พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เปิดเผยว่า ได้รับนโยบายเร่งด่วนของ ผบ.ตร. ในการแก้ไขปัญหาการจราจรและปรับปรุงภาพลักษณ์ของตำรวจจราจร ซึ่งสอดคล้องกับการกำหนดยุทธศาสตร์ด้านการควบคุมและจัดการจราจรในพื้นที่ บช.น. ของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผบช.น. จากที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ให้เปลี่ยนมาเน้นในเรื่องของการอำนวยความสะดวกและให้ความรู้ด้านกฎจราจรแก่ประชาชนเป็นหลัก
โดยจัดเป็นโครงการเตือนก่อนจับ คือไม่ให้ใบสั่งแก่ผู้กระทำผิดกฎจราจรทันทีในการทำความผิดครั้งแรก แต่ให้ออกใบว่ากล่าวของพนักงานเจ้าหน้าที่แทน ซึ่งจะใช้เฉพาะในข้อหาการกระทำความผิดเฉพาะตัวใน 4 ประเภทหลัก ดังนี้ คือ เป็นความผิดที่กฎหมายให้อำนาจว่ากล่าวตักเตือนได้ เป็นความผิดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเกิดปัญหาจราจรโดยรวม เป็นความผิดที่ไม่เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ และไม่เป็นความผิดที่จะต้องถูกบันทึกคะแนน เช่น ข้อหาไม่พกพาใบอนุญาตขับขี่ ไม่ติดป้ายแสดงการชำระภาษี เป็นต้น
โดยจะดำเนินโครงการในช่วงเดือน ต.ค.นี้ แบ่งการติดตามผลการปฏิบัติออกเป็น 3 ช่วง คือ ระหว่างวันที่ 11-17 ต.ค., วันที่ 18-24 ต.ค. และวันที่ 25-31 ต.ค. 50 หลังจากนั้นจะมีการประเมินผลการปฏิบัติอีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการดังกล่าว คล้ายกับการออกใบเตือนในช่วง พล.ต.ต.มนตรี จำรูญ รองผบช.น. ในขณะนั้นจัดทำขึ้น แต่กำหนดให้ใช้เพียง 6 ข้อหาเท่านั้น อย่างไรก็ตามข้อหาที่มีการบันทึกคะแนน เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถช้าไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย แซงไม่ปลอดภัย จะต้องมีการออกใบสั่งตามปกติ หรือข้อหาที่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร เช่น จอดรถกีดขวางในเส้นทางที่มีปัญหารถติดขัดอยู่แล้ว เป็นต้น
โดยการทำโครงการนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ก็เพื่อให้ประชาชนที่ทำความผิดได้ตระหนักถึงความ สำคัญในการขับขี่ให้ถูกกฎจราจร และแก้ภาพลักษณ์ที่มักจะมีคนมองว่ามีการจับกุมเพื่อทำยอด
ข้อมูลจาก
ข่าวจาก กระปุกดอทคอม