องจักรของโรงงานออกประมูลขาย และนำเงินมาจ่ายพนักงานในทันที สิ้นเสียงประกาศ ปรากฏว่าพนักงานทั้งหมดส่งเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจ แม้ว่านายศักดิ์ดา เทพเจริญนิรันดร์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ จะประกาศยืนยันด้วยว่า ขณะนี้มีตำแหน่งรองรับแล้วถึง 6,000 ตำแหน่ง แต่พนักงานยังไม่พอใจ เพราะไม่แน่ใจว่าทางโรงงานจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามที่รับปาก พร้อมสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ทางโรงงานจ่ายค่าจ้างทั้งหมดในทันที การชุมนุมประท้วงดำเนินไปจนถึงค่ำยังไม่มีเหตุการณ์ อะไรรุนแรง ในขณะที่กำลังตำรวจหน่วยปราบจลาจลกว่า 200 นาย เตรียมพร้อมอยู่บริเวณข้างโรงงานเพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเคลื่อนตัวออกมาปิดถนนทางด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ รมช.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เป็นที่แน่นอนแล้วว่าโรงงานไทยศิลป์ฯจะต้องปิดกิจการลงในวันที่ 20 ก.ค.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากสถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง 50 ล้านบาท ดังนั้น จะทำให้มีคนงานที่เหลือตกค้างอีก 3,000 คน ต้องตกงานลงทันที โดยในวันที่ 20 ก.ค. กระทรวงอุตสาหกรรมรับแจ้งจากสมาคมสิ่งทอ สหพันธ์สิ่งทอแห่งประเทศไทย สมาคมฟอกย้อม จะไปตั้งโต๊ะรับพนักงานทั้งหมดให้ไปทำงานต่อได้ทันที ตั้งวันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นไป สำหรับค่าจ้างที่บริษัทไทยศิลป์ฯยังติดค้างคนงานอีก 3,000 คน จะประสานกับสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อหาเงินกู้เร่งด่วนให้บริษัทไทยศิลป์ฯนำไปจ่ายค่าจ้างโดยเร็วที่สุด ในส่วนของคนงาน 2,000 คน ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้มีงานทำหมดแล้ว นายวิรัตน์ ตันเดชานุรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งทอ กล่าวว่า สถาบันฯจะประสานกับภาคเอกชนด้านสิ่งทอให้รับคนงาน 3,000 คนไปทำงานทั้งหมด แต่หากเป็นคนงานที่มีอายุเกิน 40 ปีขึ้นไป สถาบันฯจะขอรับตัวไปฝึกอบรมทักษะแรงงานให้ใหม่ โดยจะเน้นไปในกลุ่มงานที่ไม่ต้องใช้แรงงานเป็นหลัก เพื่อพัฒนาขีดความสามารถให้เพิ่มมากขึ้น มีรายงานว่าสำหรับสาเหตุที่บริษัทไทยศิลป์ฯ ต้องปิดกิจการลงในครั้งนี้ เกิดจากการขาดสภาพคล่องทางการเงินตั้งแต่ปี 2549 หลังจากที่บริษัทอาดิดาส จำกัด จากสหรัฐฯ ยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าเสื้อผ้ากีฬา ชุดกีฬา จากไทยศิลป์ฯ เมื่อเดือน พ.ค.2549 สาเหตุเกิดจากอาดิดาส ตรวจสอบพบว่าเมื่อเดือน ก.พ.2549 เกิดอุบัติเหตุในกระบวนการผลิตของบริษัทไทยศิลป์ฯ ทำให้คนงานได้รับบาดเจ็บ ซึ่งในหลักการแล้วบริษัทไทยศิลป์ฯ จะต้องรายงานให้อาดิดาสที่สหรัฐฯรับทราบ เพราะอาดิดาส ถือเป็นบริษัทที่เน้นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมตามมาตรฐานสากล หากไม่มีมาตรฐานในเรื่องนี้อาจถูกลูกค้าจากทั่วโลกปฏิเสธการซื้อสินค้า ทำให้อาดิดาสไม่พอใจบริษัทไทยศิลป์ฯเป็นอย่างมาก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้อาดิดาสเคยทำหนังสือเตือนผู้บริหารของบริษัทไทยศิลป์ฯ ให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในโรงงานและกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน แต่ บริษัทไทยศิลป์ฯเพิกเฉยในเรื่องนี้มาโดยตลอด นางภัทราพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ห้างท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต เปิดเผยถึงกรณีกระแสข่าวบริษัทฯ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ประสบปัญหาขาดทุนและเตรียมปลดพนักงานออก 5,000 คน ว่าในส่วนของท็อปส์ขอยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องขาดทุนและไม่มีแผนปลดพนักงานออกด้วย เพราะธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากเป็นการขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต บริษัทฯมีโครงการที่จะขยายสาขาเพิ่มภายในปีนี้อีก 5-10 สาขาทั่วประเทศ และยังมีความต้องการพนักงานเพิ่มในแต่ละสาขาที่มีขนาดแตกต่างกันอย่างน้อย 500-600 คน ปัจจุบันท็อปส์มีสาขาทั่วประเทศ 96 สาขา มีพนักงานกว่า 6,000 คน ดำเนินกิจการค้าปลีก ประสบความสำเร็จมาตลอด ไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดพนักงาน
ที่มาจาก ข่าวจาก เอมไทยดอทคอม
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
ลิงก์ผู้สนับสนุน
|
|
|
|